เปิดมุมมองสู่โลกแห่งออฟโรด กับ Jeep Wrangler Rubicon Share this

เปิดมุมมองสู่โลกแห่งออฟโรด กับ Jeep Wrangler Rubicon

Pakkawat Unchalee
โพสต์เมื่อ 19 July 2566

 

การเปิดโลกออฟโรดครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย Jeep ซึ่งได้จัดคอร์ส “Jeep® 101 Academy” เพื่อเป็นการเรียนรู้บททดสอบเพื่อฝึกทักษะการขับขี่แบบออฟโรด แน่นอนว่ารถที่เราจะได้ขับนั้นต้องเป็นเจ้าพ่อแห่งเส้นทางออฟโรดอย่าง Jeep Wrangler Rubicon ด้วย บอกเลยว่าคอร์สนี้สนุกมาก!


สนามเทสรถในงาน Jeep ® 101 Academy

สนามเทสรถในงาน Jeep ® 101 Academy

จุดเด่นของงาน Jeep® 101 Academy จะเป็นคอร์สที่จัดในสนามทดลองขับรถ Jeep ตั้งอยู่ในย่านนิมิตใหม่ กรุงเทพมหานคร ณ โชว์รูม P&S Jeep นิมิตใหม่ โดยผู้เข้าอบรมในคอร์สนี้จะได้รับความรู้เรื่องการขับขี่แบบออฟโรดจากผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัวในสนามการทดสอบที่เสมือนว่าเราได้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ

สนามจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซน A มี 3 Stations และ โซน B อีก 2 Stations ซึ่งทั้งหมด 5 Stations นี้จะเป็นการจำลองสภาพเส้นทางที่เราจะต้องพบเจอจริงๆ เมื่อเราเริ่มเข้าสู่วงการการขับขี่แบบออฟโรด เช่น 

  • Stations ที่ 1 จุดลาน Warm-Up ที่มีสภาพเส้นทางเป็นทางลูกรัง มีทางโค้งมุมหักเลี้ยวแคบๆ และ เนินตัดสลับกันเล็กน้อย เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องและทำความเข้าใจกับรถที่เราจะขับกัน
  • Stations ที่ 2 จุดดาวอังคาร มีสภาพเส้นทางเป็นทางดินแคบๆ มีหลุมบ่อที่ค่อนข้างลึก และมีเนินและหลุมตัดสลับกันภายในทางดินนั้นอีกทีนึง
  • Stations ที่ 3 จุดหลุมอุกกาบาต มีสภาพเส้นทางเป็นหลุมที่ลึกมากๆ และมีความลาดชันสูงทำให้ยากต่อการมองเห็นทัศนวิศัยด้านหน้ารถและการขับขี่รถ
  • Stations ที่ 4 จุดลานแอตแลนติก ที่มีสภาพเส้นทางแบบเนินตัดสลับต่อเนื่องไปจนถึงเนินดินที่เทโค้งแบบมีองศาที่ชันราวกับว่าขับขึ้นไปแล้วรถจะพลิกคว่ำ ปิดท้ายด้วยบ่อโคลนเละๆ ที่ชวนใช้ Traction ของรถ
  • Stations ที่ 5 จุดล่องแก่ง มีสภาพเส้นทางเหมือนการจำลองสภาพแม่น้ำลำธารที่ค่อนข้างลึกในระดับหนึ่ง ทอดยาวต่อเนื่องไปจนถึงเส้นทางที่เป็นร่องดินโคลนลึกๆ และเต็มไปด้วยน้ำสีดำทมิฬพร้อมกับโคลนตมเละๆ ซึ่งจะยากต่อการบังคับและควบคุมตัวรถ

ด่านทดสอบรถในงาน Jeep ® 101 Academy

ด่านทดสอบที่มีความท้าทายเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อทดสอบสมรรถนะของ Jeep โดยตรง เช่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Rock Trac 4x4 พร้อมอัตราทดเกียร์ 4:1 ระบบปลดเหล็กกันโคลงไฟฟ้า Electronic Front Sway Bar Disconnect, ระบบล็อคเฟืองขับหน้าหลังแบบไฟฟ้า Tru-lok Front & Rear Locking Differential

ระบบ Off Road+ ผ่าน 5 คุณสมบัติที่สะท้อนความเป็นตัวจริงของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ Jeep® การยึดเกาะ หรือ Traction, การควบคุมที่แม่นยำบนทางวิบากและทางแคบ Maneuverability, ความยืดหยุ่นของระบบกันสะเทือน Articulation, การลุยน้ำ Water Fording และ ความสูงใต้ท้องรถ หรือ Ground Clearance เป็นต้น

นอกจากการได้ทดสอบสมรรถของรถยนต์จากทาง Jeep แล้ว บอกเลยว่าคุณจะได้ทักษะการขับขี่แบบออฟโรดจากผู้เชี่ยวชาญและจะทำให้คุณไม่ต้องกลัวอีกต่อไปเมื่อนำรถไปลุย ซึ่งทาง จี๊ป ประเทศไทย ยังได้จัด “Jeep® 101 Academy:Jeep® Test Day” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจและต้องการทดลองขับ Jeep ในแบบออฟโรดด้วย ในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 2566 ซึ่งสามารถติดต่อและลงทะเบียนกับเฟซบุ๊กแฟนเพจ Jeep Thailand ได้เลย

ทดสอบ Jeep Wrangler Rubicon

รถยนต์ที่ใช้ทดสอบในงาน Jeep® 101 Academy

ในส่วนของรถยนต์ที่เราใช้ทดสอบกันในงาน Jeep® 101 Academy ก็ไม่ใช่รุ่นอื่นใด นั่นก็คือ Jeep Wrangler Rubicon ราชาออฟโรดสัญชาติอเมริกันที่สะท้อนตัวตนผ่านชื่อของสภาพเส้นทางออฟโรดที่โหดร้ายที่สุดอย่าง Rubicon เป็นตัวโหดโดดเด่นของทาง Jeep เขาเลย ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละสนามที่เราได้พบเจอนั้น ถ้าไม่ใช่ Jeep และไม่มีผู้เชี่ยวชาญไปด้วย ผมก็คงคว่ำคาเนินไปแล้ว

เครื่องยนต์ของ Jeep Wrangler Rubicon

สำหรับ Jeep Wrangler Rubicon นั้นจะใช้เครื่องยนต์ Petrol 4Cyl. 2.0L Turbo หรือก็คือ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ที่มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4 พร้อมโหมดขับเคลื่อน 2H, 4H Auto, 4H Part Time และ 4L ให้พละกำลังพุ่งๆ ที่ 270 แรงม้า กับแรงบิดแน่นๆ อีก 400 นิวตันเมตร พร้อมลุยทุกสภาพเส้นทาง

ในการทดสอบเราจะได้ลองใช้โหมดที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่แบบออฟโรดทั้งหมดซึ่งต้องบอกว่าแม้ตัวรถจะมีขนาดใหญ่มาก หนักมาก และ สูงมาก ที่ ยาว 4,334 มิลลิเมตร กว้าง 1,825 มิลลิเมตร สูง 1,892 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 2,459 มิลลิเมตร แต่เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบขับเคลื่อน และ โหมดต่างๆ มันทำให้รถคันนี้ผ่านทุกสถานีทดสอบได้แบบปลอดภัยสนุกมากสำหรับการขับขี่

Sway Bar ใน Jeep ช่วยอะไรในการขับออฟโรด

ในสภาพเส้นทางโซน A เราได้มีการทดสอบการใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part Time ประกอบกับโหมด Sway Bar ซึ่งต้อบอกว่าเป็นหัวใจหลักในการขับออฟโรดของ Jeep และไม่มีใครทำได้ดีเท่า Jeep เลยก็ว่าได้

เมื่อกดปุ่ม Sway Bar ระบบก็จะทำการตัดการเชื่อมต่อของเหล็กกันโคลงด้านหน้าออก ซึ่งประโยชน์ของปุ่มนี้คือเอาไว้ใช้เมื่อต้องขับผ่านเส้นทางที่เป็นเนินสลับหรือเนินที่มีความลาดเอียงสูงๆ หรือใช้ในกรณีที่ช่วงล่างติดเนินจนล้อแขวนลอย

Sway Bar ตัวช่วยสำคัญในการขับออฟโรด

แน่นอนว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่ชาวออฟโรดจะต้องพบเจอแน่ๆ ในการขับจริง แต่สำหรับ Wrangler Rubicon เมื่อเรากดปุ่ม Sway Bar ก็จะทำให้ล้อรถทิ้งตัวลงพื้นได้อย่างเป็นอิสระ ช่วยให้ผ่านเส้นทางที่เป็นอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย และรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยในการขับขี่เพราะล้อติดพื้นและมี Traction ตลอด

โหมดการขับขี่ของ Jeep สำหรับการออฟโรด

นอกจากนี้ในโซน A ก็ยังมีอีก 1 สถานนีที่ชูจุดเด่นของโหมดช่วยขับและกำลังของเครื่องยนต์ได้อย่างดีนั่นนก็คือสถานีหลุมอุกกาบาตซึ่งมีสภาพเส้นทางเป็นทางลาดชัน ชันแบบที่ว่าตูดชี้ฟ้าหน้าจมดิน พอขึ้นมาจากหลุมนี้แล้วหน้าก็ชี้ฟ้าตูดก็มุดดินแทนเลยทีเดียว ตัวช่วยในด่านนี้คือโหมดช่วยออกตัวและชะลอตัวสำหรับทางลาดชันซึ่งงายดายแค่คลิกเดียว

ด้วยกำลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ของ Wrangler Rubicon ทำให้โหมดช่วยออกตัวและชะลอตัวสำหรับทางลาดชันนั้นใช้งานได้สบายมาก เพียงแค่กดปุ่มเดียวตัวรถก็จะออกตัวชะลอขับลงเส้นทางที่ลาดชันมากๆ และค่อยๆ ขับขึ้นทางลาดชันให้เราเองด้วยพละกำลังที่มหาศาลโดยที่เราแทบไม่ต้องเหยียบคันเร่งและเบรกเลย แถมใช้ได้ทั้งเดินหน้าและถอยหลังด้วย ขอแค่เราคอยประคองพวงมาลัยและมองไลน์การขับผ่านจอแสดงผล 8.4 นิ้ว ตรงกลางคอนโซลให้ดีก็ผ่านไปได้แบบชิลล์ๆ

ฝึกการขับขี่แบบออฟโรดกับ Jeep

พอผ่านมาถึง โซน B ซึ่งเป็นโซนที่มีความท้าทายสูงมากสำผมที่เป็นผู้ขับขี่ แต่เมื่อผ่านโซน A มาแล้วก็ทำให้มั่นใจได้ว่าถ้าขับ Jeep ไม่ว่าจะทางแบบไหนเราก็รอดและไม่คว่ำแน่นอน การผ่านโซน B ของผมจึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไรเหมือนตอนที่ยืนดูสื่ออื่นๆ ทดสอบกัน แต่กลับดูเป็นเรื่องท้าทายและน่าสนุกมาก

ในโซนนี้จะไม่ได้เน้นใช้งาน Sway Bar เท่าไหร่ ด้วยสภาพเส้นทางที่เป็นแอ่งน้ำ ทางดินโคลน และ บ่อโคลนตมสีดำทิฬแบบเละกำลังได้ที่ การขับรถผ่านเส้นทางแบบนี้จึงไม่ได้ต้องการความยืดหยุ่นของระบบช่วงล่างเท่าไหร่ แต่ต้องการกำลังของเครื่องยนต์และแรงตะกุยจากระบบขับเคลื่อนพร้อมกับการควบคุมที่ดีของตัวรถมากกว่า

สนามฝึกขับออฟโรด Jeep

โซน B จึงเน้นใช้การควบคุมรถกับ Traction Control พร้อมกับใช้ชุดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เป็นแบบ Diff-Lock ไฟฟ้าซึ่งมีส่วนช่วยเยอะมาก และใช้จอ 8.4 นิ้ว ที่คอนโซลกลางในหน้าฟังก์ชัน Off Road Pages ไม่ว่าจะเป็น Pitch & Roll ที่เป็นการดูระดับองศาความเอียงความชันของรถ ประกอบกับการใช้ TrailCam เพื่อเป็นไกด์ไลน์เส้นทางขับการเลี้ยวรถบนภาพจริงด้านหน้าที่เราอาจมองไม่เห็นจากสถานการณ์ต่างๆ

แม้ว่าในบางจุดเราจะมองไม่เห็นพื้นหรือทางข้างหน้าเลยแต่ฟังก์ชันเหล่านี้ก็สามารถเป็นตัวช่วยให้เราขับผ่านจุดต่างๆ ไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อถึงจุดที่ต้องการความยืดหยุ่นของช่วงล่างก็เพียงแค่กดปุ่ม Sway Bar ให้เหล็กกันโคลงตัดการทำงาน เมื่อออกตัวไปได้แป๊บเดียวเสียงดังแต๊กก็ดังขึ้น นั่นคือสัญญาณให้เรารู้ได้เลยว่ารถคันนี้พร้อมลุยแล้วหรือจะดูรายระเอียดการทำงานของระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอได้เลย บวกกับระบบพวงมาลัยที่ควบคุมง่ายกับ Traction Control ที่เร็วทันใจก็ทำให้เราผ่านทุกจุดได้สบายมาก

ฝึกการขับออฟโรดกับ Jeep

จากการที่เราลองทดสอบครบทุกจุดแล้วก็ทำให้เราได้รู้ว่าสภาพเส้นทางที่โหดร้ายขนาดนี้ถ้าไม่ใช่ Jeep Wrangler Rubicon ตัวผมและช่างภาพเองก็คงรถพลิกคว่ำคาเนินสูงหรือไม่ก็อาจจะรถติดแอ่งจมบ่อโคลนจนไม่ได้ขับไปไหนเลยก็เป็นได้ เป็นรถยนต์ราคา 5 ล้านกว่าบาทที่รู้สึกว่ามันน่าจะแพงกว่านี้ได้อีกนะรถที่ดีขนาดนี้ ยกให้เป็นราชาทางออฟโรดของแท้ไปเลยสำหรับคนที่ชอบขับออฟโรดและชอบแคมป์ปิ้งแบบผม

ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ที่สนุกเร้าใจแบบนี้และได้ความรู้เรื่องการขับขี่แบบออฟโรดแบบเต็มที่จากผู้เชี่ยวชาญจริงๆ สามารถลงทะเบียนงาน “Jeep® 101 Academy:Jeep® Test Day” เพื่อทดลองขับ Jeep ในแบบออฟโรดได้เลยที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Jeep Thailand งานนี้จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 2566 นี้ 

โดยสามารถสอบถามและลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ facebook.com/jeepthailand (https://m.me/jeepthailand) หรือ Line ID:@jeepthailand (https://lin.ee/G3Pgmh4) ภายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 อีกทั้งยังจะมีการจัดคอร์สระดับกลางและสูงในโอกาสต่อไปอีกด้วย ถ้าสนใจก็ตามมาเลยครับสนุกมาก!


อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ