[2nd Impression] 2016 Honda Civic สะใจไปเทอร์โบ ใช้งานจริง 1.8 ก็พอแล้ว!!! Share this

[2nd Impression] 2016 Honda Civic สะใจไปเทอร์โบ ใช้งานจริง 1.8 ก็พอแล้ว!!!

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 26 April 2559

กลับมาอีกรอบสำหรับการทดสอบแบบเร็ว ๆ ของ 2016 ฮอนด้า ซีวิค ที่คราวนี้ ทีมงานของฮอนด้าจัดมาให้ทดสอบกันทั้งรุ่นท๊อปอย่างเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ และรุ่นธรรมดากับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร

ถ้าจำกันได้ เราเคยได้สัมผัสแรกกันอย่างคร่าว ๆ ไปแล้วในบทความ 6 นาทีกับซีวิคบน 2 รอบสนามบุรีรัมย์ ซึ่งในครั้งนั้นก็ถือว่าประทับใจกับสมรรถนะของรถรุ่นนี้พอสมควร แต่ก็ยังไม่ได้แตะกันยาวยาว

มาคราวนี้ มีโอกาสได้ลองขับกันยาวขึ้นบนถนนหลวงจริง ๆ โดยได้ขับรุ่น 1.5 เทอร์โบก่อนประมาณ 65 กิโลเมตร และกลับมาด้วยรุ่น 1.8 ลิตรอีก 65 กิโลเมตร แม้จะยังไม่สมบูรณ์แต่ก็ทำให้รู้จักกับรถรุ่นนี้ได้ดีมากขึ้น

DSC_3587

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ฮอนด้า ซีวิค นั้นทำตลาดได้ดีในประเทศไทย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตลาดกำลังหดตัว แต่ซีวิคมียอดจองเข้ามาแล้วกว่า 7,500 คันในช่วง 1 เดือนกว่า ๆ หลังการเปิดตัว และมีการส่งมอบไปแล้วประมาณ 3,000 คัน

ขับเสร็จแล้วโดยรวม ๆ แบบไม่มีเวลาจับผิดรถอะไรมากมาย ก็ต้องยอมรับว่ารถคันนี้ฮอนด้าตั้งใจทำงานมาอย่างดีจริง การตอบสนองของรถนั้นเป็นไปในแบบที่ทีมงานของฮอนด้าต้องการ เพราะฉะนั้น รถ 2 คันนี้จึงให้อารมณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกันอย่างเต็มที่

ในรุ่น 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่มีมาให้ทดสอบแต่รุ่นอาร์เอสซึ่งเป็นรุ่นท๊อป มาพร้อมกับสมรรถนะและอุปกรณ์ที่จัดเต็ม เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตรที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที

DSC_3331

อุปกรณ์ให้มาอย่างเต็มที่ รายละเอียดไปอ่านเอาที่เฟิร์สอิมนะครับ ละเอียดกว่า แต่ที่เพิ่งเห็นวันนี้ก็คือเบาะที่นั่งฝั่งคนขับนั้น ให้ปรับด้วยไฟฟ้ามาด้วย แต่ทำได้แค่เลื่อนหน้า-หลัง เอนเบาะเท่านั้น ไม่สามารถยกความสูง-ต่ำของเบาะได้ด้วยประการทั้งปวง

การตอบสนองของเครื่องยนต์มาแบบหลังติดเบาะ กดเรียกตอนไหน เครื่องยนต์ก็ตอบสนองตอนนั้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปเล่นเแป้นแพดเดิลชิฟท์บนคอพวงมาลัยให้เหนื่อย เอาเวลาไปกุมพวงมาลัยให้แน่นให้บังคับรถไปในทิศทางที่เราอยากได้จะดีกว่า

ช่วงล่างของรุ่นเทอร์โบนั้น ต้องบอกว่าจัดมาเต็มมากทั้งความคมกริบระดับสั่งการได้ ไม่ได้แตกต่างอะไรจากตอนที่ขับอยู่ในสนามบุรีรัมย์สักเท่าไร เมื่อมาลองบนถนนหลวงแล้วต้องบอกว่าซีวิค เทอร์โบนั้น ให้ความสนุกสนานในการขับมากกว่าที่คิด

DSC_3695

อย่างไรก็ตาม ความสนุกสนานดังกล่าวก็ต้องแลกมาด้วยช่วงล่างที่รับแรงสะเทือนจากพื้นถนนมากกว่าปกติ และมีอาการเหวี่ยงตัวมากกว่ารถกลุ่มนี้สักเล็กน้อย เอาว่าถ้าความต้องการคือความสนุกสนานก็เชิญได้เลย แต่ถ้าจะเอานุ่ม ๆ ไปรับสาว ลองไปมองรุ่น 1.8 เสียจะดีกว่า

ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการออกแบบให้ได้รถที่กว้างขึ้น 45 มม.และเตี้ยลง 20 มม. แถมยังมาพร้อมล้อแมกซ์ 17 นิ้ว ที่แน่นอนล่ะว่าต้องรับแรงกระแทกสะเทือนกันอย่างถึงใจ แต่พวกบ้าช่วงล่างแบบแน่น ๆ แบบผมก็ชอบนะ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไร

ในรุ่น 1.8 นั้น จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันพอสมควร ตัวที่ผมขับคือ 1.8 อีแอลนั้น แม้จะเป็นตัวท๊อปของรุ่นเล็ก แต่ก็ถูกตัดอุปกรณ์จากรุ่นอาร์เอสไปพอสมควร ล้อแมกซ์เล็กลง 1 นิ้ว ปรับเบาะไฟฟ้าฝั่งคนนั่งหายไป โคมไฟหน้าก็เปลี่ยนเป็นแบบธรรมดา

DSC_2715

อย่างไรก็ตาม 1.8 นั้นเป็นโมเดลขายหลักของฮอนด้า ซีวิค โดยมีสัดส่วนการขายมากกว่า 80% ในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากเรื่องของราคาจำหน่ายแล้ว ต้องบอกว่าในรุ่นนี้มีความลงตัวกลมกล่อมกว่า และน่าจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายกว่าในท้องตลาดบ้านเราได้เป็นอย่างดี

เครื่องยนต์รุ่นนี้ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 174 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติซีวีทีรุ่นเล็กที่เปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ แต่ข้อดีก็คือรองรับเชื้อเพลิงอี85 ได้เป็นที่เรียบร้อย

การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นแม้จะไม่จัดจ้านเท่ากับในรุ่นเทอร์โบ แต่ก็ถือเป็นรถที่วิ่งทำความเร็วบนท้องถนนได้อย่างไม่เป็นรองใคร แต่ในการเร่งแซงอาจจะต้องให้เวลามากกว่ารุ่นเทอร์โบสักพัก ไว้เอาไปขับอีกรอบแบบไม่มีตัวเปรียบน่าจะเห็นอาการชัดกว่านี้

DSC_2944

สิ่งที่ดีกว่าก็คือช่วงล่างของรถที่ดูจะเป็นรถครอบครัวในแบบที่ซีวิคเป็นมากกว่าในรุ่นเทอร์โบ การเหวี่ยงของตัวรถลดลง การรองรับแรงจากด้านล่างของรถทำได้อย่างนิ่มนวลกว่าอย่างเห็นได้ชัด แถมให้ความสบายในระดับพาคนแก่ไปเที่ยวได้สบาย ๆ

การควบคุมรถทั้ง 2 รุ่นที่ใช้พวงมาลัยแบบใหม่นั้น มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา แม้ฮอนด้าจะบอกว่ามีการปรับน้ำหนักตามรูปแบบของการขับขี่แล้วก็ตาม แต่ในบางย่านความเร็วสูง ก็รู้สึกว่าพวงมาลัยเบาไปเสียเล็กน้อย แต่ความคมกริบในการควบคุมไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

การออกแบบห้องโดยสารภายในที่เน้นความเรียบง่ายแต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมาย แผงควบคุมตรงกลางที่สั่งงานระบบต่าง ๆ ในรถได้อย่างครบครัน แม้จะต้องใช้ความชำนาญในการควบคุมให้พอเหมาะพอเจาะ แต่ก็ไม่ยากเย็นอะไร

DSC_3591

ห้องโดยสารด้านหลังนั้นก็ยังเป็นแบบที่ว่ากันมาคือไม่เหมาะกับคนแก่เลยแม้แต่น้อย ด้วยตำแหน่งการนั่งที่ค่อนข้างต่ำกว่าปกติ การลุกเข้าออกทำได้ค่อนข้างยาก อันนี้รวมไปถึงตำแหน่งการนั่งที่ด้านหน้าด้วยนะครับ ใครที่คิดจะซื้อรถไว้ขนคนแก่ลองพาไปนั่งดูที่โชว์รูมกันก่อนได้

โดยสรุปรวมความแบบที่หัวกล่าวไว้ ถ้าไม่มีเรื่องงบประมาณมาเป็นปัจจัย เลือกตามใจชอบจริง ๆ ล่ะก็ 1.8 ลิตรอาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า ด้วยความสะดวกสบายที่ดีกว่านิดนึง แม้เครื่องยนต์จะตอบสนองไม่เร้าใจเท่า

แต่หากเป็นพวกชอบไปให้สุดแล้วล่ะก็ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบตัวนี้ ถือว่ายังหาคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกันได้ยาก อันนี้ยังขอยกคู่แข่งอีกค่ายที่เปิดเครื่องเทอร์โบมาแต่ยังไม่ได้ทดสอบไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่เทียบกับรายอื่น ๆ แล้ว ต้องบอกว่ากินเรียบ...

DSC_3308

ถ้าใครมีสตางค์เป็นปัจจัยในการพิจารณาตัดสินใจ ราคาก็ห่างกันเอาเรื่องเหมือนกันนะ งานนี้แล้วแต่ความชอบก็แล้วกัน ไว้เดี๋ยวยืมมาทดลองเดี่ยวได้เมื่อไหร่ ค่อยมาไล่รายละเอียดรถแต่ละส่วนกันอีกรอบ สัมผัสสั้น ๆ วันนี้ก็ยังบอกว่ารถดีอยู่เหมือนเดิม

เพิ่มเติมคือดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้พิจารณาในการเป็นเจ้าของในอนาคตก็แล้วกัน!!!

IMG_4644

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ