หน่วยงานภาครัฐสรุปเบื้องต้นโบนันซ่าบุกรุกป่าจริง เร่งสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ฟากนายกฯ ติดดาบทหารลุยแก้ทันที Share this

หน่วยงานภาครัฐสรุปเบื้องต้นโบนันซ่าบุกรุกป่าจริง เร่งสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ฟากนายกฯ ติดดาบทหารลุยแก้ทันที

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 09 April 2558

ค่อย ๆ คลายประเด็นออกมาเรื่อย ๆ สำหรับการตรวจสอบการบุกรุกป่าไม้ของโบนันซ่า เขาใหญ่ ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการบุกรุกจริง ด้านนายกฯเพิ่มอำนาจทหารเพื่อจัดการกรณีดังกล่าวได้ทันที

ความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีของโบนันซ่า เขาใหญ่นั้น

สุรวุฒิ ใจกิจสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่ามีพื้นที่ถูกบุกรุกทั้งที่เป็นเขตป่าสงวนและเขตสำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) รวมทั้งหมดจำนวน 103 ไร่ ซึ่งผู้บุกรุกจะมีความผิดตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

ทั้งนี้ จะทำหนังสือแจ้งให้โบนันซ่าทำการรื้อถอนบ้านพัก 16 หลัง และพื้นที่ถนนในสนามแข่งรถ และจะเปิดโอกาสให้โบนันซ่าหาหลักฐานเอกสารสิทธิ์การครอบครองมาแสดงภายใน 15 วัน หากไม่มีเอกสารสิทธิ์มาแสดง ก็จะแจ้งให้ทำการรื้อถอนภายใน 30 วันต่อไป ซึ่งหากครบกำหนดไปแล้วยังไม่รื้อถอน ทางกรมป่าไม้จะเข้าทำการรื้อถอนเอง

"กระบวนการขั้นตอนทั้งหมดน่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 2558 นี้ โดยอธิบดีกรมป่าไม้ได้เร่งรัดให้หน่วยงานป่าไม้ในพื้นที่เตรียมเอกสารหลักฐานอย่างรอบคอบ เพื่อดำเนินการให้ผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ดินได้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป"

ด้าน ศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมที่ดิน ระบุว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยได้ออกคำสั่งให้ตรวจสอบอย่างละเอียดและรายงานผลการตรวจสอบมาที่ตนภายใน 20 วัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงหลังสงกรานต์

"อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาตรวจสอบดูว่าเจ้าของที่ดินได้มาก่อนประกาศเป็นเขตป่าสงวนหรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"

Bonanza-2

ด้านเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา และสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ได้เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2558 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะและประชาชนโดยส่วนรวม

โดยที่ปรากฏว่าในปัจจุบันยังคงมีการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวมเป็นจํานวนมาก และการบังคับใช้กฎหมายยังเป็นไปอย่างไม่เคร่งครัดและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ และก่อให้เกิดปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในเรื่องต่างๆ เช่น การบุกรุกที่สาธารณะ ป่าสงวนแห่งชาติอุทยานแห่งชาติ การใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะกีดขวางทางจราจร ทําให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจําวัน เป็นต้น จึงเป็นการสมควรที่จะกําหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้น

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะและประชาชนโดยส่วนรวมเป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายอาจขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร โดยแจ้งความประสงค์ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเพื่อพิจารณามอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไปปฏิบัติการตามคําขอดังกล่าว

ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจขอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีคําสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอํานาจหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่งหรือหลายฉบับ เพื่อประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมายนั้นให้เป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ

ข้อ ๒ ในการปฏิบัติการตามข้อ ๑ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายมีอํานาจหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น รวมทั้งให้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาและเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ข้อ ๓ ให้เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายนั้น ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามกฎหมายนั้นๆ โดยเคร่งครัด และให้ดําเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการตามคําสั่งนี้ หากขัดขืนหรือไม่ให้ความร่วมมือจนก่อให้เกิดความเสียหายในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทําความผิดวินัยร้ายแรง

ข้อ ๔ คําสั่งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ