อดดู Mercedes และ Ferrari ปฏิเสธไม่ขอร่วมในสารคดีภาพยนต์เรื่อง F1 ใน Netflix

ท่ามกลางกระแส Netflix ที่ได้รับความนิยมในบ้านเราจากตัวเลือกภาพยนตร์ที่มีความหลากหลาย เมืองนอกเองก็มีโปรเจคจะสร้างสารคดีภาพยนตร์เรื่อง F1 โดยผู้สร้าง Drive to Survive ล่าสุด Mercedes และ Ferrari ขอปฏิเสธในการเข้าร่วมภาพยนตร์ซีรีย์ชุดนี้แล้ว (อ้าว!)

หลังจากที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดตัวในช่วงวันที่ 8 มีนาคม โดยภาพยนตร์ดังกล่าวมีทั้งหมด 10 ตอนเล่าเรื่องการแข่งขันชิงแชมป์ตลอดปี 2018 จาก Melbourne จนจบการแข่งขันรอบสุดท้ายที่ Abu Dhabi ทั้งแปดทีมอนุญาตให้ fly-on-the-wall ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทำตลอดทั้งปี ยกเว้น Mercedes และ Ferrari ที่ขอปฏิเสธที่จะเข้าร่วมด้วย

ในการให้สัมภาษณ์กับ The Telegraph โปรดิวเซอร์ Paul Martin กล่าวถึงทัั้งสองทีมไม่ยินยอมในข้อตกลงอย่างเช่นอีกแปดทีมที่เหลือ

“Mercedes และ Ferrari ต้องการ ภายใต้ขอกตกลงที่ต่างจากที่เหลือทั้งหมด และเราในฐานะโปรดิวเซอร์พร้อมกับทั้ง Netflix ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มแพร่ภาพรู้สึกไม่โอเคด้วย”

“มันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่เกิดขึ้นเลยและหากสัญญาดังกล่าวดีแก่อีกแปดทีมที่เหลือ ดังนั้นมันก็ควรจะดีกับทั้ง Mercedes และ Ferrari ด้วย”

“ในความคิดผมพวกเขาทำร้ายหัวใจแฟนๆและคอกีฬาโดยไม่เข้าร่วมด้วย” Martin กล่าว

Liberty Media ซึ่งเป็นเจ้าของ Formula 1 ได้มีไอเดียในการถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็นซีรีย์ภาพยนตร์ซึ่งเป็นวิธีการในการโปรโมตในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี เมื่อ Mercedes และ Ferrara ไม่ร่วมด้วยเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ F1 จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์กันระหว่าง Lewis Hamilton และ Sebastian Vettel

Ferrari ไม่ได้กล่าวถึงสาเหตุในการไม่เข้าร่วม แต่ Mercedes กล่าวว่าต้องการเน้นไปที่แชมป์ของรายการนี้

“เรามีความยินดีที่ได้เห็นการแข่งขันในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นการแข่งขันชิงแชมป์กันยาวนานมากระหว่าง Ferrari และ Mercedes ซึ่งช่วยเพิ่มคนดูขึ้นอีก 10 เปอร์เซนต์ในการรับชมการแข่งขันทั่วโลกและทำให้กีฬาชิงที่หนึ่งเรื่องความเร็วได้รับความนิยมสูงที่สุดผ่านโซเชียลมีเดีย การแข่งขันในระดับโลกต้องใช้ทรัพยากรที่มีทุกอย่างของบริษัทเพื่อให้ตอบสนองแก่ความพยายามของทีมทั้งหมด เราเลือกที่จะมุ่งไปข้างหน้าก่อนเสมอโดยมีสมรรถนะนำหน้าสุดในทุกๆการตัดสินใจของเรา”

หากจะให้คาดเดา คาดว่าทั้งสองทีมที่กำลังฟาดฟันกันเพื่อบัลลังก์แชมป์ไม่อยากให้ใครเห็นหลังบ้านซึ่งอาจจะมีความลับซุกซ่อนอยู่ในการแข่งขัน ส่วนอีกแปดทีมที่เหลืออาจรู้สึกแบบเดียวกัน แต่การชิงธงเป็นอันดับหนึ่งนั้นอาจยากเกินไปก็เป็นไปได้