ถ้าคุณอยากจะได้ความรู้สึกของการเป็น "เจมส์ บอนด์ 007" แต่คิดว่า Aston Martin V8 Vantage ไม่แรงสะใจ ในขณะที่ V12 Vantage ก็มีกำลังเกินความจำเป็นแล้วละก็ V8 Vantage S คือคำตอบที่ดีที่สุดจาก Aston Martin ค่ายรถยนต์สัญชาติอังกฤษ Vantage S ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนขับโดยแท้จริงด้วยการออกแบบที่ดูโดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยสปลิตเตอร์หน้าคาร์บอนไฟเบอร์ และเมื่อเทียบกับรุ่นมาตรฐานแล้ว Vantage S จะมีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น กันชนหลังดีไซน์ใหม่ ดิฟฟิวเซอร์ทำด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ กาบบันไดแบบใหม่ สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ขึ้น ล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้วมาพร้อมยาง Bridgestone สั่งทำพิเศษ ในส่วนของภายในห้องโดยสารมีการติดตั้งเบาะนั่งและพวงมาลัยสไตล์สปอร์ต ตกแต่งด้วยวัสดุจาก Weave Alloy และแน่นอนว่าจะต้องมีโลโก้ Vantage S ในจุดต่างๆภายในรถ
อย่างที่ทราบกันดีกว่ารุ่นย่อยหรือรุ่นพิเศษของรถสปอร์ตส่วนใหญ่มักจะเน้นการเพิ่มความพิเศษด้วยรูปลักษณ์มากกว่าสมรรถนะในการขับขี่ Vantage S ต่างออกไปเพราะเน้นที่จะตอบสนองคนขับในด้านการควบคุมรถที่ดีกว่าด้วยอัตราทดพวงมาลัยในแบบรถสปอร์ตมากขึ้น ดิสก์เบรคหน้ามีขนาดใหญ่มากขึ้นด้วยขนาด 380 มิลลิเมตรพร้อมคาลิปเปอร์ขนาด 6 ลูกสูบ ชุดสปริง/แดมเปอร์ใหม่ นอกจากนั้นยังมีระบบควบคุมความเสถียรแบบไดนามิคชุดใหม่ โมดูลระบบเบรคอัพเกรดใหม่พร้อมระบบช่วยเบรคไฮดรอลิคและระบบช่วยขึ้นลงทางลาดชัน รวมถึงเสียงร้องที่กังวานอย่างแตกต่างด้วยการใช้มัฟเฟลอร์ไอเสียชุดใหม่และวาล์วบายพาส
ใต้ฝากระโปรงของ Vantage S ก็คือ เครื่องยนต์ V8 4.7 ลิตร ขนาดกำลังสูงสุด 430 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 490 นิวตันเมตร กำลังและแรงบิดสูงสุดมากกว่ารุ่นมาตรฐานอยู่ 10 แรงม้า และ 20 นิวตันเมตร ตามลำดับ กำลังจะถูกส่งไปยังล้อผ่านระบบส่งกำลัง Sportshift II 7 สปีดแบบใหม่ ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้นกว่ากล่องเกียร์แบบเดิมถึง 20% อย่างไรก็ตาม Aston Martin ยังไม่เปิดเผยตัวเลขของอัตราเร่ง บอกเพียงแต่ความเร็วสูงสุดซึ่งอยู่ที่ 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงคือ 12.9 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยมีอัตราการปล่อยไอพิษอยู่ที่ 299 กรัม/กิโลเมตร
ที่มาซ Aston Martin
LINE
เช็กวงเงินใน 3 นาที
ความคิดเห็น