ในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะถึงนี้ เพื่อนๆมีแผนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนกันบ้างครับ?
ขับรถไปไหนมาไหนก็ต้องระมัดระวังกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหน้าเทศกาลสงกรานต์นี้มักเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนขึ้นมากมาย ซึ่ง Autospinn ได้รับเชิญให้เข้ามาอบรมการใช้ถนนให้ปลอดภัยจากโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ที่ก่อตั้งโดย SCG ซึ่งเราก็อยากรู้เหมือนกันว่า SCG เค้าจะสอนอะไรให้เราบ้าง แว่วมาว่า เค้าสอนทักษะการขับขี่แบบครบวงจรตั้งแต่รถเล็กจนถึงรถใหญ่เลยแบบมืออาชีพพร้อมออกใบรับรองให้อีกต่างหาก
หลังจากรับประทานอาหารที่ทางทีมงานจัดเตรียมไว้ให้อย่างอิ่มหนำสำราญดีแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนในการอบรม ซึ่ง คุณชลัช วงศ์สงวน ผู้บริหารโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ กล่าวเปิดงาน โดยคุณชลัช ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของโรงเรียนแห่งนี้ ที่ต้องการต่อยอดการฝึกอบรมพนักงานที่ต้องทำงานในเชิง Logistics ทั้งของ SCG และคู่ค้า เพราะเป็นการคมนาคมขนส่งสินค้า ฉะนั้นหากเราสามารถฝึกอบรมให้พนักงานสามารถขับรถอย่างมีทักษะจะช่วยให้ลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุได้แน่นอน ทั้งนี้โรงเรียนทักษะพิพัฒน์เป็นโรงเรียนเอกชนประเภทวิชาชีพ ภายใต้การกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ที่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ารับการอบรมได้ด้วยผ่านหลักสูตรระดับสากล ซึ่งผู้ที่ผ่านการอบรม สามารถนำเอกสารไปยื่นประกอบทำใบขับขี่ต่อที่กรมขนส่งได้อีกด้วย โดยสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ร้อยละ 70 มาจากคนเป็นหลัก ซึ่งการอบรมที่เน้นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจะทำให้เข้าใจและเห็นภาพจากปัญหาที่เรามักนึกไม่ถึงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จุดบอดในขณะขับรถ ความไม่พร้อมของคนขับ หรือทักษะการขับรถบางอย่างที่เราอาจละเลยไป และยิ่งได้รู้ว่าเทศกาลสงกรานต์สถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงมากขึ้นทุกปี ทุกคนควรสนใจเรื่องการขับขี่บนท้องถนนทั้งของตนเองและเพื่อนร่วมทาง เพราะผู้ขับขี่รถบนท้องถนนทุกคนสามารถช่วยกันลดการเกิดอุบัติเหตุได้ พูดง่ายๆว่า ทุกคนสามารถเป็นความปลอดภัยให้แก่กันและกันได้ เพราะถ้าเราดูแลความปลอดภัยให้กับตัวเอง ใช้รถใช้ถนนอย่างมีสติ คนอื่นบนท้องถนนก็จะปลอดภัยไปด้วย
ซึ่งประเด็นที่อยากสรุปให้กับทุกคนในวันนี้มี 5 ข้อด้วยกันครับ ที่ผมเชื่อว่าถ้าทุกคนพร้อมใจกันนำไปทำอย่างจริงจัง จะช่วยสร้างความปลอดภัยเวลาเราขับรถช่วงสงกรานต์นี้ได้แน่นอน
● มองไกลไปข้างหน้า : เรื่องนี้ต้องอาศัยการฝึกครับ ขณะเราขับรถอยู่เราควรวางสายตาให้ไกล เพราะการมองไกลจะช่วยให้เราเห็นอันตรายที่ใกล้เข้ามา
● มองภาพรอบตัว : ขณะขับรถการกวาดสายตาไปรอบๆ คอยมองกระจกด้านหน้า ด้านข้าง เพื่อสั่งเกตุสิ่งที่อยู่รอบๆตัวรถเรา
● เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า : การเว้นระยะยิ่งห่างยิ่งดีครับ เพื่อป้องกันการชนต่อๆ กัน
● ก.ส.ม.ป. : ย่อมากจาก กระจก / สัญญาณ / มองข้ามไหล่ / ปฏิบัติ ก่อนการเปลี่ยนช่องทาง หรือเลี้ยวรถ อยากให้มองกระจกก่อน แล้วส่งสัญญาณไฟตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากมองกระจกแล้วการมองข้ามไหล่ตัวเองจะช่วยให้เราเห็นมุมกว้างขึ้น และสุดท้ายค่อยปฏิบัติเปลี่ยนช่องทางการขับ
● วางตำแหน่งรถ : มีการแนะนำให้รักษาระยะห่างโดยรอบตัวรถอยู่เสมอเป็นรูปวงรี ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับหลบหลีกยามฉุกเฉินครับ
หลังจากบรรยายไปเรียบร้อยแล้ว ทางทีมวิทยากร ก็มีการแนะนำสถานี TENGO ซึ่งเป็นชื่อในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง การขานชื่อหรือเรียกชื่อนั่นเอง โดยบริเวณดังกล่าวนี้จะเป็นเหมือนการตรวจความพร้อมต่างๆของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายมีความรัดกุมปลอดภัยดีพอไหม ความดันของร่างกาย การตอบสนอง และยังมีการทดสอบแบบ Touch Screen Physical Test ซึ่งทางโรงเรียนพิพัฒน์พัฒนาขึ้นมาเอง สามารถทดสอบเพื่อประเมินความสามารถในด้านการขับขี่และการจราจรต่างๆได้อีกด้วย
ตัวนี้คือ เครื่องจำลองการขับขี่ (Simulator) ซึ่งมีทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งใช้มาตรฐานเดียวกับการฝึกอบรมนักบิน เป็นเครื่องเดียวในประเทศไทย ณ ตอนนี้อีกด้วย ที่จะมาช่วยจำลองสถานการณ์การขับขี่ต่างๆนั้นสามารถทำได้ตั้งแต่ การเลือกสภาพอากาศ ปกติหรือมีฝน สภาพท้องถนน ฯลฯ เพื่อให้ผู้เข้ารับการทดสอบด้วยเครื่องจำลองนี้ คุ้นเคยกับการขับขี่ก่อนไปลงขับจริงบนท้องถนน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุลงได้
นั่งฟังบรรยายเก็บข้อมูลกันพอควร ก็ได้เวลาไปดูการทดสอบของจริงกันแล้ว เราเริ่มที่สถานีทดสอบจุดบอดของรถ ที่ทั้งรถยนต์ และรถบรรทุกก็มีกัน โดยเมื่อให้คนไปยืน ณ บริเวณดังกล่าว ผู้ขับขี่ก็จะมองไม่เห็น ณ มุมนั้นๆเลย หรือรถบรรทุกที่เราควรรู้ว่า บริเวณไหนที่คนขับจะมองไม่เห็น ทั้งตอนจอด หรือตอนเลี้ยว อันนี้ดีมากๆ
ไปต่อกับการทดสอบการขับ การเบรค และการหักหลบในกรณีฉุกเฉิน อันนี้ทีมวิทยากร ได้สาธิตเทคนิคการใช้เบรคและพวงมาลัยในแบบดึงและดัน เพื่อประคองรถให้อยู่ในกรณที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยทดสอบทั้งพื้นแห้งและเปียก งานนี้ระบบเบรค ABS ทำงานกันเต็มๆไปเลยจ้า
อีกหนึ่งการทดสอบที่จำลองความไม่พร้อมมาให้ในขณะขับขี่ นั่นคือ สถานีแว่นมืดและแว่นเมา จำลองทั้งในกรณีที่วิสัยทัศน์ในการขับรถไม่เอื้ออำนวยต่อการขับขี่ และแว่นเมาที่ทำให้เราเหมือนมีแอลกอฮอลล์ถึง 200 มิลลิกรัมอยู่ในเลือด ผลคือ ผู้ใส่แว่นขับเป๋ไปชนกรวยซิครับ ฮ่าๆ
และอีกการทดสอบที่ผมเพิ่งจะเคยเห็น คือการนำรถบรรทุกสิบล้อมาทดสอบการเลี้ยวและตีวงต่างๆ ซึ่งวิทยากรให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ทุกครั้งที่คนขับสิบล้อทำการเลี้ยว ต้องมีการมองที่ท้ายรถทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย รวมถึงการส่งสัญญาณต่างๆผ่านไปเลี้ยว เป็นการเตือนให้รถคันหลังระวังคันที่สวนมา เพราะรถสิบล้อจะบังทัศนวิสัยด้านหน้าหมดนั่นเอง
สิ่งสำคัญอีกเรื่องในการขับรถคือเข็มขัดนิรภัย ทีมวิทยากร ได้ทดสอบการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะอยู่บนรถ โดยใช้ความเร็วเพียงแค่ 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วกดเบรคกะทันหัน ความแรงของการหยุดรถ หากไม่มีเข็มขัดตัวผู้โดยสารอาจกระเด็นไปกระแทกกระจกด้านหน้าบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิตได้แน่นอน เราทดสอบโดยให้วิทยากรไม่ขาดเข็มขัดด้านหลัง แล้วงอแขนไว้เพื่อรับแรงกระแทก ทดสอบกันรอบสองรอบ ดูหน้าพี่เค้าคงจะเจ็บมากแล้วจริงๆ
สรุปส่งท้ายโดย โรงเรียนทักษะพิพัฒน์มุ่งเน้นการลดการขับขี่ผ่านทักษะการขับขี่ปลอดภัยต่างๆแบบยั่งยืน โดยเฉพาะช่วงหน้าเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง มักมีอุบัติเหตุเสียชีวิตกันมากมาย มาจากการขาดสติและจิตสำนึกบนท้องถนน ใครใจร้อนก็ปล่อยเขาไป ใจเย็นๆ ขับช้าก็ถึงที่หมายไม่ได้ต่างกัน
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการอบรมทักษะการขับขี่แบบมืออาชีพนะครับ ซึ่งหลังจากการฝึกอบรม ทาง SCG ก็ได้ส่งต่อความห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน และหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหยุดยาวแบบนี้ที่มักเกิดอุบัติเหตุอยู่เสมอ เพียงเราขับรถบนถนนอย่างมีสติ ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุทั้งต่อตัวเองและต่อเพื่อนร่วมทาง
ขอขอบคุณทีมวิทยากรและโรงเรียนพัฒนาทักษะพิพัฒน์สำหรับสถานที่และข้อมูลในการอบรมด้วยครับ
LINE
เช็กวงเงินใน 3 นาที
ความคิดเห็น