Porsche Cayenne ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เราเห็นตามท้องถนนตลอดเวลา ดังนั้นปอร์เช่จึงได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กับรุ่นล่าสุดที่พึงเปิดตัวไปไม่นาน กับ Cayenne E-Hybrid 2019 ออกมาสานต่อความสำเร็จ
ทีมงานจึงได้มีโอกาสนำรถมาทดสอบ Cayenne E-Hybrid 2019 ออกจำหน่ายช่วงกลางปี ที่มาพร้อมขุมพลัง เครื่องยนต์เบนซิน เป็นบล็อค DCB V6 สูบ เทอร์โบเดี่ยวจากรุ่น Cayenne ปกติ ขนาด 3.0 ลิตร ความจุ 2,995 cc. พละกำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 5,300 – 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,340 – 5,300 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พลัง 136 แรงม้า (100kW) เพิ่มจาก Cayenne E-Hybrid รุ่นก่อน 43% แรงบิดของมอเตอร์ 400 นิวตันเมตร
เมื่อทั้งเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน จะทำให้มีพละกำลังรวมสูงสุด อยู่ที่ 462 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Tiptronic S
ตัวเลขสมรรถนะจากโรงงาน
0-100 km/h ภายใน 5.0 วินาที
0-160 km/h ภายใน 11.5 วินาที
0-200 km/h ภายใน 19.1 วินาที
ความเร็วสูงสุด 253 km/h
รูปร่างหน้าตา ภายนอก ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบ PDLS- Porsche Dynamic Light System กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า กระจกมองข้าง พร้อมระบบไล่ฝ้า และ ปรับลดแสงอัตโนมัติ กรอบกระจกหน้าต่างบานข้าง แบบสีเงิน กระจกกรองแสง และ ความร้อนรอบคัน ฝากระโปรงท้ายแบบไฟฟ้า Auto Tailgate ประตูแบบ Soft-close (ประตูดูด) ล้ออัลลอย มาตรฐาน 19 นิ้ว (สามารถสั่งขนาดขนาด 20 – 22 นิ้วเป็นอุปกรณ์พิเศษ)
ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยโทนสีดำเข้ากับเบาะหนัง ปรับด้วยไฟฟ้า 14 ทิศทาง พร้อมระบบความจำตำแหน่งของเบาะ Memory Seat ม่านบังแดด ปรับด้วยไฟฟ้าที่กระจกประตูคู่หลัง ระบบกุญแจ Comfort Access ระบบ Porsche Communication Management (PCM) ระบบนำทาง Navigation System ระบบ Connect Plus รองรับ Apply Car Play เครื่องเสียง BOSE Surround Sound
ระบบแสดงผลบนหน้าจอ เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ParkAssist ด้านหน้า และ ด้านหลังกล้องมองภาพขณะถอยจอดระบบเตือนเมื่อเปลี่ยนช่องจราจร Lane Change Assistระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPM)ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control แบบมาตรฐาน พร้อมฟังก์ชั่นจำกัดความเร็วระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงเนินชัน Hill Descent Controlช่วงล่างแบบถุงลม ปรับความหนืดอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ Adaptive Air Suspensionระบบ PASM – Porsche Active Suspension Managment พร้อม ปุ่มเลือกโหมดการขับชุด Sport Chrono Package (Hybrid Type) พร้อมปุ่ม Sport Response บนพวงมาลัย ปรับเลือกโหมด E-Power / Hybrid Auto / Sport / Sport Plus
พูดได้ว่าออฟชั่นมาเต็มตามแบบฉบับ SUV หรู ต่อด้วยการขับขี่ ด้านในตัวรถกับขนาดที่ใหญ่ทำให้เข้ามานั่งในรถแล้วรู้สึกถึงความสะดวกสบาย แม้จะมีผู้โดยสารถึง 5 คน อุปการณ์ต่างๆในการวางตำแหน่งการใช้งานเรียกว่าใช้ได้อย่างง่ายดาย ผู้โดยสารเต็มอัตรา ออกเดินทาง พร้อมกดคันเร่งเต็มกำลังขนาดตัวที่ใหญ่แต่แรง ดึงมหาศาลของเครื่องยนต์ทำให้ผู้โดยสารถึงกับตกใจในพละกำลังที่มีมาให้ แวบเดียวความเร็วขึ้นไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่มีการ รีรอ ที่จะออกตัวด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์พร้อมไฮบริด ไม่ยากที่ทำความเร็วทะลุ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การเดินทางทดสอบในกรุงเทพฯกับสภาพรถติดก็อาจจะลำบากหน่อยกับขนาดรถที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ถ้าเดินทางนอกเมืองนั้นสบายมากด้วยช่วงล่างถุงลมที่สามารถปรับขึ้นลงได้ หรือปรับเปลี่ยนตามสภาพทางในการใช้งานทั้น ออฟโรดและออนโรดก็ตามแล้วแต่ผู้ขับขี่ สิ่งพิเศษที่มีมาให้ในหลายๆรุ่นของ ปอเช่ และทำให้รู้สึกถึงความสนุกคือ ปุ่ม Boot คือการเปิดระบบของเครื่องยนต์เพื่อเรียกพละกำลังสูงสุด เราจะสนุกกับการใช้งานอยู่ 20 วินาที ให้รู้สึกได้ถึงการยิ่งไนตรัสกันเลยทีเดียว
สรุปการขับขี่ Porsche Cayenne e-Hybrid กับการใช้งานในเมืองด้วยขนาดที่ใหญ่อาจจะใช้งานลำบากหน่อยในเมืองด้วยขนาดที่ใหญ่แต่แลกด้วยความสะดวกสบาย ข้อดี ด้วยระบบที่สามารถเลือกได้เองว่าจะใช้งานไฟฟ้าหรือน้ำมัน ทำให้การประหยัดทำมันทำได้ดี และถ้าคุณต้องเดินทางไกลการเรียกกำลังจากเครื่องยนต์เพื่อที่จะทำเวลาทั้งการแซงหรือเร่งรีบก็สามารถตอบสนองคุณได้อย่างง่ายดาย การจัดวางอุปกรณ์ต่างๆมีความง่ายต่อการใช้งาน คุณสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ทุกวัน ดังนี้ถ้าคุณเป็นผู้รักความแรงแบบเงียบขรึม Cayenne e-Hybrid ก็น่าจะเป็นคำตอบให้คุณได้
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
LINE
ความคิดเห็น