สำหรับแฟนพันธุ์แท้ซุปเปอร์คาร์ที่ติดตามข่าวมาตลอด คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก Arrinera ซุปเปอร์คาร์พันธุ์ใหม่ที่ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบรถสปอร์ตชาวอังกฤษ Lee Noble ผู้ที่เคยออกแบบสุดยอดรถมากว่า 30 ปี และหนึ่งในนั้นก็คือ Ultima รถต้นแบบที่ใช้ในการทดสอบของ McLaren F1 โดยในปี 1999 เขาได้ก่อตั้งบริษัท Noble Automotive ซึ่งได้ผลิตซุปเปอร์คาร์ที่ออกมาให้เห็นแล้วหลายต่อหลายรุ่นแล้ว ซึ่งล่าสุดก็คือ M600 ที่มีแชสซีส์ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ คู่แข่งตัวสำคัญของ Ferrari F430 โดยมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 ขนาด 650 แรงม้า
หลังจากที่ Noble แยกตัวออกมาจาก Noble Automotive แล้วเขาได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาภายใต้ชื่อ Fenix Automotive โดยปัจจุบันเขาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัท อีกทั้งเขายังได้เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท Arrinera Automotive S.A. ซึ่งเป็นบริษัทลูกครึ่งสัญชาติอังกฤษ-โปแลนด์ที่มีเป้าหมายในการสร้างรถขึ้นมาแข่งกับบริษัทผู้ผลิตซุปเปอร์คาร์รายอื่นอีกด้วย
รถรุ่นแรกที่ผลิตออกมานั้นออกแบบโดย Pavlo Burkatskyy โดยเน้นย้ำถึงความเป็นสปอร์ตซุปเปอร์คาร์ ดูได้จากเส้นสายบนตัวถังและเหลี่ยมมุมต่างๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จึงดูเหมือนลูกผสมระหว่าง Lamborghini Aventador กับยานอวกาศ ที่มีห้องโดยสารเยื้องมาทางด้านหน้าและประตูแบบปีกนกที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับรถจากค่าย Lamborghini อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดอยู่ที่ไฟท้ายแบบ LED ดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่และท่อไอเสียที่ติดตั้งตรงกลางท้ายรถ
ทั้งนี้โครงสร้างตัวถังที่ออกแบบโดย Lee Noble จะมีแต่ละส่วนที่มีความแข็งแกร่งของเหล็กแตกต่างกันไป โดยทางบริษัทฯได้ออกมาคุยว่า รถมีน้ำหนักที่เบามากแต่ยังคงรักษาความแข็งแกร่งทนทานเอาไว้ โดยสามารถเลือกใช้วัสดุภายในห้องโดยสารและพื้นรถให้เป็นคาร์บอนไฟเบอร์หรือเคฟล่าร์ได้
ขุมพลังของ Arrinera นั้นได้มาจาก เครื่องยนต์ V8 แบบวางกลาง ขนาด 6.2 ลิตร โดยสามารถผลิตกำลังได้สูงสุด 650 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 820 นิวตันเมตร บริษัทฯยังได้เปิดเผยอีกว่า รถคันนี้สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 3.2 วินาที และสามารถทำระยะควอเตอร์ไมล์โดยใช้เวลาเพียง 11.0 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 340 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Arrinera ยังมาพร้อมระบบกันสะเทือนช่วงล่างแบบ All-Around Multilink และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว มาพร้อมกับยางคู่หน้าขนาด 255/25 และ 335/30 สำหรับคู่หลัง ในเรื่องของระบบเบรคจะเป็นดิสก์เบรคขนาด 380 และ 350 มิลลิเมตร พร้อมคาลิเปอร์ 6 และ 4 ลูกสูบ สำหรับล้อหน้าและล้อหลัง ตามลำดับ
ภายในห้องโดยสารของ Arrinera จะหุ้มด้วยหนังและวัสดุสังเคราะห์ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์พื้นฐานมาเต็มพิกัด อีกทั้งยังติดตั้งเบาะนั่งพร้อมเข็มขัดนิรภัย 4 จุดและคานเหล็กนิรภัยด้านหลังเบาะเพื่อเพิ่มความปลอดภัยระหว่างการขับขี่ ยังไม่หมดแค่นั้น ตัวรถยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกโดยจะเป็นกล้องไนท์วิชั่นที่สามารถตรวจจับวัตถุที่มีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมทั่วไป เช่น คน หรือ สัตว์ โดยจะนำภาพที่ได้มาแสดงบริเวณหน้าจอที่ติดตั้งอยู่ตรงกลางของคอนโซล
Arrinera จะมีการผลิตขึ้นในประเทศโปแลนด์ โดยขั้นตอนการผลิตจะกินเวลา 12 เดือนเป็นอย่างต่ำ สำหรับราคาค่าตัวของ Arrinera นี้จะเริ่มที่ 100,000 ปอนด์ โดยทาง Arrinera Automotive ยังเพิ่มเติมอีกว่าบริษัทฯมีแผนที่จะผลิตรุ่นที่ 2 ออกมาเร็วๆนี้ โดยจะเป็นรถสไตล์ roadster แบบ 1 หรือ 2 ที่นั่ง ขนาด 200-300 แรงม้า ในราคา 70,000 ปอนด์ โดยจะไม่มีห้องเก็บสัมภาระซึ่งน้ำหนักรถจะอยู่ที่ไม่เกิน 500 กิโลกรัม แต่ยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องขุมพลังที่จะใช้
รายละเอียดทางเทคนิคของ Arrinera
Arrinera Specifications
• Extraordinarily almost-perfect traction throughout the speed range,
• Brake deceleration of 1,1-1,3 g (10,79-12,75 m/s²)
• Power/weight ratio of 1,1-2,9 kg/1HP
• Acceleration 0 - 200 km/h below 10 seconds
• Acceleration 0 - 300 km/h below 30 seconds
• Acceleration to 100 km/h below 4 seconds
• Braking from 300 to 0 km/h below 7 seconds
• The 0-300-0 km/h test below 40 seconds
• Cornering g-force over 1.3 g
• 1/4 mile time below 12 seconds
• Centrally positioned engine
Dimensions and projected technical specifications
Length (mm): 4450
Width (mm): 2056
Height (mm): 1190
Wheel track front (mm): 1594
Wheel track rear (mm): 1744
Wheelbase (mm): 2695
Engine capacity (l): 6.2
Engine: V8
Power (HP): 650
Maximum torque (Nm): 820
Gearbox: Graziano
Weight (kg): 1300
Weight/power (kg/1 HP): 2.0
0-100 km/h: 3.2
0-200 km/h: 8.9
0-200-0 km (s): 14.3
200-0 km/h (m): 133
1/4 mile time (s): 11.0
Max. speed (km/h) : 340
G force in curves (g): 1.3
LINE
เช็กวงเงินใน 3 นาที
ความคิดเห็น