เรียนให้รู้จัก ขับให้เก่งขึ้น กับ 2015 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไดร์ฟวิ่ง อีเวนท์

เป็นประจำทุกปีต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 12 ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะเดินหน้าจัดกิจกรรมสอนขับขี่รถยนต์หรูให้กับสื่อมวลชนและลูกค้าที่ได้รับคัดเลือก ซึ่งก็จะมาในชื่อที่แตกต่างกันไป แต่ในปีนี้ มาพร้อมกับชื่อ 2015 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไดร์ฟวิ่ง อีเวนท์ (2015 Mercedes-Benz Driving Event)

ซึ่งตามปกติแล้วการจัดงานดังกล่าวจะวนเวียนไปตามสนามที่สามารถเซตอัพสถานีทดสอบต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย แต่ในปีนี้ เนื่องจากเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ของช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และเมื่อบุรีรัมย์เดินทางอย่างสะดวกขึ้นด้วยการมีสายการบินไปลงถึงที่ การจัดการทดสอบดังกล่าวจึงมีขึ้นที่ซีไอซี

ก็เลยกลายเป็นเทศกาลพิเศษเมื่อรถยนต์หรูปะโลโก้ตราดาวเกือบทุกรุ่นที่มีจำหน่ายในประเทศไทย มาจอดเรียงรายกันอยู่ที่สนามแข่งรถยนต์ที่ว่ากันว่าดีที่สุดแห่งหนึ่ง พร้อมด้วยทีมผู้ฝึกสอนที่ส่วนใหญ่เป็นนักแข่งรถยนต์ ที่นำเข้ามาเป็นกรณีพิเศษเพื่อจัดกิจกรรมนี้โดยเฉพาะ

เมอร์เซเดส-เบนซ์บอกว่า กิจกรรมดังกล่าว นอกจากเป็นการบอกกล่าวให้รับทราบถึงฟังชั่นส์และระบบต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาในรถยนต์ที่แปะโลโก้ตราดาวแต่ละคันแล้ว การเรียนรู้ด้านการขับขี่จะช่วยเพิ่มทักษะให้กับผู้ขับขี่ในการใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

รถยนต์ที่ถูกนำมาใช้ในการเรียนการสอนและการทดสอบทั้งหมดคือรถยนต์เกือบ 20 คัน 20 รุ่นที่มีการทำตลาดอยู่ในประเทศไทย ไล่ไปตั้งแต่กลุ่มรถเล็กอย่างเอ-คลาส ซีแอลเอ-คลาส จีแอลเอ-คลาส รถยนต์รุ่นยอดนิยมอย่างซี-คลาส อี-คลาสและเอส-คลาสก็มีให้เลือกขับได้

ที่มากไปกว่านั้นก็คือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เตรียมรถยนต์กลุ่มดรีมคาร์มาให้ลองกันอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นฝันเล็ก ๆ อย่างเอสแอลเค-คลาส ซีแอลเอส-คลาส หรือฝันแรง ๆ อย่างเอ45เอเอ็มจีและซีแอลเอ45เอเอ็มจี ก็มีมาให้ลองกันครบทุกรุ่น ไม่ต้องไปหาขับที่โชว์รูมไหน

Station 2 - Handling (7)

รูปแบบของการทดสอบแบ่งออกเป็น 3 สถานีหลักเพื่อแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของตัวรถ โดยจำลองสถานการณ์การขับขี่ในชีวิตประจำวันออกมาเพื่อให้ได้เรียนรู้เทคนิคการขับขี่ โดยที่มีทีมงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์คอยช่วยแก้ไขข้อบกพร่องอยู่เป็นระยะ

สถานีแรกที่ได้ทดสอบก็คือสถานีการเข้าโค้ง โดยได้มีการเซตอัพช่วงด้านท้ายของสนามเพื่อทำการทดสอบการเข้าโค้งแบบมืออาชีพ มีการวางจุดเบรก หมุนพวงมาลัยและเร่งส่งเข้าโค้ง ซึ่งหากใครทำได้อย่างเนียน ตัวรถก็จะไหลไปตามโค้งอย่างสวยงามไม่ต้องแก้อาการกันมากนัก

ต่อกันที่สถานีทดสอบการเบรกและการเปลี่ยนเลนกระทันทันที่ในครั้งนี้มีของเล่นใหม่กับระบบไฟที่จะบอกระยะทางที่ต้องเบรกแบบอัตโนมัติ ทำให้ต้องเพิ่มความเอาใจใส่ระหว่างการขับขี่เพื่อหมุนพวงมาลัยไปหลังกระทืบแป้นเบรก

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เพราะที่ผ่านมาการทดสอบลักษณะนี้จะกำหนดทิศทางการหักพวกมาลัยไว้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งในสถานการณ์การขับขี่จริง อาจจะต้องเจอกับการขับขี่ที่หลากหลายกว่าที่เซตอัพไว้ในสนาม

นอกจากนี้ ยังได้ลองระบบการช่วยเหลือในการเปลี่ยนเลนกระทันหัน ซึ่งระบบจะทำการล็อกล้อเพื่อช่วยในการทรงตัว หากมีกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องเปลี่ยนเลนกระทันหัน ซึ่งเป็นระบบที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ภาคภูมิใจและจัดให้มีการทดสอบกันอยู่ทุกครั้ง

สถานีสุดท้ายของการทดสอบก่อนออกไปขับกันจริงก็คือสถานีจิมคาน่า ที่มีการวางเส้นทางการวิ่งเพื่อโชว์สมรรถนะของรถอย่างเต็มที่ มีทั้งสลาลอม เปลี่ยนเลนกระทันหันและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าเก็บกรวยกันอย่างสนุกสนาน

Station 2 - Handling (3)

จากนั้นในช่วงสุดท้ายก่อนจบการทดสอบ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ปล่อยให้ขบวนรถทั้งหมดลงไปวิ่งเล่นในสนามกันแบบเต็มสนาม เรียกว่าเป็นการทดสอบบนเส้นทางแข่งรถยนต์กันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้ฝึกสอนขับนำทางไปตามเส้นทางต่าง ๆ

แม้จะเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานแต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยสาระและความรู้มากมาย ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่สามารถเรียนรู้กับระบบ เพื่อที่จะได้ใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำได้ดีขึ้น สมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งหวังว่าปีหน้าจะได้มาร่วมทดสอบกันอีกสักรอบ

พร้อมรับประกาศนียบัตรกลับบ้านกันไปคนละใบ ว่าผ่านการอบรมอย่างเข้มงวดมาแล้ว!!!

Group photo