รีวิว Toyota Hilux Revo Rocco 2020 แรง นุ่ม ปลอดภัย

       ครั้งนี้ไม่ได้มาเล่นๆ Toyota Revo Rocco 2020 รุ่นพิเศษที่ได้รับการตกแต่งจากโรงงาน สำหรับแฟนกระบะที่ชอบรถในแนวตกแต่งแบบดุดัน แต่ก็ยังมีความสปอร์ตพรีเมี่ยม   และการกลับมาในครั้งนี้กับการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านเพื่อทวงคืนตำแหน่ง 

Toyota Revo Rocco 2020

     สำหรับ ร็อคโค่ ใหม่ ที่เปิดตัวไปได้ไม่นานนี้ กับการเปลี่ยนแปลงในหลายจุดที่หลายคนอาจจะยังสงสัยอยู่ว่ามีดีอะไร ด้านไหนบ้าง เพราะว่าถ้าดูจากภายนอกก็เหมือนแต่งหน้าทาปากใหม่เท่านั้น เครื่องยนต์จูนกล่องเท่านั้นหรือเปล่า คำถามที่หลายคนอยากรู้เราจึงต้องหาคำตอบมาให้

     ก่อนหน้านี้ได้มีการจัดทดสอบไปแล้วที่ สนาม TOYOTA Driving Experience Park ย่านบางนา ซึ่งก็ได้เห็นประสิทธิภาพของ ร็อคโค่ แล้วในเบื้องต้นซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าช่วงล่างใหม่นั้นดีเพียงใด พร้อมกับสถานีออฟโรดที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานของระบบการขึ้นลงทางลาดชัน ที่ทำงานดีเทียบเท่ารถ SUV หรู หรือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นทำงานได้อย่างราบเรียบใช้งานได้ง่าย จากการทดสอบเบื้องต้นในสนามอาจจะไม่ได้เห็นทั้งหมดดังนั้นเราต้องลองกับรถบนถนนจริง 

ภายนอก Toyota Revo Rocco 2020

    หากย้อนไปดู Rocco โมเดลก่อนหน้าจะเห็นได้ว่าเหมือนการนำ Revo ตัวปกติมาเสริมชุดแต่งให้ดูดุดันเท่านั้น แต่พอมาเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ของโมเดลปี 2020 นั้น เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปได้อย่างชัดเจน ด้านหน้า มีความโดดเด่นกว่ารุ่นปกติชัดเจน ด้วยกระจังหน้าทรงใหม่หล่อเข้มขึ้น อารมณ์เหมือนรถ สไตล์ เมกัน ไฟหน้าทรงใหม่ดูเล็กลง ไฟแบบ LED Light Guiding พร้อม daytime running light ส่องสว่างเวลากลางวัน อยู่ในโคมเดียวกัน พร้อมไฟตัดหมอก LED กับโคมไฟท้าย LED ทรงใหม่ล่าสุด

ชุดแต่งรอบคัน เส้นสายที่ดูลงตัวมากขึ้นตั้งแต่กันชนหน้าที่ลายเส้นต่อเข้ากับ ซุ้มล้อหน้า ที่ดูดุดันขึ้น แบบด้านมีขอบโคมเมียมอยู่เหนือซุ้มล้อทั้งสี่ สปอร์ตบาร์ท้ายกระบะดูแข็งแรง กันชนท้ายใส่เซ็นเซอร์ถอยหลังมา 4 จุด ส่วนล้ออัลลอยลายใหม่ยังคงขนาด 18 นิ้ว ใส่ยาง All-terrain ขอบขาวไซส์ 265/60R18 จุดเด่นอีกอย่างสำหรับ ร็อคโค่ กระบะท้ายมีระบบช่วยผ่อนแรงเปิดปิดกระบะท้าย มาด้วย

ภายใน Toyota Revo Rocco 2020

      ภายในห้องโดยสาร ร็อคโค่ ใหม่ ถือเป็นจุดที่เปลี่ยนแปลงน้อยสุด แต่เพิ่ม เติมการตกแต่งลายโลหะสีเทาเข้มกับไฟ Ambient Ligh สีน้ำเงิน ทำให้ห้องโดยสารดูหรูหราขึ้น พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง ตกแต่งด้วยสีดำเมทัลลิค  หน้าจอกลาง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว เพิ่มการรองรับ Apple CarPlay / Android Auto  

    เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง กับระบบปรับอากาศอัตโนมัติควบคู่ช่องแอร์ด้านหลัง บริเวณมาตรวัดตำแหน่งผู้ขับขี่ยังคงให้เข็มวัดความเร็วกับรอบเครื่องสีน้ำเงิน หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงข้อมูลสำคัญของตัวรถ โหมดการขับขี่ อัตราการประหยัด เพิ่มระบบแสดงองศาการเลี้ยวของล้อหน้า เพื่อช่วยให้การขับขี่ออฟโรดทำได้ยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ Toyota Revo Rocco 2020

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบเรียง ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV สร้างกำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที พร้อมเปลี่ยนไปใช้หัวฉีดแบบ i-ART อันเป็นสาเหตุแห่งความแรงที่เพิ่มขึ้น จากนั้นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time 4WD ระบบล็อคเฟืองท้าย

ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังแบบแหนบซ้อน ลดแหนบบรรทุกจากเดิม 5 แผ่น ลดเหลือ 3 แผ่น ประกอบกับเปลี่ยนวัสดุแหนบแผ่นกลางเป็นเหล็ก High Tensile steel ให้น้ำหนักเบาลงแต่กลับแข็งแรงมากขึ้น และทำการปรับจูนโช้คใหม่ให้ซับแรงสะเทือนได้ดีกว่าเดิม

ทดสอบ Toyota Revo Rocco 2020
       

        รับรถจาก TOYOTA Driving Experience Park ย่านบางนา ไม่รอช้าขับออกจากบางนาขึ้นทางด่วน มุ่งหน้า จังหวัด นครนายก ภายนอกอาจจะไม่ต้องพูดกันเยอะแล้วเพราะหลายท่านคงได้เห็นกันแล้วแต่ที่แน่นอนคือหน้าตาหล่อเข้มขึ้นมาก ทุกอย่างดูลงตัวกว่ารุ่นเดิมมาก เข้ามานั่งในห้องโดยสารบรรยากาศเดิมจากรุ่นเก่ายังมีอยู่ แต่ถ้ามองในรายละเอียดจะเห็นได้ว่าแตกต่างกัน โทนสีภายในเน้นเป็นสีดำ เส้นภายในตกแต่งด้วย สีเงินแบบ Hairline และ โครเมียมรมดำ ทำให้ดูสวยขึ้นมาก หน้าจอขนาด ขนาด 8 นิ้ว เพิ่มการรองรับ Apple CarPlay / Android Auto  ใช้งานง่ายเชื่อมต่อพร้อมดูแผนที่ในการเดินทางได้อย่างง่ายดาย

      การขับขี่หลังจากที่เคยทดสอบใน สนามบ้างแล้วถึงเวลาใช้งานจริงบนถนน ช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในครั้งนี้ถ้าเทียบกับรุ่นเดิมนั้นดีกว่ามาก มีความสบายขึ้นตัวรถมีอาการดีดน้อยลง แต่ก็ยังให้ความรู้สึกแบบรถกระบะเหมือนเดิมไม่ได้ดีขนาดเท่ารถเก๋ง และในความเร็วสูงนั้นช่วงล่างก็อาจจะยังไม่ได้รองรับในความเร็วสูง แต่ความเร็วไม่เกิน 120 km/h ถือว่าทำได้ดี พวงมาลัยแบบ แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบ VFC ปรับเปลี่ยนตามความเร็ว นั้น ทำงานได้ดีในความเร็วสูง แต่ในความเร็วต่ำสำหรับผมนั้นถือว่ายังหนักไป กับการใช้งานในเมือง แต่สำหรับผู้ที่ขับขี่รถกระบะประจำนั้นจะบอกว่าพอดี แสดงให้เห็นว่าทางโตโยต้าได้ทำออกมาเพื่อสายกระบะจริงๆ

       สำหรับการเดินทางไกล ความสบายใน ร็อคโค่ นั้นก็มีเพียบพร้อมด้วย ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน สามารถตั้งความเร็วได้ที่ก้านเล็ก ๆ ทางขวาของพวงมาลัย ระบบเรดาร์จะทำการตรวจจับรถยนต์คันหน้าให้เว้นระยะโดยจะเร่งและลดความเร็วให้โดยอัตโนมัติ นับว่าสะดวกเมื่อต้องเดินทางไกลยาว ๆ และใช้ควบคู่กับระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นไปอีกขั้นในการเดินทางไกล 
       การทำงานของ ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจหรือไม่เปิดไฟเลี้ยว ระบบสามารถช่วยเตือนด้วยเสียงและหากยังไม่มีการตอบสนอง ระบบจะทำงานโดย เบรกล้อหน้าที่อยู่ในเลนเพียงล้อเดียวเบาๆ  ซึ่งจะทำให้รู้สึกเหมือนพวงมาลัยรถดึงรถกลับเข้าเลน พร้อมรถจะชะลอลง ไม่ถึงกับหยุด สร้างความปลอดภัยได้มากสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลแล้วอาจจะเกิดหลับใน(แต่ถ้าเป็นโค้งลีกหรือหักศอกระบบอาจจะไม่ทำงาน)

    ด้านพละกำลังนั้นบนถนนจริงนั้นบอกได้เลยว่า "แรง" สำหรับเครื่อง 2.8 ที่หลายท่านอาจจะส่งใสว่าจะดีจริงหรือ จากที่ได้ทดสอบแล้วนั้นบอกได้เลยครับว่าดีจริง กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที เพียงพอมากสำหรับสายแรง พร้อมมีโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบคือ ปกติ, PWR และ ECO จากที่วิ่งทดสอบบนถนนนั้นมีโอกาสได้เจอ ร็อคโค่ รุ่นเดิม บนถนนติดไฟแดงพร้อมกันพอดี เลยอยากลอง ไฟเขียวออกพร้อมกันกดคันเร่งเต็มที่ช่วงต้นนั้นพอกันไม่ได้ห่างกันมาก แต่ช่วงความเร็วตั้งแต่ 60-120 km/h นั้น ร็อคโค่ ใหม่ นี้แสดงพละกำลังออกมาอย่างชัดเจน เร็วกว่ารุ่นเดิมมากเรียกว่ากดหาย แสดงให้เห็นถึงแรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่จะทำให้การเร่งแซงเป็นไปด้วยความมั่นใจ และในแต่ละโหมดการทำงานนั้นก็ให้อัตราเร่งและการกินน้ำมันที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะโหมด PWR เครื่องยนต์จะทำงานเต็มกำลังพร้อมแลกกับอัตราการกินน้ำมันด้วยเช่นกัน 

    ในด้านเรื่องการเก็บเสียงนั้น ทำได้ดีขึ้นตั้งแต่เครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุง ในหลายด้าน ระบบเทอร์โบแปรผันลูกใหญ่ขึ้นเป็นแบบลูกปืน (Ball bearing) ระบบจ่าบน้ำมันใหม่ I-ART เพิ่มเพลาปรับสมดุล (Balance Shaft) ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือน ทำให้ลดอาการสั่นของตัวรถได้มากพร้อมเสียงในห้องเครื่องที่เบาลงด้วยเช่นกัน 
    มาถึงจุดหมายนครนายก คลองมะเดื่อ ซึ่งเป็นเส้นทาง ลูกรัง แบบออฟโรด เบาๆ เส้นทางส่วนใหญ่เป็นหินกรวด  ร็อคโค่ ใหม่ กับช่วงล่างที่ได้รับการปรับใหม่ Super Flex Suspension แหนบหลัง 3 แผ่น แต่แผ่นกลางแข็งแรงขึ้น ทำให้นุ่มนวลกว่าเดิม พร้อมโช้คอัพที่ได้รับการปรับรีบาวด์ให้ดีขึ้นด้วย ชัดเจนกับเส้นทางออฟโรด ที่ตัวรถมีอาการดีน้อยมาก การซับแรงสะเทือนภายในห้องโดยสารนั้น ทำได้ดี ซึ่งทำให้การขับขี่สนุกยิ่งขึ้นกับเส้นทางต่างๆ 

    ด้านความปลอดภัย สำหรับโตโยต้า รีโว นั้นหลายท่านอาจจะเคยบ่นว่าเบรกแล้วท้ายออก แต่สำหรับรุ่นใหม่กับ ร็อคโค่ นี้ทางโตโยต้าได้ ปรับปรุงเรื่องของเบรก ให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นทางทีมงานจึงได้ ทดสอบเล็กน้อยๆ โดย วิ่งทดสอบด้วยความเร็ว 80 km/h และกดเบรกเต็มกำลังเพื่อให้รถหยุดนิ่ง รถเสียอาการน้อยมากสามารถควบคุมอยู่ในเลนได้เป็นอย่างดี พวงมาลัยนิ่งควบคุบได้ง่าย ถือว่าสอบผ่าน
    
Revo Rocco 2020 มาพร้อมระบบ T-Connect Telematics
     ข้อเด่นของระบบนี้คือ ถ้ารถโดนโจรกรรม รถจะแจ้งเตือนเข้ามือถือเจ้าของ พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบได้ว่ารถอยู่ที่ไหนจากมือถือได้ ทำให้สบายใจมากขึ้นกับการจอดในแต่ครั้ง 

• Find My Car เช็คตำแหน่งตัวรถผ่าน Application Find My Car หรือ Apple Watch
• Service Reminder ระบบแจ้งเตือนการบำรุงรักษารถยนต์ เมื่อถึงรอบตามระยะ
• Service Appointment บริการนัดหมายเข้าศูนย์บริการผ่านระบบออนไลน์
• My Message แจ้งข่าวสาร ข้อมูลส่วนลด พร้อมสิทธิพิเศษจากโครงการ Toyota Privilege
• Parking Alert ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ท หรือ เคลื่อนที่
• Stolen Vehicle Tracking ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ เมื่อถูกโจรกรรม
• My Toyota Wi-Fi กระจายสัญญาณ เชื่อมต่อความบันเทิงได้พร้อมกันสูงสุด 9 อุปกรณ์
• OPS (Operation Service) ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจองร้านอาหาร
• SOS ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
• Roadside Service บริการประสานงานไปยังผู้แทนจำหน่ายใกล้เคียง เพื่อขอรับความช่วยเหลือบนท้องถนน
• Health บริการประสานงานแจ้งเหตุฉุกเฉินด้านการแพทย์ โดยการส่งตำแหน่งที่คุณอยู่ไปยังสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)

อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยมาตรฐาน

•  ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC
• ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HAC
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC
•  ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
•  เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA
•  ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ VSC
•  ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC
•  ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
• ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านด่านข้าง, หัวเข่าด้านคนขับและระบบเตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)

สรุปสำหรับ Toyota Hilux Revo Rocco
  

       นับได้ว่าเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้สำหรับ โตโยต้า ถ้าไม่นับเรื่องหน้าตาและภายใน เพราะถ้ามองในรายละเอียดแล้ว โตโยต้าได้แก้ไขในจุดบกพร่องต่างๆได้เกืยบทั้งหมด เรียกว่าโตโยต้าฟังเสียงผู้ใช้มากขึ้นก็ว่าได้ ทำให้ ร็อคโค่ ใหม่นี้ ลงตัวในหลายด้านมาก ทั้งเรื่องการขับขี่ และความปลอดภัย คงไม่ยากถ้าร็อคโค่ใหม่นี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ชอบกระบะแต่งสายลุยแบบจบครบมาจากโรงงาน

ราคา โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ Rocco มี 4 รุ่น

Toyota Hilux Revo Rocco Smart Cab

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 2.4 ROCCO Prerunner AT    ราคา 949,000 บาท
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 2.8 ROCCO 4WD AT             ราคา 1,079,000 บาท
 

Toyota Hilux Revo Rocco Double Cab

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 2.4 ROCCO Prerunner AT     ราคา 1,079,000 บาท
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 2.8 ROCCO 4WD AT              ราคา 1,239,000 บาท (รุ่นที่ใช้ในการทดสอบ)

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car