เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประกาศเปิดตัวเบนเทย์ก้า ออกทำตลาดเมืองไทย ผสมผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะที่เหมาะสมกับการใช้งานทุกวันด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์ W12 ใหม่ล่าสุด
เบนเทย์ก้า เป็นผลิตภัณฑ์ลำดับที่ 4 ของเบนท์ลีย์และเป็นรถยนต์ใหม่ของเบนท์ลีย์ในรอบ 6 ปีในประเทศไทย รถเอสูยวีพรีเมียมรุ่นนี้ได้รับการออกแบบและผลิตจากโรงงานในเมืองครูว์ของอังกฤษ คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นเบนท์ลีย์โดยเฉพาะการใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถันซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์สุดหรูจากเมืองผู้ดี
รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยโคมไฟคู่หน้าแอลอีดี 4 ดวงและกระจังตาข่ายขนาดใหญ่ แนวเส้นตัวถังมีความชัดเจนเพื่อให้เกิดมัดกล้าม ถึงแม้จะเป็นตัวถังแบบเอสยูวี แต่ก็ยังเปี่ยมล้นไปด้วยดีเอ็นเอของเบนท์ลีย์ในทุกมุมมอง
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยชิ้นงานโลหะ ลายไม้และหนังแท้เกรดพรีเมียม แผงคอนโซลนำเอาเอกลักษณ์รูปปีกของเบนท์ลีย์มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ด้านล่างของคอนโซลกลาง ไล่ไปจนถึงฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าและที่วางเท้าแผ่นไม้ที่ได้รับการคัดเลือกอย่างประณีต โลหะที่ผ่านการขัดเงาและประดิษฐ์ด้วยมือถูกนำมาประดับลงบนแผงหน้าปัด คอนโซลกลางและ เบาะนั่งด้านหน้าสามารถปรับได้ 22 ทิศทางและถูกเสริมเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบนวด 6 โปรแกรม ระบบอุ่นเบาะและระบายอากาศไม่ว่าจะเป็นเบาะแบบสี่ที่นั่งหรือห้าที่นั่ง
เบาะนั่งแถวหลังแบบแยก 2 ที่นั่งสามารถปรับได้ 18 ทิศทาง พร้อมทั้งระบบนวด ระบบระบายอากาศ และที่พักเท้า บริเวณคอนโซลด้านหลังหุ้มหนังแท้พร้อมลายไม้ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่นๆเช่นที่วางแก้วน้ำ ที่เก็บของที่เพียงพอและช่อง USB ที่สามารถชาร์จไฟได้ ประตูท้ายรถเปิดโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัส
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ W12 ทวินเทอร์โบใหม่ล่าสุด ความจุ 6.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 608 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.1 วินาทีเท่านั้น ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 301 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นหมายความว่าเบนเทย์กาคือรถเอสยูวีที่เร็วที่สุดในโลก
เบนท์ลีย์ติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เพื่อความปลอดภัย ทั้ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Control -ESC) ระบบควบคุมการเกาะถนน (Traction Control -TCS) และระบบควบคุมการขับลงเขา (Hill Descent Control -HDC) เบนเทย์ก้ามาพร้อมกับระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับ ผู้ขับขี่เบนเทย์ก้าสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ: High 2 High 1 Normal และ Low ในรูปแบบ High 2 ผู้ขับขี่สามารถเลือกเองได้เพื่อใช้งานในสภาพถนนที่ทุรกันดาร ผู้ขับขี่ยังสามารถที่จะเลือกปรับลดระดับท้ายรถเพื่อให้ง่ายต่อการยกของขึ้นและการติดตั้งหัวลาก โดยกดปุ่มที่อยู่ในท้ายรถ
นอกจากนี้ยังมีระบบปรับการขับขี่แบบออฟโรด (Responsive Off-Road Setting) จะทำให้ผู้ขับสามารถเลือกการปรับแต่งรถยนต์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวออฟโรดที่หลากหลายได้ พร้อมกับมีระบบตั้งความเร็วปรับระดับความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control -ACC) ร่วมด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในสภาพรถติด (Stop & Go) ระบบคาดการณ์เพื่อการปรับความเร็วล่วงหน้า (Predictive ACC) และระบบช่วยเหลือในการจราจร (Traffic Assist)
เบนเทย์ก้าติดตั้งระบบช่วยเหลือมากมายเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการใช้รถในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น ระบบแสดงผลป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition) ซึ่งจะสามารถตรวจจับป้ายจราจรต่างๆและแสดงผลให้ผู้ขับขี่ทราบ; ระบบตรวจจับวัตถุผ่านท้ายรถ (Rear Crossing Traffic Warning), ซึ่งใช้เรดาห์ในการตรวจสอบวัตถุที่ผ่านท้ายรถในขณะที่กำลังถอยรถออกจากที่จอด และระบบกล้องรอบคัน (Top View) ซึ่งจะใช้กล้องสี่ตัวรอบรถยนต์เพื่อแสดงภาพรถยนต์รอบคันจากมุมบน
ขณะเดียวกัน เบนเทย์ก้ายังสามารถติดตั้งระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Park Assist) ซึ่งจะช่วยแนะนำที่จอดรถที่เหมาะสม (ทั้งจอดขนานและจอดเข้าช่องจอด) และหมุนพวงมาลัยอัตโนมัติเพื่อเข้าจอดในช่องจอดรถที่แคบและยากในการจอดนวัตกรรมใหม่อื่นๆของเบนเทย์ก้าประกอบด้วยระบบกล้องอัตโนมัติตอนกลางคืน (Electronic Night Vision) ซึ่งใช้รังสีอินฟราเรดในการตรวจจับวัตถุที่ขวางอยู่ด้านหน้า และระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display) ซึ่งสามารถลดการละสายตาจากถนนของผู้ขับขี่เพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ เคาะราคาจำหน่ายเบนเทย์ก้าในประเทศไทยไว้ที่ 24.5 ล้านบาท
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
LINE
เช็กวงเงินใน 3 นาที
ความคิดเห็น