VDO ขี่ทดสอบ Ducati หลากรุ่น ในงาน Ducati Riding Experience 2013

เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เราได้รับเชิญจากทาง Ducati Thailand ให้เข้าร่วมทดสอบขี่รถจักรยานยนต์ Ducati หลากหลายรุ่น ในงาน Ducati Riding Experience 2013 (DRE) ที่จัดขึ้นที่ สนามมอเตอร์สปอร์ตแลนด์ (แดนเนรมิตเก่า) ซึ่งทางผู้จัดได้วางไพล่อน ตั้งไลน์สนามในการขับซึ่งมีเส้นทางที่คดเคี้ยวเลี้ยวไปมา

โดยรถที่ทาง Ducati Thailand จัดให้ทำการทดสอบขี่ทั้งหมด มีดังนี้

Diavel, Monster, Multistrada, Streetfighter 848, 1199 Panigale, 848 Evo

เรามาเริ่มกันที่รุ่น Diavel ถือเป็นรถแนว Sport Cruiser ที่ดีไซน์ใหม่แหวกแนว กรอบ Sport Cruiser ทั่วไป และเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในช่วงหลังๆ มานี้

Ducati Diavel ได้สร้างความฮือฮา ให้กับกระแสรถ Cruiser ได้เป็นอย่างมาก หลังจากเปิดตัวที่มิลานเมื่อ ปี 2010 โดยเฉพาะดีไซน์ออกแบบด้านท้ายมาแนวสไตล์รถท้ายโล่ง ที่มีไฟท้ายและไฟเบรกเป็น 2 แถวเรียง ซึ่งรับกับสไตล์แบบท้ายโล่งนี้เป็นอย่างดี รวมถึงล้อหลังที่มีขนาดกว้างมหึมา ถึง 8” พร้อมยางหน้ากว้างถึง 240 มม. สร้างความดุดันให้กับเจ้า Diavel คันนี้เป็นอย่างมาก ถึงแม้ตัวรถนั้นจะดูใหญ่บึกบึน แต่น้ำหนักตัวไม่ได้มากอย่างที่คิด เพียง 207 กก. ทำให้คนตัวเล็ก ยังสามารถที่จะขับขี่เจ้า ปีศาจดำทะมึนตัวนี้ได้อย่างไม่ยากนัก

เครื่องยนต์เป็นแบบ L-Twin 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีขนาดความจุ 1198cc ถูกพัฒนาจากเครื่องยนต์ของ Superbike ตัว 1198 ซึ่งเน้นความนุ่มนวลที่ดียิ่งขึ้น ให้พละกำลังสูงสุด 162 แรงม้า เหลือเฟือเพียงกับการขับขี่อย่างสบายๆ ในการเดินทางไกล

ระบบเบรก เป็น Monocoque 4 สูบ จาก Brembo ทวินดิสก์ คู่หน้าขนาดใหญ่ถึง 320 มม. และด้านหลังมีขนาด 240 มม. พ่วงระบบ ABS เสริมความปลอดภัย นอกจากนั้นยังมี เทคโนโลยี DTC (Ducati Traction Control)

ระบบกันสะเทือน โช้คอัพคู่หน้า แบบ Up Side Down ที่มีแกนกระบอกโช้คใหญ่ถึง 50 มม. ด้านหลังเป็นโช้คอัพเดี่ยว จาก Sachs ซึ่งสามารถปรับระยะ Rebound และ Compression ได้ และสวิงอาร์มเป็นแบบแขนเดี่ยว ใช้วัสดุอลูมินัม ที่มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแรง

คันถัดมากับ โมเดล Naked ไฟกลมสุดยอดฮิต แถมคลาสสิค และขายดิบขายดีมากที่สุดรุ่นหนึ่ง นั่นคือ Monster ซึ่งในปัจจุบัน รุ่น 795 นั้นได้ถูกผลิตที่โรงงานในเมืองไทย ซึ่งสามารถทำราคาได้ถูกลง จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบและ ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก Monster 795 จึงกลายมาเป็นรถ Bigbike ยุโรปที่น่าเล่นมากที่สุดคันหนึ่ง จากที่แต่ก่อนมีแต่รุ่น นำเข้าอย่าง 796 และ Monster 1100 และราคาสูงมาก

มาต่อกันที่ Multistrada รถแนว Adventure Touring ใหม่สดซิง เพราะเพิ่งเปิดตัวในบ้านเราเมื่องานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และดูเป็นรถที่น่าสนใจมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ในระดับเดียวกัน ออปชั่นฟังชั่นและราคา อยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ

โดยรวมแล้ว Multistrada ถือเป็นรถที่ขี่ Hi-Technology เช่นเดียวกับ Diavel และขี่ได้ง่าย แต่ในส่วนของเครื่องยนต์ นั้นกลับไม่ได้เดินนิ่งเรียบเท่าใดนัก ดูเครื่องจะสั่นกว่า Diavel อยู่เล็กน้อย

848 EVO Superbike ไซส์เล็ก แต่ก็แรงจัดจ้าน ดีไซน์ท่อออกท้าย ซึ่งหลายคนมักจะชอบดีไซน์ทรงท่อเช่นนี้มากกว่าที่จะไปโผล่ด้านล่างอย่างที่พบใน 1199 ถึงแม้จะตัวเล็ก แต่ทว่าแรงม้านั้น มีมากถึง 140 ตัว ซึ่งมากกว่ารถยนต์ พิกัด 1,800cc อีกนะนั่น จึงทำให้มันไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ที่ขี่ง่าย อย่างแน่นอน ทั้งท่าทางการนั่งแบบรถสนาม รวมถึงเครื่องยนต์ L-Twin 2 สูบ นั่นไม่ได้เดินนิ่งเรียบ สมูท เหมือนเครื่องยนต์ 4 สูบ การเปิดคันเร่งที่ไม่ดี ส่งผลอย่างมาก ที่จะทำให้รถน้ำหนักแค่ 168 กก. แต่มีแรงม้า ระดับรถยนต์ 1.8 ลิตร นั้นพร้อมพยศ ทุกเมื่อ นั่นอาจถูกใจนักบิดที่ชอบความดิบ ดุดัน กระชาก

StreertFighter 848 เครื่องยนต์บล๊อกเดียวกับ 848 EVO แต่การปรับจูนแตกต่างกันเล็กน้อย ทำให้มีแรงม้าน้อยกว่า 848 EVO อยู่เล็กน้อย และสไตล์รถแบบ Sport Naked ซึ่งเป็นแฮนด์บาร์ แน่นอนมันทำให้ขี่ใช้งานได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นแฮนด์ลิ่ง ก็คุมง่ายกว่า Monster อีกด้วย เนื่องจากตำแหน่งแฮนด์ ที่ถึงแม้จะเตี้ยใกล้เคียงกับ Monster แต่ว่า ช่วงแขนนั้นไม่ต้องแบะกางออกมากเหมือนอย่าง Monster

ซึ่งโมเดลทั้งหมดที่ได้ลองขับในวันนี้ ผมกลับชอบในตัว StreetFighter 848 นี้มากที่สุด ทั้งในส่วนของรูปลักษณ์ และกำลังเครื่องแรงระดับรถ Superbike รวมถึงแฮนด์ลิ่งที่ดูจะคุมในการเข้าโค้งได้ง่ายดีที่สุด ขี่ได้หล่อๆ สบายๆ แต่ราคาก็แตกต่างจาก M795 พอตัว