Mercedes-AMG ที่สุดแห่งการทดสอบประสิทธิภาพรถยนต์ Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

Mercedes-AMG ที่สุดแห่งการทดสอบประสิทธิภาพรถยนต์

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 12 October 2566

อีกครั้ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ AMG ส่งตรงจาก Affalterbach กับกิจกรรมระดับโลก “AMG Experience On Track” ครั้งแรกในประเทศไทย 


Mercedes-AMG

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดประสบการณ์สานต่อดีเอ็นเอของแบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูง “Mercedes-AMG” ส่งมอบประสบการณ์ระดับโลกครั้งแรกในประเทศไทยและเป็นตลาดที่ 2 ของโลกต่อจากสหรัฐอเมริกาที่จัดกิจกรรม “AMG Experience On Track” ชวนลูกค้าและสื่อมวลชนชาวไทยสัมผัสกับนิยามความแรงของสุดยอดยนตรกรรมในตระกูล AMG ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “The World’s Fastest Family” ทั้งหมด 8 รุ่น นำโดยเอสยูวีพี่ใหญ่อย่าง “Mercedes-AMG G 63” สปอร์ตโรดสเตอร์ในตำนาน “Mercedes-AMG SL 43” รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในตระกูล AMG “Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+” รวมถึงยนตรกรรมอีกหลายรุ่น ได้แก่ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe และ Mercedes-AMG GLE 53 4MATIC+ พร้อมฝึกทักษะการขับขี่ขั้นสูงร่วมกับผู้ฝึกสอนดีกรีนักแข่งระดับโลก บนสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

ประเดิมปีแรกของกิจกรรม “AMG Experience On Track” ด้วยเซอร์ไพรส์สุดพิเศษอย่างการปรากฏตัวของ “เบิร์น ชไนเดอร์” (Bernd Schneider) นักแข่งชาวเยอรมันที่ถือเป็นตำนานของรายการการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก “Deutsche Tourenwagen Masters” (DTM) ด้วยการกวาดแชมป์ถึง 5 สมัย โดยเบิร์น ชไนเดอร์ เข้าร่วมกิจกรรมในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Mercedes-AMG รับบทบาทเป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนที่ช่วยแนะนำเทคนิคต่างๆ ให้กับลูกค้าและสื่อมวลชน ตลอดทุกเซสชั่นของกิจกรรมบนสนามแข่ง

กิจกรรม “AMG Experience On Track” ประกอบไปด้วยสถานีการทดสอบการขับขี่ทั้งหมด 4 สถานี เพื่อฝึกทักษะในด้านต่างๆ ให้กับผู้ร่วมกิจกรรม รวมถึงสร้างความคุ้นเคยกับสุดยอดยนตรกรรมจาก Mercedes-AMG และเรียนรู้เทคนิคการขับขี่บนสนามแข่ง ก่อนที่จะลงขับขี่จริงแบบเต็มสนาม 
โดยมีรายละเอียดของสถานีต่างๆ ดังนี้ 


    
•    สถานีที่ 1 “High Speed Break and Swerve” การทดสอบระบบเบรกและระบบความปลอดภัยของตัวรถ รวมถึงการทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ท้าทายต่อผู้ขับขี่ เพื่อทำให้ผู้ขับขี่คุ้นชินกับระยะเบรกของรถและระบบความปลอดภัยที่เข้ามาช่วยเหลือผู้ขับขี่ในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ โดยแบ่งการทดสอบเป็น 2 ส่วน คือการทดสอบเบรกทางตรงและการทดสอบเบรกแบบหักหลบสิ่งกีดขวาง ด้วยพิกัดความเร็ว 80 และ 100 กม./ชม. ตามลำดับ ซึ่งผู้ขับขี่จะต้องอาศัยทักษะการขับขี่และความเร็วในการตอบสนองต่อสัญญาณไฟที่ปรากฏอยู่บนเสาสถานี เพื่อเบรกฉุกเฉินพร้อมหักหลบไปยังทิศทางที่กำหนดไว้ สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในสถานีนี้ ได้แก่ Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe, 
Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ 
และ Mercedes-AMG GLE 53 4MATIC+

•    สถานีที่ 2 “Motokhana” ด่านสุดหินที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางมากมายที่บังคับให้ผู้ขับขี่ต้องสร้างความสมดุลระหว่างความเร็ว ความคล่องตัวและความปลอดภัยในการขับขี่ โดยมีหัวใจสำคัญคือการควบคุมการทรงตัวของรถ การบังคับทิศทางของพวงมาลัย การกะระยะและจังหวะเบรก รวมถึงการเติมคันเร่งในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อฝ่าฟันทุกสิ่งกีดขวางไปได้อย่างปลอดภัยในระยะเวลาที่สั้นที่สุด โดยมีความพิเศษคือทุกคนจะได้รับชมไลน์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบจาก “เบิร์น ชไนเดอร์” ก่อนที่จะเริ่มทดสอบ สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในสถานีนี้ คือ Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC

•    สถานีที่ 3 “Corner Theory” หนึ่งสิ่งที่ท้าทายที่สุดในสนามแข่งคือการเข้าโค้ง ทุกคนจะได้เรียนรู้ทฤษฎีการเข้าโค้งและสร้างความคุ้นเคยกับเส้นทางคดเคี้ยวในช่วงครึ่งหลังของสนามช้างฯ ซึ่งมีรูปแบบของโค้งที่หลากหลายและให้ความรู้สึกท้าทายในรูปแบบที่ต่างกัน โดยมีเป้าหมายในการขับขี่ผ่านโค้งต่างๆ อย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด ซึ่งผู้ฝีกสอนจะคอยแนะนำขั้นตอนทั้งหมด ตั้งแต่จังหวะการเบรกก่อนเข้าโค้ง การลดรัศมีของโค้ง วิธีการมองจุดตัดยอดโค้ง จนไปถึงการหาทางออกและจังหวะการออกรถเมื่อพ้นโค้ง โดยทุกเทคนิคสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งการขับขี่บนสนามแข่งและการขับขี่บนถนนในชีวิตประจำวัน สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในสถานีนี้ คือ Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+


•    สถานีที่ 4 “Drag Race / Brake to the Point” สถานีที่ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสถึงสมรรถนะอันทรงพลังของรถตระกูล Mercedes-AMG ด้วยการจำลองการแข่งทางตรงในระยะสั้น 
โดยนอกจากการเร่งความเร็วแบบเต็มสูบตั้งแต่จังหวะการออกตัวเพื่อทิ้งห่างคู่แข่ง 
เมื่อใกล้ถึงจุดที่กำหนด ผู้ขับขี่จะต้องกะระยะเบรกให้รถหยุดนิ่งในตำแหน่งที่ถูกต้องเพื่อชนะการแข่งขันในแต่ละรอบ สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในสถานีนี้ ได้แก่ Mercedes-AMG G 63, Mercedes-AMG SL 43, Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe และ Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC 

และเมื่อฝึกทักษะจนครบหลักสูตรทั้ง 4 สถานี ทุกคนจะได้ลงสนามจริงเพื่อขับขี่แบบเต็มสนามในรอบ Lead & Follow ซึ่งจะมีผู้ฝึกสอนเป็นผู้ขับนำและขับขี่ตาม Racing Line ที่ถูกต้อง โดยจะมีการแบ่งกลุ่มการขับขี่เป็นกลุ่มๆ ด้วยรถที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกัน และในแต่ละรอบผู้ขับขี่จะได้สับเปลี่ยนกันขับยนตรกรรมหลากหลายรุ่น สัมผัสความแรงทุกรูปแบบในทุกพิกัดตัวถังของรถในตระกูล Mercedes-AMG รวมถึงการลองโหมดการขับขี่ในโหมด Sport และ Sport+ ที่มีอยู่ในรถยนต์ Mercedes-AMG ทุกรุ่น 
     
ปิดท้ายด้วยการมอบประกาศนียบัตรที่ได้รับการรับรองจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และมอบของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์ Mercedes-AMG ให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันที่สามารถทำเวลาได้ดีที่สุดจากการทดสอบการขับขี่ในกิจกรรม “AMG Experience On Track”

กิจกรรมนี้เป็นการเพิ่มทักษะในการขับขี่ให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตจริงได้ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ของทุกคนให้ถึงขีดสุดทั้งผู้ขับขี่รวมไปถึงรถ AMG ทุกคันที่สามารถแสดงประสิทธิภาพอันสูงสุดที่หลายคนไม่คาดคิดว่าจะปลดปลอยพลังได้มากขนาดนี 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


 


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ