Carbon Tracker ชี้ประเทศไทยไม่มีความพยายามในการลดมลภาวะบนท้องถนน 

หลายประเทศที่มีความเสี่ยงในการเป็นพื้นที่ขยะสำหรับรถยนต์ที่มีมลพิษสูง อาทิ ออสเตรเลีย แอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้ พบว่าไม่มีความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งยังมีการนำเข้ารถยนต์มือสองที่สกปรกและไม่ได้รับการต้อนรับจากประเทศอื่นๆ

Carbon Tracker ชี้ประเทศไทยไม่มีความพยายามในการลดมลภาวะบนท้องถนน

Carbon Tracker ซึ่งเป็นองค์กรคลังสมองของลอนดอนประเทศอังกฤษ ออกมาเผยว่าประเทศออสเตรเลีย ไทย ตุรกี อินโดนีเซีย มาเลเซีย รัสเซีย และแอฟริกาใต้ มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นพื้นที่ทิ้งขยะของมลภาวะจากการนำเข้ารถยนต์มือสองที่เป็นสินค้าไม่พึงประสงค์ที่หลายๆ ประเทศไม่ต้องการ แต่ในขณะที่ประเทศจีน ยุโรป และอเมริกาเหนือได้มีการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น โดยมีการบังคับให้กลุ่มผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า อำนวยความสะดวกให้กลุ่มนายทุนผู้ผลิตสามารถพึ่งพาประเทศต่างๆ ที่มีเป้าหมายและทิศทางเดียวกัน ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือกำจัดขยะเก่า เช่น เทคโนโลยี รถยนต์ที่สร้างมลพิษมากขึ้น

ซึ่งจากที่กล่าวมาข้างต้นว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความพยายามเพียงน้อยนิด หรือไม่มีเลยในการเติมรถยนต์ที่สะอาดมากขึ้นบนท้องถนน และออกมาเตือนว่าในอนาคตอาจจะเกิดภาวะขาดแคลนรถยนต์มือสอง อะไหล่มือสอง หรือรถไฟฟ้าจากประเทศที่มีการรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะหลายๆ ประเทศได้เริ่มมีการผลักดันการรีไซเคิลสินค้า หรือรถยนต์ไฟฟ้ามือสองภายในขอบเขตของแต่ละประเทศ 

นั้นเป็นการชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ดังกล่าว นอกจากจะยังไม่มีแผนสำหรับการยุติการขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และยังล้มเหลวในการมีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือทำความสะอาดอากาศในประเทศของตน อีกทั้งยังอาจทำให้วนเวียนอยู่ในวงจรที่เป็นผลเสียต่อการเงินในอนาคต ตัวอย่างเช่น แอฟริกาเพียงประเทศเดียวที่ใช้จ่ายเงินจำนวน 80 พันล้านดอลลาร์ต่อปีในการนำเข้าเชื้อเพลิง แต่ทาง Carbon Tracker ประมาณการว่าประเทศแอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้รวมกันจะสามารถประหยัดเงินได้มากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ ในการนำเข้าเชื้อเพลิง และสามารถปรับปรุงดุลการค้าได้หากพวกเขานำเสนอนโยบายที่ส่งเสริมการซื้อขายรถยนต์ไฟฟ้า 

นอกจากนี้ทาง Carbon Tracker ยังแนะนำให้รัฐบาลในภูมิภาคเหล่านี้รวมถึงประเทศไทยเร่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยมีการจำกัดการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้น จำกัดการนำเข้ารถยนต์มือสองเปลี่ยนไปนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ยกเลิกการเสียภาษีของรถยนต์ไฟฟ้า และส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในท้องถิ่น แน่นอนว่าคำแนะนำเหล่านี้จะส่งผลดีต่อการส่งเสริมการซื้อ-ขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นเลดี้คิดว่าเราต้องรองรับการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสถานีชาร์จ หัวชาร์จที่ได้มาตรฐาน เพราะหากมีแต่คนซื้อ-ขาย แต่ไม่ขยายพื้นที่สถานีชาร์จมันก็คือความไม่พร้อม และอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคตได้ 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน