นักวิทยาศาสตร์เปิดปม “ถุงลม Takata” ทำไมถึงระเบิดรุนแรงกว่าปกติ

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มพันธมิตรยานยนต์ได้เปิดเผยหลากหลายปัจจัย ทั้งความชื้นและของเหลวที่ทำให้ถุงลมนิรภัยทาคาตะระเบิดออกมาอย่างรุนแรงเกินไปและมีของมีคมกระจายทั่วห้องโดยสาร

ถุงลมนิรภัยทาคาตะเป็นต้นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 รายและบาดเจ็บอีก 139 รายทั่วโลก ทาคาตะใช้สารเคมีแอมโมเนียม ไนเตรทในการเป็นตัวจุดระเบิดถุงลมเพื่อให้ถุงลมพองตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่สารเคมีดังกล่าวทำงานบกพร่องทำให้ทาคาตะต้องเรียกคืนรถหลายสิบล้านคันทั่วโลกและกำลังเผชิญวิกฤตทางการเงินอยู่ในเวลานี้

บริษัทวิทยาศาสตร์อวกาศ Orbital ATK ได้รับการว่าจ้างโดยกลุ่ม Independent Testing Coalition ให้ค้นหาสาเหตุของความบกพร่องของถุงลม ล่าสุด Orbital ATK ระบุว่ามี 3 ปัจจัยประกอบกันที่ทำให้ถุงลมระเบิดรุนแรงเกินไป เริ่มจากการใช้แอมโมเนียม ไนเตรทที่ไม่มีสารดูดซับความชื้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการระเบิดที่รุนแรง

ปัจจัยที่สองคือการใช้งานรถในอุณหภูมิและความชื้นที่สูง ขณะที่ปัจจัยสุดท้ายคือขั้นตอนการประกอบตัวพองลมของถุงลมทาคาตะไม่สามารถป้องกันความชื้นที่เล็ดลอดเข้าไปด้านในถุงลมได้

การค้นพบดังกล่าวครอบคลุมถุงลมนิรภัยของทาคาตะประมาณ 23 ล้านชิ้นจากทั้งหมด 28 ล้านชิ้นที่ถูกเรียกคืนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ โดยถุงลม 23 ล้านชิ้นดังกล่าวใช้สารแอมโมเนียม ไนเตรทและปราศจากสารทำให้แห้งตัว

ก่อนหน้านี้ ทาคาตะให้คำอธิบายไว้มากมายถึงสาเหตุของความบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการควบคุมคุณภาพที่โรงงานผลิตและความชื้น

คำอธิบายของทาคาตะที่ไม่ชัดเจนสร้างความขุ่นเคืองให้หลายค่ายรถ ทั้งโตโยต้า บีเอ็มดับเบิลยู เฟียตไครสเลอร์ ฟอร์ด เจนเนอรัล มอเตอร์ส ฮอนด้า มาสด้า มิตซูบิชิและซูบารุ ทั้งหมดจึงรวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มพันธมิตร Independent Testing Coalition และว่าจ้าง Orbital ATK ให้ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ Orbital ATK เป็นบริษัทผู้พัฒนาระบบขับเคลื่อนของจรวด อาวุธขนาดเล็ก หัวรบและระบบควบคุมมิสไซล์