คนที่ติดตามข่าวสารในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกอาจจะเคยได้ยินรายงานของ Consumer Reports ที่กระหน่ำจุดบอดของรถคอมแพกต์ Honda Civic รุ่นปี 2012 เสียยกใหญ่ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ยักษ์ญี่ปุ่นต้องเร่งปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ออกมาจำหน่าย (ในตลาดสหรัฐฯ) ช่วงปลายเดือนนี้
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่ายอดขายของ Civic จะต้องตกต่ำอย่างที่เคยไม่เป็นมาก่อน แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อ Honda America เปิดเผยตัวเลขยอดขายรถคอมแพกต์รุ่นใหม่นี้มีอัตราเติบโตสูงถึง 40% ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขมหาศาล 234,029 คัน ส่งให้ Civic ทะยานขึ้นรั้งเบอร์หนึ่งในสหรัฐฯ เหนือคู่แข่ง Toyota Corolla และ Chevrolet Cruze
ปรากฏการณ์ยอดขายของ Civic ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงเสียงวิจารณ์ของนักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญในวงการว่า มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าหรือไม่
ท่อนหนึ่งของคำวิจารณ์โดย Consumer Reports เคยพูดถึง Civic ไว้อย่างไม่มีชิ้นดีว่า “Civic เดินถอยหลังในด้านดีไซน์ ไม่มีหนทางที่จะแข่งขันในตลาดได้ พวงมาลัยขาดความเฉียบคม ไม่มีความคล่องตัว ไร้ความรู้สึกสนุกในการขับขี่ ระบบเบรกต้องใช้ระยะทางมาก สมรรถนะอ่อนด้อยและเสียงรบกวนจากพื้นถนนค่อนข้างดัง”
แม้จะวิจารณ์ถึงขนาดนี้ แต่ทำไมรถคอมแพกต์เจนเนอเรชั่นที่หกของ Honda ถึงยังขายดีในสหรัฐอเมริกา
Alec Gutierrez นักวิเคราะห์ตลาดของ Kelly Blue Book อธิบายว่า “การออกแบบผลิตภัณฑ์ของค่ายรถยนต์นั้นอาจจะยอดเยี่ยมและเหมาะกับผู้บริโภคอยู่แล้ว โดยที่เราซึ่งเรียกตัวเองว่าผู้เชี่ยวชาญนั้นคาดไม่ถึงก็เป็นได้”
อีกหนึ่งตัวอย่างของยอดขายทีพุ่งสวนทางคำวิจารณ์คือ Volkswagen Passat ที่ก่อนหน้านี้สูญเสียป้าย “แนะนำให้ซื้อ” จาก Consumer Reports พร้อมกับคำบรรยายว่า “Passat เป็นรถที่ดี ตกแต่งภายในได้เยี่ยมแต่ด้วยราคาที่สูงและขาดกิจกรรมการตลาด คาดว่าผู้ซื้อจะไม่สนใจเท่าที่ควร”
ผลปรากฏว่ายอดขาย Volkswagen Passat เพิ่มขึ้นจาก 4,893 คันในปี 2011 เป็น 83,662 ในเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งทำลายสถิติยอดขายเก้าเดือนแรกด้วย
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า สื่อมวลชนและผู้เชี่ยวชาญในวงการอาจจะให้น้ำหนักด้านราคาและการตลาดมากเกินไป แต่ไม่ได้มองว่าความจงรักภักดีในแบรนด์และมุมมองของลูกค้าในด้านคุณภาพของตัวรถที่มีมายาวนานนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน
LINE
เช็กวงเงินใน 3 นาที
ความคิดเห็น