รีวิว MG4 รถยนต์ไฟฟ้า ที่ขับดีที่สุด ในงบไม่เกินล้าน EV Talk EP10 Share this
EV Talks (Video)
โหมดการอ่าน

รีวิว MG4 รถยนต์ไฟฟ้า ที่ขับดีที่สุด ในงบไม่เกินล้าน EV Talk EP10

Paknam536
โดย Paknam536
โพสต์เมื่อ 20 February 2566

MG4 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจากแบรนด์ MG ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานโครงสร้างใหม่ที่เกิดมาเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย 2 รุ่น ด้วยราคาเริ่มต้น 869,000 บาท


MG4

MG4 หรือชื่อเต็ม NEW MG4 ELECTRIC เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM นวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ สามารถปรับใช้ร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ครอบคลุมหลากหลายเซกเมนต์ หลายขนาด ตั้งแต่รถแฮทช์แบ็ค ซีดานไปจนถึงรถกระบะ รองรับการใช้แบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุ 

 

 

MG4 Electric รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง หนึ่งเดียวในพิกัดราคา 1 ล้านบาท เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกวิจัยและพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ต้น มิได้เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์สันดาปแต่อย่างใด ส่งผลให้ตัวรถ ฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ในการพัฒนารถยนต์รูปแบบเก่าๆ

มีการปรับปรุง ปรับตำแหน่ง อุปกรณ์ต่างๆ ของตัวรถใหม่ ให้เหมาะสมกับการใช้พื้นที่ตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของฐานล้อ ที่ถูกยืดยาวมากเป็นพิเศษถึง 2,705 มม. และมีฐานล้อที่กว้างมากถึง 1,562 มม. เทียบเท่ากับรถยนต์ระดับ C-Segment เลยทีเดียว ทว่า MG นำเสนอ MG4 ออกมาบนพิกัดของตัวถังรถยนต์ B-Segment เท่านั้น

 

MG4 เขาใหญ่

 

นอกจากนี้ ยังพัฒนาให้ชุดแบตเตอรี่ของรถ ถูกเก็บไว้ในโครงสร้างของตัวรถเลย ส่งผลให้รถมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมาก
และลดปัญหาเรื่อง "แบตห้อย" ไปได้เลย เพราะจุดที่ต่ำที่สุดของรถไม่ใช่แบตเตอรี่อีกต่อไป แต่เป็นชุดช่วงล่าง ซึ่งก็เหมือนกับรถยนต์ปกติทั่วไปแล้ว

ไฮไลท์สำคัญของ MG4 คันนี้คือ "ช่วงล่าง" MG4 ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบ อิสระแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลัง ใช้แบบอิสระ 5 ลิงก์ ผสานเข้ากับโครงสร้างตัวถังใหม่ที่เกิดมาเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ประกอบกับยางติดรถจากโรงงานที่มีประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้รถคันนี้มีประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่สูงมาก

ซึ่งจากประสบการทดสอบรถยนต์ของผมเอง กล้าตอบว่า "มันให้ประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ทุกรุ่นในประเทศไทย ในพิกัดราคานี้แน่นอน" เพราะมันเหนือกว่าทั้งด้านการยึดเกาะ และความนุ่มนวลเลย

 

โครงสร้าง MG4

 

ขุมพลังของตัวรถ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 125 kW มอบกำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง แม้ตัวเลขอาจดูไม่หวือหวามาก แต่ด้วยความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้แรงม้าและแรงบิดของมันทำงานทันทีที่กดคันเร่งจมมิด ประสบการณ์หลังติดเบาะ หาได้จากรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น แต่ประสบการ "โดนถีบออกไป" หาได้จากรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น

MG4 รุ่น X ใช้ไฟหน้า LED Galaxy technology matrix ดีไซน์สปอร์ต เน้นความเฉียบคม มาพร้อมกับระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ 

 

MG4 ไฟหน้า

 

กระจังหน้าแบบปิดทึบ ตามสไตล์ของรถยนต์ไฟฟ้า โดยดีไซน์โดยรวมของ MG4 จะเน้นไปที่ความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว

มาพร้อมไฟเลี้ยว LED ติดอยู่บริเวณด้านข้าง วางเป็นแนวตั้ง ส่วนช่องด้านล่าง เป็นส่วนของช่องรับอากาศไปยังระบบระบายความร้อนต่างๆ ของตัวรถ อาทิ ชุดเครื่องปรับอากาศ, ชุดระบายความร้อนมอเตอร์ และแบตเตอรี่

 

MG4 กันชน

 

มองจากด้านข้างตัวรถ จะเห็นแนวหลังคาที่ยกตัวสูงขึ้นด้านหน้า และค่อยๆ ลาดลงไปด้านหลัง จะไม่ได้ลาดลงเยอะไปซะทีเดียว แม้ตัวรถดูมีมิติที่เหมือนจะเล็ก ทว่าขนาดจริงของมันใกล้เคียงกับ Honda HR-V 2023 เลยทีเดียว

อีกจุดเด่นนั่นคือฐานล้อของตัวรถที่ยาวมากๆ โดยมันมีฐานล้อยาวมากถึง 2,705 มม. ซึ่งสังเกตุได้อย่างชัดเจนว่าระยะห่างของล้อจากกันชนหน้า-หลัง สั้นมากๆ ทำให้มันเป็นรถที่เลี้ยวได้ง่ายมากๆ

 

MG4 ด้านข้าง

 

ล้อติดรถของ MG4 ใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบ Aero Cover รัดยาง Continental Max Contract MC6 ขนาด 215/50 R17

 

ล้อ MG4

 

ดีไซน์ด้านหลัง MG4 รุ่น X ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของรถคันนี้เลย โดดเด่นด้วยไฟท้าย LED แบบ 3 มิติ ที่ลากยาวมาบรรจบที่โลโก้ MG ตรงกลาง และมาพร้อมกับสปอยเลอร์ท้ายบริเวณหลังคารถ ซึ่งออปชั่น 2 ชิ้นนี้ มีเฉพาะรุ่นท็อปเท่านั้น โดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่า 2 ชิ้นนี้แหละ ที่ช่วยทำให้ดีไซน์ของ MG4 ดูดีมากเป็นพิเศษ

ส่วนประตูห้องเก็บสัมภาระตอนท้าย เป็นระบบเปิด/ปิดด้วยมือ

 

MG4 ไฟท้าย

 

บริเวณด้านล่างของส่วนท้ายรถ MG4 ถูกออกแบบให้ปิดทึบ เพื่อเน้นด้านอากาศพลศาสตร์โดยเฉพาะ ลดลมหวนที่จะเกิดขึ้นบริเวณท้ายรถ มาพร้อมกับเซ็นเซอร์เตือนการถอยชน

 

MG4 หลัง

 

MG4 ภายใน

ภายในห้องโดยสารของ MG4 ถูกออกแบบโดยเน้นความมินิมอล ลดปุ่มกดที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ เอาไปไว้ในหน้าจอแทน โดดเด่นด้วยหน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว ที่ทำหน้าที่ควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ของตัวรถไว้อย่างครบครัน ทั้งระบบความบันเทิง, ระบบปรับอากาศ และการควบคุมการขับขี่

MG4 Interior

MG4 Infotainment

 

เรือนไมล์ ใช้หน้าจอขนาด 7 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่พื้นฐานครบครัน

 

MG4 Dashboard

 

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นขนาดใหญ่แบบ 2 ก้าน ปรับได้ 4 ทิศทาง

 

MG4 Steering wheel

 

แป้นเกียร์ไฟฟ้าแบบหมุน ตามสไตล์ของรถยนต์ไฟฟ้าจาก MG

 

MG4 Gear selecter

 

กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมกล่องเก็บแว่นบนเพดาน

 

MG4 Rear mirror

 

MG4 รุ่น X ให้เบาะนั่งแบบทูโทน สีขาวสลับดำ ตัดด้วยสีส้ม

 

MG4 Seat

MG4 Door interior

MG4 rear seat

 

เบาะนั่งด้านหลัง สามารถพับเรียบได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ

MG4 rear seat

MG4 Interior

 

 

สเปค MG4

มอเตอร์ มอเตอร์แม่เหล็กถาวร เดี่ยว ขนาด 125 kW
พละกำลังสูงสุด 170 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
ระยะทางขับขี่สูงสุด / 1 การชาร์จ มาตรฐาน NEDC 425 กิโลเมตร
ระบบขับเคลื่อน RWD ขับเคลื่อนล้อหลัง
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม 8 วินาที
ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน LFP
พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh) 51
แรงดันไฟฟ้า (V) 400
รองรับการชาร์จ AC Type 2 (kW) 6.6
รองรับการชาร์จ DC CCS 2 (kW) 80
พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า
ระบบกันสะเทือนหน้า / หลัง อิสระแม็กเพอร์สันสตรัท / อิสระ 5 ลิ้งก์
ระบบเบรคหน้า/หลัง ดิสก์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อน / ดิสก์เบรก
ขนาดยางล้อ 215/50 R17

 

มิติตัวรถ MG4

ขนาดตัวรถภายนอก ยาว x กว้าง x สูง (มม.) 4,287x 1,836 x 1,516
ระยะฐานล้อ (มม.) 2,705
ระยะห่างจากพื้น (มม.) 117
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) 1,650

 

พื้นที่เก็บสัมภาระ MG4

ช่องเก็บของด้านหน้า (Frunk) -
พื้นที่เก็บสัมภาระ 363 ลิตร
พื้นที่เก็บสัมภาระ เมื่อพับเบาะหลังทั้งหมด 1,177 ลิตร

 

 

 

 

 

 

 

ระบบความปลอดภัย MG4 X

  1. เบรกมือไฟฟ้า
  2. ระบบป้องกันรถไหลโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH
  3. ระบบป้องกันล้อล็อก และระบบกระจายแรงเบรก
  4. ระบบเสริมแรงเบรก
  5. ระบบความคุมการทรงตัว
  6. ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง
  7. ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
  8. ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  9. ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
  10. ไฟสัญญาณเตือนเมื่อเบรกฉุกเฉิน
  11. ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง
  12. ระบบเตือนการชน พร้อมระบบช่วยเบรก
  13. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
  14. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
  15. ระบบเตือนมุมอับสายตา
  16. ระบบช่วยเบรกขณะถอย
  17. ISOFIX
  18. ถุงลมรอบคัน
  19. กล้อง 360 องศา แบบ 3 มิติ
  20. เซ็นเซอร์ถอยหลัง
  21. กุญแจ Immobilizer

 

สิ่งอำนวยความสะดวก MG4 X

  1. V2L ระบบปล่อยกระแสไฟฟ้าออกสู่ภายนอก
  2. พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง
  3. เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  4. แท่นชาร์จไร้สาย
  5. ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  6. กระจกมองหลังตัดแสง
  7. กรอง PM 2.5

 

MG4 เขาใหญ่

 

ขับ MG4 ขึ้นเขาใหญ่

การทดสอบขับขี่ MG4 เราทดสอบในภารกิจ Khaoyai Challenge ของเรา ขับจากกรุงเทพ ไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากฝั่งปราจีนบุรี มุ่งหน้าโคราช รวมระยะทางกว่า 250 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางทั้งการขับในเมือง, ทางด่วน, ทางไกล และขึ้น-ลงเขา ครบทุกรูปแบบการใช้งาน รวมไปถึงการชาร์จแบตเตอร์รี่ DC Fastcharge จะใช้งานแล้วเป็นอย่างไร Software ของตัวรถ ทำงานได้ดีขนาดไหน มีจุดไหนน่าสังเกตุบ้าง

สัมผัสแรกที่ได้จากรถคันนี้ มันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับดีที่สุดเท่าที่เคยพบมาในพิกัดราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ไฮไลท์สำคัญของรถรุ่นนี้นั่นคือช่วงล่างของตัวรถที่ถูกสร้างมาได้ยอดเยี่ยมอย่างน่าอัศจรรย์ มีความสามารถในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมเกินราคา มิหน่ำซ้ำยังมอบความนุ่มนวลได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะพบเจอกับรถยนต์ที่มีการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

 

MG4 เขาใหญ่

 

โดยปกติแล้ว รถยนต์ที่มีลักษณะช่วงล่างที่เน้นการยึดเกาะถนน มักจะมาพร้อมกับความแข็งกระด้างเป็นของแถม ทว่า MG4 นอกจากมอบสมรรถนะการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมแล้ว มันยังมอบความนุ่มนวลได้เป็นอย่างดีด้วย การซับแรงกระแทกจากการขับผ่านเส้นทางที่ไม่เรียบเนียน หลุม ท่อ บ่อ ลูกระนาด เจ้าช่วงล่างของ MG4 เอาอยู่ทั้งหมด ลดแรงสั่นสะเทือนเข้ามาในห้องโดยสารได้อย่างน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

การขับเคลื่อนล้อหลัง ถือเป็นจุดเด่นของรถคันนี้ โดยปกติแล้วรถเก๋งขับเคลื่อนล้อหลัง เรามักจะพบกับรถสปอร์ตซะมากกว่า แต่ MG4 ให้สิ่งนี้มาแล้วเรียบร้อย ทุกครั้งที่กดคันเร่งเข้าไป เราจะสัมผัสได้ถึงแรงผลักจากด้านหลังอย่างชัดเจน แตกต่างจากรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ที่เราจะรู้สึกถูกลากออกไปมากกว่า

กลับกัน เวลาเรายกคันเร่ง เพื่อปั่นไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่ ก็จะเป็นอาการเหมือนกับ "โดนดึงกางเกง" ที่โดยปกติแล้วเราจะเจอกับอาการหน้าทิ่ม ในรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้านั่นเอง

 

MG4 ขึ้นเขา

 

MG4 การกินไฟ

ด้านอัตราการบริโภคพลังงาน และระบบจัดการพลังงานของ MG4 เรามองว่ามีข้อสังเกตที่สำคัญอยู่ เพราะมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาด B-Segment ทว่ากลับมีอัตราการใช้พลังงานที่มากกว่า 160 Wh/km. เลยทีเดียว ซึ่งหากเปรียบเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าพิกัด B-SUV ที่มีขนาดใหญ่กว่า พบว่า MG4 มีอัตราบริโภคพลังงานที่สูงกว่าราวๆ 10-15% เลยทีเดียว

ทั้งนี้ ใน Software ของ MG4 มีการระบุทั้งหมดว่ารถมีการใช้ไฟฟ้าไปกับอะไรบ้าง พบว่ามีการใช้ไฟฟ้าไปกับระบบขับเคลื่อนแทบทั้งหมด

 

MG4 กินไฟ

 

การชาร์จ MG4

ในส่วนของการชาร์จ MG4 เราทดสอบการชาร์จ DC ที่สถานีชาร์จของ PTT EV Station+ ที่ตู้ชาร์จ DC กำลัง 120 kW ได้ผลการทดสอบมาดังนี้
ช่วง 17-60% รับไฟฟ้าที่ 71.6 kW
ช่วง 61-70% รับไฟฟ้าที่ 60kW ลดลงเรื่อยๆ ถึง 40 kW
ช่วง71-80% รับไฟฟ้าที่ 40kW ลดลงเรื่อยๆ ถึง 32 kW
ช่วง 81-90% ขึ้นไป รับไฟฟ้าที่ 24 kW ลดลงเรื่อยๆ ถึง 14 kW
ช่วง 91-98% รับไฟฟ้าที่ 14 kW ลดลงเรื่อยๆ ถึง 7 kW
ช่วง 98-100% รับไฟฟ้าที่ 7kW

ส่วนระยะเวลาการชาร์จจาก 17 - 80% ใช้เวลา 40 นาที และจาก 81 - 100% ใช้เวลาอีก 40 นาที

 

MG4 ชาร์จ

 

จุดเด่น MG4

  1. ช่วงล่างดีที่สุดในงบประมาณไม่เกิน 1 ล้านบาท
  2. ขับขี่ได้สนุกที่สุดในงบ สามารถเอาไปขับเล่นในสนามแข่งได้เลย
  3. Software พัฒนามาเพื่อการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าแบบเข้าใจผู้ใช้ได้ดี
  4. ดีไซน์สะดุดตา โฉบเฉี่ยวทั้งคัน
  5. ออปชั่นครบๆ ในงบประมาณที่คุ้มค่า

MG4 ข้อสังเกต

  1. โหมดการขับขี่ ควรทำเป็นเมนูแยกออกมาในหน้าแรก หรือควรมีคีย์ลัด เพราะตอนนี้ต้องกดเข้าเมนูค่อนข้างลึกกว่าจะเจอ
  2. ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับขนาดตัวรถ
  3. ไม่มีราวจับในห้องโดยสาร
  4. ไม่น่าตัดปุ่ม KERS ออกไปใส่ในจอ (ปุ่มปรับระดับการหน่วง เพื่อปั่นไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่)

 

 

สรุป MG4 เหมาะกับใคร

MG4 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับคนที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าทรง Hatchback ในงบประมาณไม่เกิน 1 ล้าน ที่ต้องมีดีไซน์สปอร์ต ฟังก์ชั่นต่างๆ มากันแบบครบๆ และที่สำคัญ "ช่วงล่างที่ดี" เพราะนี่ถือเป็นรถยนต์ที่มีช่วงล่างดีที่สุดในงบประมาณไม่เกิน 1 ล้านบาท ณ ตอนนี้ เรียกได้ว่าทำมาได้ดีกว่ารถยนต์ทุกรุ่นในงบเท่ากันอย่างแน่นอน

อีกกลุ่มหนึ่งที่เหมาะ นั่นคือกลุ่มเน้นความสนุกสนานในการขับรถยนต์ เพราะ MG4 จัดเป็นรถยนต์ที่ขับสนุกที่สุดแล้วในราคานี้ ด้วยช่วงล่างที่คุ้มค่าเกินราคา พละกำลังที่ถือว่ามาไวทันใจ ทว่าเรื่องที่น่าเสียดายคือ "อัตราบริโภคพลังงานไฟฟ้า" ที่สูงไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถ ส่งผลให้มันสามารถขับขี่ด้วยระยะทางจริงได้ราวๆ 250 กิโลเมตรเท่านั้น

แต่ถ้าใช้คันเร่งเนียนๆ ไม่ซิ่งเยอะมาก 1 ชาร์จไปได้เกิน 300 กิโลเมตรอย่างแน่นอนครับ

 

MG4 ต่างจังหวัด

 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car

 


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ