[Detroit 2017] เผยโฉม 2018 Lexus LS ซีดานตัวท็อปสู่ตลาดมะกัน

นับเป็นเวลา 28 ปีมาแล้วที่เลกซัส แอลเอสเปิดตัวครั้งแรกที่งานดีทรอยท์ ออโต้โชว์ ปี 1989 กลับมาคราวนี้ เลกซัสนำเสนอแอลเอส เจนเนอเรชั่นที่ห้า เอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบรถซีดานหรูกลิ่นปลาดิบ

แอลเอส รุ่นปี 2018 ใหม่ล่าสุดนี้มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสไตล์รถซีดานคูเป้ จากภาพจะเห็นว่าทุกดีเทลโดยเฉพาะกรอบไฟหน้าและไฟท้ายมีลูกเล่นที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตเร้าใจ โดยยังผสมผสานความหรูหราได้อย่างลงตัว ทางเลกซัสระบุว่าแนวคิดการพัฒนารถรุ่นนี้ก็คือ “วิสัยทัศน์แห่งเทคโนโลยี” หรือ “visionary technology” พร้อมประกาศว่าจะส่งทำตลาดในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

โทชิโอะ อาซาฮี หัวหน้าทีมวิศวกรของเลกซัส แอลเอสเปิดเผยว่า “แอลเอสไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของแบรนด์เราเท่านั้น แต่ยังกำหนดวัฒนธรรมและธรรมเนียมของแบรนด์ญี่ปุ่นอีกด้วย เราจึงต้องพัฒนารถรุ่นนี้ให้เหนือกว่ามาตรฐานรถพรีเมียมที่มีอยู่เดิม”

แอลเอสพัฒนาบนแพลทฟอร์มขับเคลื่อนล้อหลังแบบเดียวกับรุ่นแอลซี500 คูเป้ โดยเลกซัสใช้กลยุทธ์ “คาดการณ์” สิ่งที่ลูกค้าต้องการจากรถพรีเมียมในอนาคตมากกว่าการนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการในปัจจุบัน

ความโดดเด่นของตัวถังอยู่ที่การใช้วัสดุน้ำหนักเบา ทั้งแผ่นเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงผสมผสานกับอลูมิเนียมซึ่งช่วยลดน้ำหนักลงได้ 90 กก. เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ขณะเดียวกัน ยังติดตั้งระบบ Lexus Dynamic Handling System ซึ่งทำให้การบังคับเลี้ยวล้อหน้าและหลังเป็นอิสระ เพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับผ่านพื้นถนนแห้งและเปียกลื่นในทันทีทันใด

ขุมพลังขับเคลื่อนเป็นบล็อกวี6 ความจุกระบอกสูบ 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบพัฒนาผ่านเทคโนโลยีเอฟวัน ซึ่งให้พละกำลังระดับเดียวกับบล็อกวี8 แต่ประหยัดน้ำมันน้อยกว่า รวมถึงมีเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือนน้อยกว่าด้วย รีดพละกำลังที่ 415 แรงม้า แรงบิด 442 ฟุตปอนด์ อัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม. ภายใน 4.5 วินาทีเท่านั้นในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดครั้งแรกของแบรนด์เลกซัสและในกลุ่มรถพรีเมียม โดยเป็นแบบทอร์กคอนเวอร์เตอร์ แต่เลกซัสยืนยันว่าให้ความรวดเร็วเทียบเท่ากับเกียร์ดูอัลคลัตช์ในยุคปัจจุบัน

ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะที่นั่งรูปแบบใหม่ซึ่งสามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 28 ทิศทาง พร้อมมีระบบปรับอุณหภูมิและนวดตัวเพื่อความสะดวกสบาย แผงแดชบอร์ดมีหน้าจอขนาดใหญ่ ส่วนด้านหลังมีพื้นที่กว้างขวางกว่าแอลเอสรุ่นเดิม ปรับเอนหลังได้ 48 องศา และปรับเอนหน้าได้ 24 องศาเพื่อให้ผู้โดยสารเข้าออกตัวรถได้ง่ายดายมากขึ้น

เลกซัสระบุว่าจะเปิดรับการจับจองจากลูกค้าในสหรัฐอเมริกาภายในช่วงปลายปีนี้ นั่นหมายถึงการส่งมอบอาจต้องรอถึงช่วงต้นปีหน้า ราคาจำหน่ายจะประกาศอีกครั้ง

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่