Mini เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน และไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัย ก็ยังคงเอกลักษณ์หน้าตาที่คลาสสิคเอาไว้ ถือเป็นความโดดเด่นที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้จักแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้
หากพูดถึงรถมินิ ภาพจำในหัวก็จะลอยออกมาทันทีว่าต้องเป็นรถคันเล็ก ๆ หน้าตาน่ารัก แต่สำหรับคันที่ผมนำมารีวิวนี้ บอกเลยว่า ผมไม่เล็กนะครับ ซึ่งรุ่นที่ผมนำมาขับทดสอบในครั้งนี้ เป็นรุ่น Mini JCW Countryman มีมิติตัวถัง ความกว้าง 1,822 มม. ความยาว 4,299 มม.ความสูง 1,557 มม. หากเทียบกับ Mini Hatch 3 ประตู จะพบว่า ในรุ่น Countryman มีตัวถังที่กว้างกว่า 95 มม. ยาวกว่า 423 มม. และสูงกว่า 143 มม.
รับชมรีวิว Mini JCW Countryman รูปแบบวีดีโอ ได้ที่นี่
Mini JCW Countryman ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์อันทรงพลัง 306 แรงม้า บวกกับตัวถังที่มีขนาดใหญ่ และสูงทำให้เจ้าคันนี้ ดูเป็นรถอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกคน บรรทุกสัมภาระ หรือแม้แต่การนำไปซิ่งในสนามก็ทำได้เช่นกัน
ดีไซน์ภายนอก Mini JCW Countryman 2022
Mini JCW Countryman ด้านหน้าโดดเด่นตามสไตล์ของมินิ กระจังหน้าลายรังผึ้งพร้อมเส้นคาดสีแดงสด ที่มุมบนของกระจังมีสัญลักษณ์ John Cooper Works โดยโลโก้ของมินิในรุ่นใหม่นี้จะเป็นสีดำเงา ไฟหน้าดวงโตแบบ LED แสงสีขาว พร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิ่งสีขาวล้อมรอบ และจะเปลี่ยนเป็นสีส้มเมื่อเราเปิดไฟเลี้ยวหรือไฟฉุกเฉิน
ดีไซน์ด้านข้างเมื่อมองในภาพรวมจะเห็นถึงความใหญ่โต พร้อมกระจกด้านข้างบานใหญ่ ดูแล้วโล่ง โปร่ง ไม่อึดอัด ตกแต่งด้วยเส้นโครเมี่ยมที่ขอบกระจกล่าง ซึ่งเป็นลายเส้นที่ลากเป็นแนวนอนเชื่อมต่อไปถึงด้านหน้า ในส่วนของกระจกมองข้าง และหลังคา ใช้เป็นสีแดงสด ส่วนแร็คหลังคาเป็นสีดำเงา ที่แก้มข้างมีโลโก้ John Cooper Works และที่ประตูหน้ามีคำว่า ALL4 ที่บ่งบอกว่าเจ้าคันนี้เป็นรถระบบขับเคลื่อน 4ล้อ
สำหรับมือเปิดประตู จะเป็นสีดำตัดกับสีรถ เมื่อกุญแจรถอยู่ที่ตัว เราสามารถปลดล็อคได้แบบง่าย ๆ ด้วยการกดปุ่มสีดำ และเรายังสามารถตั้งค่าได้ด้วยว่า ให้ปลดล็อคแค่ 2 บาน หรือปลดล็อคทั้งคัน
นอกจากนี้ ที่ใต้กระจกข้างจะมีเลเซอร์ยิงลงพื้น เป็นสัญลักษณ์โลโก้มินิ โดยจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนในเวลากลางคืน
Mini JCW Countryman จะได้เป็นล้อสีทูโทน ขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 225/45R19 พร้อมคาลิปเปอร์ John Cooper Works สีแดงสด โดยแก้มยางจะไม่สูงมาก ออกแนวซิ่ง ๆ ดูแล้วสวยงาม แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังเรื่องการขับตกหลุมครับ เพราะยางบางหากตกหลุมแรงอาจส่งผลทำให้ล้อดุ้งได้
ดีไซน์ด้านท้ายก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยไฟท้าย LED ลายธงชาติอังกฤษ พร้อมโลโก้ John Cooper Works มีกล้องมองหลัง และเซ็นเซอร์ถอย และความพิเศษของ Mini JCW Countryman คือได้ท่อไอเสียคู่ โดยมีหลักการทำงานคือ เมื่ออยู่ในโหมด Green และ Mid ท่อจะทำงานแค่ฝั่งเดียว คือฝั่งขวา แต่ถ้าเราอยู่ในโหมด Sport วาล์วท่อฝั่งซ้ายจะเปิด ท่อจะทำงานทั้งสองฝั่ง และเสียงของท่อนั้นจะดังทุ้มขึ้น จังหวะที่ขับลากรอบแล้วเปลี่ยนเกียร์ เสียงจะดังปุ้งปั้ง ได้อารมณ์ของความสปอร์ตเลยทีเดียว
ฝากระโปรงท้ายแบบไฟฟ้า สามารถเปิดได้หลายช่องทาง รวมถึงการเปิดโดยใช้เท้าเตะไปที่ใต้ท้องรถ และฝาท้ายยังสามารถตั้งระดับความสูงได้ถึง 5 ระดับเลยทีเดียว มีพื้นที่เก็บสัมภาระเยอะ และเบาะหลังยังสามารถพับได้เรียบ
ดีไซน์ภายใน Mini JCW Countryman 2022
ภายในมาในดีไซน์ความสปอร์ต เน้นการใช้ลายเส้นสีแดงเข้ามาตกแต่ง พร้อมเบาะทรงสปอร์ตแบบปรับแมนนวลมือมีตัวดันหลังให้ด้วย
พวงมาลัยแบบสามก้านหุ้มหนัง จับถนัดกระชับมือ มีปุ่มมัลติฟังก์ชัน หลังพวงมาลัยมีแป้น Paddle Shift
จอแสดงผลการขับขี่ดีไซน์สวยงามพร้อมจอ Head-up Display สำหรับแสดงความเร็ว และแสดงแผนที่นำทาง
จอกลางขนาด 8.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย ซึ่งเราสามารถเปิดแผนที่นำทางได้จาก 2 แหล่ง คือ เปิดจาก Apple CarPlay ผ่านโทรศัพท์ระบบ ios และเปิดแผนที่ของตัวรถด้วยการกดปุ่ม NAV และเมื่อรถอยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย ภาพจะตัดเป็นกล้องหลัง พร้อมเส้นกะระยะ
นอกจากนี้ เรายังสามารถเข้าไปตั้งค่าระบบต่าง ๆ ของตัวรถได้ผ่านที่จอกลาง เช่น ตั้งค่าระบบไฟส่องส่อง ตั้งค่าระบบความปลอดภัย เป็นต้น ถือว่าเป็นจอที่เล่นง่าย ไม่มีระบบอะไรซับซ้อนครับ
ในส่วนของระบบแอร์เป็นแบบ 2 โซน แยกซ้ายขวา
หัวเกียร์มีดีไซน์สวยงาม กระชับมือ ส่วนปุ่มที่อยู่ข้างกันนั้นคือเมนูลัด ในการควบคุมจอกลาง และปุ่มเบรกมือไฟฟ้า แต่แอบเสียดายที่ไม่มีปุ่ม Hold Break ให้
ที่วางแขนตรงกลางสามารถพับได้ เมื่อเปิดเข้าไปภายในจะพบกับแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย
เบาะหลังมีพื้นที่กว้างขวาง นั่งสบาย ผมสูง 175 ซม. นั่งแล้วศีรษะไม่ติดเพดาน หัวเข่าไม่ดันเบาะหน้า นั่งโดยสารทางไกลได้แบบสบาย กระจกด้านข้างบานใหญ่ ช่วยให้ผู้โดยสารตอนหลังไม่รู้สึกอึดอัด และยังมีแอร์หลังให้อีกด้วยครับ เป็นรถมินิที่เบาะหลังนั่งสบายที่สุดเมื่อเทียบกับมินิรุ่นอื่นๆ
เครื่องยนต์ Mini JCW Countryman 2022
Mini JCW Countryman ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 1998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ 5,000-6,250 รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,750-6,250 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ALL4 ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วจาก 0-100 ใช้เวลา 5.1 วินาที
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic Sport พร้อม Paddle Shift ที่พวงมาลัย มี MINI Driving Modes ที่แบ่งออกเป็น Green / MID และ Sport ส่วนช่วงล่างนั้น ด้านหน้าเป็นแบบ Single-joint strut (McPherson) และด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ มาพร้อมโช้คอัพปรับความหนืดอัตโนมัติแปรผัน MINI Dynamic Damper ที่ยังสามารถล็อคให้นุ่มหรือแข็งได้ตาม Driving Mode ที่เลือก
ทดสอบขับขี่ Mini JCW Countryman 2022
แม้รุ่น Countryman จะมีตัวถังที่ใหญ่ที่สุด เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ แต่การใช้งานในเมือง ก็ยังเป็นรถที่ควบคุมได้ง่าย คล่องตัว ซอกแซกไปตามสภาพการจราจรได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณชอบรถนุ่มสบายก็จะหาไม่ได้ใน มินิ เพราะเป็นที่รู้กันว่า มินิ เป็นรถที่มี DNA มาจากรถ Go-Kart ซึ่งเป็นสิ่งที่ มินิ ยึดมั่นมาโดยตลอด และยิ่งกับ JCW แล้วด้วยนั้น ยิ่งแข็งมากขึ้นแต่สิ่งที่ได้คือ ช่วงล่างเกาะถนนมาก พวงมาลัยไว แม่นยำ และให้การตอบสนองที่ดี
การใช้งานนอกเมือง เพียงแค่กดคันเร่ง ก็จะได้อารมณ์เดียวกับรถสปอร์ตคันใหญ่เลยทีเดียว และทุกครั้งที่เกียร์เปลี่ยนเสียงจากท่อไอเสีย จะดังปุ้งปั้ง ได้ทั้งอารมณ์ในการขับขี่ พร้อมกับความแรงนั้นหลังติดเบาะตลอดเวลา เข็มวัดความเร็วกวาดไปอย่างรวดเร็ว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะตัวรถนิ่งมาก เรียกว่าไม่รู้สึกอะไรนอกจากความเร็วที่เพิ่มขึ้น ถ้ากลับมาดูที่ สเปกเครื่องยนต์ จากโรงงาน สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 5.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กม./ชม.
และยิ่งในโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกใช้ เริ่มจากโหมด Eco เป็นที่เข้าใจได้ว่าใช้ในเมืองเป็นหลัก เพราะจะช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมันแน่นอนรวมทั้ง คันเร่งที่จะรู้สึกหน่วง ๆ ไม่ไวจนเกินไป ส่วนในโหมด Mid การตอบสนองของคันเร่งจะไวขึ้น แต่ถ้าอยากซิ่งให้เปลี่ยนไปที่โหมด sport เลยครับ มาเต็มตั้งแต่พวงมาลัยตอบสนองไวขึ้น ช่วงล่างที่แข็งขึ้น คันเร่งที่กดเบา ๆ รถก็พร้อมที่จะทะยานออกตลอดเวลา รอบเครื่องที่สูงเพื่อความไวในการเรียกใช้พลัง และสิ่งสำคัญคือเสียงท่อที่คำรามตลอดเวลา
ในเรื่องของความแรงนั้น ไม่มีอะไรที่น่ากังวลเลยแม้แต่น้อย อัตราเร่งแรงเกินตัว ขับขึ้นเขา-ลงเขา ได้แบบสบายแน่นอน ในการเข้าโค้ง ก็ทำได้อย่างมั่นใจ ช่วงล่างหนึบมากแต่ก็ต้องแลกกับความกระด้าง หากคุณชอบรถที่มีช่วงล่างนุ่มนวล บอกเลยว่า คันนี้ไม่ตอบโจทย์คุณแน่นอน แต่ถ้าคุณต้องการรถที่ขับสนุก แรง ช่วงล่างหนึบ กะทัดรัด ไม่เทอะทะ ผมขอเชียร์คันนี้เลยครับ สำหรับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงตาม Eco Sticker เคลมไว้ที่ 12.7 กม./ล. แต่จากการใช้งานจริง ผมทำได้ประมาณ 10.3 กม./ล. (รวมวิ่งในเมืองที่รถติด ๆ และขับออกต่างจังหวัด)
สรุปโดยรวม
Mini John Cooper Works Countryman ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ฉีกกฎภาพจำของใครหลายคน บางคนติดภาพจำที่ว่า รถมินิ มีตัวถังเล็ก นั่งหลายคนไม่ได้ ขับเดินทางไกลต้องเหนื่อยแน่ ๆ เลย แต่หากคุณได้ลองสัมผัส Mini John Cooper Works Countryman จะรู้เลยว่า “ผมไม่เล็กนะครับ” ส่วนในเรื่องของความแรงนั้น แรงเกินคาด เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับสายสปอร์ต และรถมินิสำหรับในมุมมองผม ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่สิบปี ก็ยังคงเป็นรถที่ น่ารัก ดูดี ไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับราคาค่าตัวของ Mini John Cooper Works Countryman จะอยู่ที่ 3,648,000 บาท
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับเรา Autospinn
ส่วนใครที่กำลังมองหารถยนต์มื
ความคิดเห็น