ยอดขาย Chevrolet ทั่วโลกพุ่งสูงกว่า 4.76 ล้านคัน ดันยอดขายรวมในเครือ GM ทะลุ 9 ล้าน

ดีทรอยท์ – เชฟโรเลต เปิดเผยยอดจำหน่ายรถทั่วโลกในปี 2554 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4.76 ล้านคัน ส่งยอดขายรวมของรถในเครือเจนเนอรัล มอเตอร์สทั่วโลก พุ่งสูงกว่า 9 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 7.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2553

จีเอ็ม ได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดของอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มขึ้นถึง 11.9 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากได้รับยอดขายเพิ่มขึ้นทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้และ ยุโรป ทั้งนี้จีเอ็มมียอดขายรวมทั้งหมดถึง 9,025,942 คัน เมื่อเทียบกับจำนวน 8,385,484 เมื่อปี 2553

ยอดจำหน่ายรถเชฟโรเลตในสหรัฐอเมริกาในปี 2554 นำมาเป็นอันดับหนึ่งที่จำนวน 1,775,812 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 13 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยจีน ที่มียอดขาย 595,068 คัน ขยายตัว 9.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อีกหลายประเทศทั่วโลก ก็มีอัตราเติบโตที่น่าพอใจเช่นกัน ทั้งเวียดนาม (เติบโต 79 เปอร์เซ็นต์) รัสเซีย (เติบโต 49 เปอร์เซ็นต์) ตุรกี (เติบโต 30 เปอร์เซ็นต์) และเยอรมนี (เติบโต 21 เปอร์เซ็นต์)

“การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเชฟโรเลต ทั้งในประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว และประเทศเศรษฐกิจใหม่นั้น เป็นผลลัพท์จากการมีไลน์ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง ตรงต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลกที่กำลังมองหารถยนต์ที่ลดการพึ่งพาพลังงาน พร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหรา สะดุดตา” มร.แดน เอเคอร์สัน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม กล่าว “ด้วยคุณภาพอันยอดเยี่ยมของเชฟโรเลต นอกจากจะสามารถทำสถิติยอดจำหน่ายใหม่แล้ว ยังเสริมจุดแข็งและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้จีเอ็ม ในตลาดโลก”

เชฟโรเลต สร้างความสำเร็จด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับโลก อย่าง ครูซ โซนิค (อาวีโอ) สปาร์ก รวมถึงรถซีดานขนาดกลางอย่างมาลิบู รถครอสโอเวอร์อย่าง ออร์แลนโด และกระบะพันธุ์แกร่งอย่างโคโลราโด ซึ่งล้วนถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย และตรงต่อความต้องการของลูกค้าทั่วโลก

เชฟโรเลต ครูซ คอมแพกต์ซีดานระดับโลก เป็นรถที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในปี 2554 ด้วยตัวเลขมากกว่า 670,000 คัน ส่งให้ครูซ เป็นรถเชฟโรเลตที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดถึงกว่า 1.13 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2552 และทำให้เชฟโรเลต เป็นแบรนด์รถยนต์ที่จำหน่ายรถยนต์นั่งได้มากที่สุดในสหรัฐฯในปี 2554 อีกด้วย

ยอดจำหน่ายรถเชฟโรเลตในมากกว่า 15 ประเทศทั่วโลก สามารถสร้างสถิติใหม่ในปี 2554 ทั้งในแอฟริกา (เติบโต 119 เปอร์เซ็นต์) เปรู (เติบโต 81 เปอร์เซ็นต์) เวียดนาม (เติบโต 79 เปอร์เซ็นต์) ประเทศไทย (เติบโต 57 เปอร์เซ็นต์) อิสราเอล (เติบโต 46 เปอร์เซ็นต์) ขณะที่ยอดจำหน่ายรถเชฟโรเลต สูงสุด 10 อันดับได้แก่

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า รถรุ่นใหม่ของเชฟโรเลตนั้น เป็นพลังขับเคลื่อนชั้นดีให้เกิดความสำเร็จทั่วโลก” มร.ทิม ลี ประธานกรรมการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ (จีเอ็มไอโอ) กล่าว “การแนะนำแบรนด์เชฟโรเลต ในเกาหลีใต้ ควบคู่กับการเติบโตอย่างรวดเร็วในจีน และในอีกหลายประเทศภายใต้การดำเนินงานของจีเอ็มไอโอ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า เชฟโรเลต กำลังเป็นตัวเลือกอันดับแรกในใจลูกค้าทั่วโลก”

“ในปี 2555 เราจะดำเนินการขยายไลน์ยานยนต์อันยอดเยี่ยมของเราเพิ่มขึ้น พร้อมกับการแสวงหาโอกาสในการเติบโตในตลาดสำคัญๆของเราต่อไป” ทิม ลี กล่าว

ไม่เพียงแต่การก้าวสู่ศตวรรษที่สอง เชฟโรเลต ยังมุ่งมั่นที่จะผงาดขึ้นเป็นแบรนด์ระดับโลกมากยิ่งขึ้น ด้วยยอดขายในตลาดนอกสหรัฐฯ มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์

ยอดขายของรถเครือจีเอ็ม เติบโตขึ้นในทุกภูมิภาค โดยมีสองประเทศที่มียอดขายมากที่สุดในปี 2554 เริ่มจากจีน ที่ซึ่งจีเอ็ม และพันธมิตรทางธุรกิจ สร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 8.3 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 2,547,203 คัน และในสหรัฐฯ มียอดขายเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 2,503,820 คัน ทำให้จีเอ็ม เป็นผู้นำตลาดในสองประเทศดังกล่าว ขณะเดียวกัน จีเอ็ม ยังมีส่วนแบ่งการตลาดในระดับโลกเพิ่มขึ้นจาก 11.5 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 11.9 เปอร์เซ็นต์

สรุปยอดจำหน่ายรถในเครือเจนเนอรัล มอเตอร์ส

จีเอ็ม อเมริกาเหนือ = สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก และตลาดอเมริกาเหนือ

จีเอ็ม ยุโรป = ยุโรป ตะวันตก ยุโรป กลาง ยุโรป ตะวันออก และพื้นที่อื่นๆในแถบยุโรป

จีเอ็มไอโอ = เอเชีย-แปซิฟิก แอฟริกาเหนือ กลุ่มประเทศแอฟริกาที่อยู่ทางใต้ของทะเลทรายซะฮารา และภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้ ประเทศอิหร่าน เกาหลีเหนือ ซีเรีย และซูดาน ไม่อยู่ในการรวบรวมยอดจำหน่ายและส่วนแบ่งการตลาด