อุตสาหกรรมยานยนต์ในอเมริกาเหนือไม่ค่อยสู้ดีนักในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ทำให้หลายบริษัทรถยนต์ต้องปรับกลยุทธ์ยกใหญ่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าฟอร์ดเตรียมปรับลดพนักงาน 20,000 คน
รายงานข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า ราคาหุ้นของฟอร์ดปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึงทำให้มาร์ก ฟิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟอร์ดตกที่นั่งลำบากเพราะถูกกดดันอย่างหนักจากคณะกรรมการบริหารที่มองว่าซีอีโอของฟอร์ดทุ่มเงินลงทุนอย่างไม่เหมาะสมและบีบให้กู้สถานการณ์กลับคืนมาให้ได้
ฟอร์ดออกแถลงการณ์ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธข่าวการปรับลดพนักงาน โดยระบุว่ากำลังดำเนินมาตรการที่เข้มข้นเพื่อปรับลดต้นทุน
“เรายังคงให้ความสำคัญกับ 3 กลยุทธ์หลักของเราที่จะสร้างและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมีผลกำไร ไม่จะเป็นการลงทุนเชิงรุกเพื่อสร้างโอกาสใหม่ การปรับขอบเขตธุรกิจที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมกำไรในธุรกิจหลัก” ฟอร์ดระบุ “ขณะเดียวกันการปรับลดต้นทุนและเสริมการปฏิบัติงานแบบคล่องตัวก็เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการของเราเช่นกัน”
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ปัญหาของฟอร์ดอยู่ที่ภาวะโอเวอร์ซัพพลายและรถใช้แล้วที่มีจำนวนมากเกินไปซึ่งทำให้ยอดขายลดลง ขณะเดียวกัน ความไม่มั่นคงทางการเมืองและนโยบายภาครัฐก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ฟอร์ดไม่ใช่ค่ายรถรายเดียวที่เผชิญแรงกดดัน เจนเนอรัล มอเตอร์สก็มีแผนการปลดพนักงาน ขณะที่โตโยต้าก็เผชิญกับวิกฤตผลกำไรที่ลดลง เรียกได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณถดถอยที่น่าจับตามองอย่างมาก
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
LINE
เช็กวงเงินใน 3 นาที
ความคิดเห็น