Test drive Porsche Macan Turbo Performance Package

ทดสอบการขับขี่ ปอร์เช่ (Porsche) Macan Turbo Performance Package ครอสโอเวอร์ซีรีส์พิเศษที่พกสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.4 วินาที เท่านั้น

ตามปรกติแล้วแค่เอ่ยถึงแบรนด์รถสปอร์ตชื่อดังบนโลกใบนี้คงจะมีไม่กี่แบรนด์ที่หลายคนนึกถึง โดยเฉพาะรถสปอร์ตที่มาพร้อมรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่มีการออกแบบที่แตกต่างจากค่ายอื่น

ที่ทำงานแบบสูบนอนหรือ (Boxer) แค่พูดเท่านี้หลายคนน่าจะทราบแล้วว่าหลังจากนี้ผมจะพูดถึงรถสปอร์ตแบรนด์อะไร แน่นอน Porsche แบรนด์รถสปอร์ตที่แวบเข้ามาในหัวทุกท่านเป็นอันดับต้นๆ ในความคิดแน่นอน

ด้วยสมรรถนะการขับขี่อันเลื่องชื่อทั้งระบบเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง และอีกหลายๆ ประการที่ทำให้แบรนด์นี้เป็นรถในฝันของใครหลายๆ คน รวมไปถึงตัวผมด้วย วันนี้ผมได้มีโอกาศบินลัดฟ้าถึงประเทศสิงคโปร์ เมืองลอดช่องที่หาเท่าไรก็ไม่เจอในประเทศนี้ (แน่นอนดิ เราเรียกกันเอง)

มาร่วมทดสอบรถยนต์ครอสโอเวอร์น้องเล็กที่สมรรถนะไม่เล็กตามอย่างรุ่น Macan Turbo Performance Package ที่เค้าว่าเป็นที่สุดของรถครอสโอเวอร์กับสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์เลยทีเดียว

เราไปเริ่มกันเลยดีกว่า รูปลักษณ์ภายนอกอย่างที่เรารู้ๆ กันว่า Macan คือ SUV หรือ Crossover ที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นพี่อย่าง Cayenne การทำตลาดรูปแบบการพัฒนาก็แตกต่างกัน ด้วยขนาดที่เล็กกว่า ความสนุกสนานในการขับขี่ความคล่องตัวย่อมมีมากกว่า

การตกแต่งรูปลักษณ์ไม่แตกต่างจากรุ่นปรกติเท่าใดนัก เพราะมีความสปอร์ตสวยงามลงตัวตามสไตล์สปอร์ตครอสโอเวอร์อยู่แล้ว ภายในไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซล แดชบอร์ด คันเกียร์ ปุ่มควบคุมต่างๆ ก็มาตามสไตล์ Porsche

เบาะนั่งหนังอาคันทาล่าให้ความหรูหราพรีเมี่ยมตามแบบฉบับรถสมรรถนะสูง ความโอบรับกระชับรองรับสรีระทำมาได้ค่อนข้างดี นั่งโดยสารแม้จะไม่นุ่มสบายเหมือนรถบ้านทั่วไป แต่ได้อารมณ์รถแข่งมาเต็มๆ รวมไปถึงเบาะตอนหลังก็เช่นเดียวกัน

โดยรวมก็ยังคงมีเอกลักษณ์ความเป็น Porsche อยู่เต็มๆ แบบเดียวกันกับ Macan รุ่นปรกติ และ Porsche รุ่นอื่นๆ ซึ่งนี่ทีเด็ดของ Performance Package มันอยู่หลังจากนี้ ....

คันที่ได้ทดสอบมาพร้อมการตกแต่งคาดสีสันแบบเดียวกับ Porsche ที่ใช้แข่งใน Le mans ที่ให้ความซิ่งและโดดเด่นบนท้องถนน ทันทีที่ทำการสตาทเครื่องยนต์เสียงคำรามจากขุมพลัง V6 ขนาด 3.6 ลิตร ที่ส่งไปยังชุดท่อไอเสียก็พอจะทำให้ขนลุกได้เลยทีเดียว

ด้วยขุมพลังเบนซิน V6 ขนาด 3.6 ลิตร ไบ-เทอร์โบ ที่สามารถรีดกำลังแรงม้าได้มากถึง 440 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 600 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติดับเบิลคัทช์ PDK แบบ 7 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ แอคทีฟ

กับการเครมไว้ว่าเจ้า Macan Turbo PP คันนี้สามารถทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาที เท่านั้น ซึ่งนับว่าระดับน้องๆ ซูเปอร์คาร์หลายๆ แบรนด์เลยทีเดียว พร้อมกับทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 272 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

จากการทดสอบแม้จะไม่ได้ทดสอบเต็มๆ เนื่องจากกฏหมายควบคุมความเร็วในประเทศสิงคโปรค่อนข้างเข้มงวด บนถนนบางเส้นวิ่งได้เพียง 50 กม./ชม. บางเส้นได้สูงสุดไม่เกิน 90 กม./ชม. แต่ก็ทำให้ทราบถึงสมรรถนะแรงบิด ความดุดัน ความก้าวร้าวของเครื่องยนต์และเสียงคำราม

หลายๆ คนถามว่าหลังติดเบาะมั้ย บอกเลยในช่วงคิกดาวน์ถ้าไม่มีเบาะนั่งรับร่างกายไว้คงจะหงายหลังไปแล้ว อัตราแรงบิด อัตราเร่งมารวดเร็วทันใจ ยังไม่ทันนับถึง 2 วินาที ก็ปาเข้าไป 50-60 กม./ชม. แล้ว

ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ ดับเบิลคลัชท์ 7 สปีด อันเลื่องชื่อ (PDK) เปลี่ยนได้นุ่มนวลไร้รอยต่อให้รู้สึกรำคาญใจแม้จะต้องรองรับพละกำลังเครื่องยนต์ที่ดุดันก้าวร้าว ระบบช่วงล่างตามสไตล์ สปอร์ตครอสโอเวอร์ หนึบ แน่น กระชับ

ระบบเบรกด้วยดิสก์หน้าขนาด 390 มม. และหลังขนาด 356 มม. สามารถเอาม้าทั้ง 440 อยู่ แต่การเซ็ตน้ำหนักของแป้นเบรกยังรู้สึกว่าไวไปนิด เพียงแค่แตะไปนิดเดียวก็ทำให้หน้าทิ่มไปเหมือนกัน ซึ่งอันนี้ต้องทำความคุ้นเคยและคุ้นชินกับน้ำหนักแป้นเบรกอยู่ระยะหนึ่งเลยทีเดียว

ระหว่างทางการทดสอบที่ทาง Porsche Asia Pacific เซ็ตไว้ให้ก็มีการขับขี่ทั้งในเมือง ขึ้นเขา-ลงเขา ทุกสภาพพื้นผิวถนนบนเกาะสิงคโปร ซึ่งขับทั้งวันก็เกือบจะรอบเกาะอยู่แล้ว ก็ได้ทราบถึงสมรรถนะแทบจะทุกประการ ขาดอย่างเดียวคือการทำความเร็วที่ทดลองไม่ได้มากมายนัก แต่ก็ทราบแล้วแหละว่า ดุดัน ก้าวร้าวจริงๆ

โดยรวมถือเป็นครอสโอเวอร์รุ่นท็อปไลน์ของ Macan ที่มีสมรรถนะจี๊ดจ๊าด มากถึงมากที่สุด ระบบการขับขี่ สมรรถนะต่างๆ แรง หนึบ แน่น เท่ หล่อ ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดได้อีก บวกกับความอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาเนื่องจากเป็นรถแบบ SUV ยกสูง

การขับขี่ก็ได้ฟิลได้อารมณ์ไปอีกคนละแบบกับ รุุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น 911 , 718 Boxser, 718 Cayman ซึ่งจากที่ได้ทดสอบมาก็ถือว่าเป็น ที่สุดของ SUV ที่น่าจะแรงที่สุดในเซกเมนต์นี้เลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่ได้ทดสอบการขับขี่รถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นพิเศษแบบนี้ ซึ่งบอกตามตรงเลยว่าแบรนด์รุ่นไหนก็ยอดเยี่ยมจริงๆ !!