NEW HONDA City Hatchback 2024 หน้าใหม่ ออปชั่นเต็ม Share this
รถเปิดตัวใหม่
โหมดการอ่าน

NEW HONDA City Hatchback 2024 หน้าใหม่ ออปชั่นเต็ม

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 07 February 2567

NEW HONDA City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่) นิยาม Move It Your Way  ไปทุกเส้นทางได้อย่างที่เป็นคุณ เป็นทุกอย่างที่อยากให้เป็น พร้อมราคาเดิม เพิ่มออปชั่นใหม่มากยิ่งขึ้น 


HONDA City hatchback 2024


NEW HONDA City Hatchback ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ซิตี้คาร์สปอร์ตแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ยอดนิยมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกขั้นสู่การเป็น “Energetic & Safety Hatchback” สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์ภายนอกใหม่รอบคัน ห้องโดยสารกว้างขวาง มาพร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ที่สามารถปรับพับเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายรูปแบบ 

พร้อมเครื่องยนต์ที่ตอบโจทย์ การใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งมีให้เลือกถึง  2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ทั้งระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานพลังกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยเกียร์ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองดั่งใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมยิ่งขึ้นที่ 27.8 กม./ลิตร และขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร ขับสนุกทุกอัตราเร่งด้วยกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

พิเศษสุดกับการเพิ่มรุ่นย่อยเพื่อตอบสนองตามความต้องการ e:HEV SV เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าให้ลูกค้าได้สัมผัสเทคโนโลยีฟูลไฮบริด e:HEV 

สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นเดิม

  • กระจังหน้าออกแบบใหม่ 
  • กันชนหน้า กันชนหลังออกแบบใหม่
  • สำหรับรุ่น e:HEV RS และ e:HEV SV กับสีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำแบบ Two-tone
  • แอร์หลังในรุ่น (e:HEV)
  • ล้อใหม่ทั้งสองรุ่น
  • เบาะหนังใหม่ ยกเลิกเบาะผ้าในรุ่น RS
  • หน้าจอกลางใหม่ขนาด 8 นิ้ว พร้อมความคมชัดที่มากขึ้น รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
  • จอผู้ขับขี่ใหม่ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
  • Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย



มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย พร้อมราคาพิเศษ ทั้งรุ่นระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่เข้าถึงง่ายยิ่งขึ้นด้วยราคาใหม่ พร้อมเพิ่มรุ่นย่อย e:HEV SV เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ให้กับลูกค้าได้สัมผัสเทคโนโลยีฟูลไฮบริด e:HEV 
จากฮอนด้า และรุ่นขุมพลัง VTEC TURBO ที่มาในราคาใหม่ พร้อมเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและอัปเกรดความปลอดภัยอีกขั้น กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย


ใหม่! กระจังหน้าโครเมียม (รุ่น S+, SV, และ e:HEV SV) กันชนหน้าและกันชนหลัง และล้ออัลลอยในดีไซน์ใหม่ 

เสริมความสปอร์ตพรีเมียมเต็มขั้นในรุ่น RS และ e:HEV RS ที่มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ เพิ่มสเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตแบบ RS

ใหม่! ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่ (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS)


ใหม่! สำหรับรุ่น e:HEV RS และ e:HEV SV กับสีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำแบบ Two-tone


2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ยังคงเหมือนเดิม


1. ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มอบสมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง ตอบโจทย์ในทุกเส้นทาง ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวผสานพลังกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบการตอบสนองได้ดั่งใจตั้งแต่ออกตัวกับแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และมีอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมยิ่งขึ้นที่ 27.8 กม./ลิตร 


2. ขุมพลังเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO ที่มาพร้อม Turbocharger ให้คุณขับสนุกทุกอัตราเร่ง มอบความแรง เร้าใจ ตอบสนองได้ตามคิดด้วยกำลังสูงสุด 122 แรงม้า และยังประหยัดน้ำมันเกินคาด อัปเกรดในทุกรุ่นย่อย มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING มอบความมั่นใจในทุกเส้นทางพร้อมฟังก์ชันใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) 


ห้องโดยสารกว้างขวาง อันเป็นจุดเด่นสำหรับ HONDA รองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะอัลตราซีท (ULTR)
ใหม่! รุ่น RS และ e:HEV RS มาพร้อมวัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง 
และรุ่น SV และ e:HEV SV มาพร้อมวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา 
เบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ปรับพับได้ถึง 4 โหมด เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ดั่งใจ 

เชื่อมต่อทุกสมาร์ตไลฟ์สไตล์ให้สะดวกกว่า


ใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) ที่ได้พัฒนาการแสดงผลสีของหน้าจอให้คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมปรับโฉม Interface ใหม่ ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น 


ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)

การออกแบบภายนอก

โดดเด่นในทุกรายละเอียด กับดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมรอบคัน ด้วย 

  • ใหม่! กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่
  • ใหม่! กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ (รุ่น S+, SV, และ e:HEV SV)
  • ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (รุ่น S+, SV, และ e:HEV SV) พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV ที่ด้านท้าย เอกลักษณ์เฉพาะรถ e:HEV ของฮอนด้า (รุ่น e:HEV SV, และ e:HEV RS)
  • มือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
  • กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV, และ e:HEV SV)
  • เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV, และ e:HEV SV)


ใหม่! ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 15 นิ้ว (รุ่น S+) ขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)

การออกแบบภายใน

รุ่น SV

รุ่น RS

ใหม่! วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV) 
วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black 

รุ่น RS

รุ่น SV

มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)

พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเองด้วยเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มสเปซการใช้งานอเนกประสงค์ได้ดั่งใจ พร้อมด้วยห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ

ฮอนด้า โดยปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 โหมด ได้แก่ 

  • Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง
  • Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
  • Tall Mode: เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง
  • Refresh Mode: เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด

 

ในรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS 

  • ใหม่! กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS
  • ใหม่! กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS 
  • ใหม่! เพิ่มสเกิร์ตข้าง สไตล์สปอร์ตแบบ RS
  • สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตแบบ RS
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • ใหม่! ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์สปอร์ตใหม่
  • ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา 
  • เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา
  • ใหม่! ล้ออัลลอยสีดำแบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
  • ใหม่! วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง

2 ขุมพลังการขับเคลื่อน 

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง ตอบโจทย์ในทุกเส้นทางด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC 
i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่
ลิเธียม-ไอออน มอบการตอบสนองได้ดั่งใจตั้งแต่ออกตัวกับแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 
0 - 3,000 รอบต่อนาที

  • ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมยิ่งขึ้นที่ 27.8 กม./ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร และรองรับน้ำมัน E20 ทั้งนี้
  • ระบบฟูลไฮบริด e:HEV จะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสมและสถานการณ์การขับขี่ ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) 

พร้อมเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV SV เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่เทคโนโลยี
ฟูลไฮบริดจากฮอนด้าในรถซิตี้คาร์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ขุมพลัง TURBO กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ที่มาพร้อม Turbocharger ขับสนุกทุกเส้นทาง มอบอัตราเร่งแรงเร้าใจได้ตามคิดด้วยกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) อีกทั้งประหยัดน้ำมัน

  • ประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 100 กรัม/กิโลเมตร และรองรับน้ำมัน E20

เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) 
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) 
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น S+, SV และ RS) 
  • พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) 
  • (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ใหม่! ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) 

พร้อมด้วยเทคโนโลยีด้านการขับขี่และความปลอดภัย

  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV RS)
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) (รุ่น SV, RS, e:HEV SV 
  • และ e:HEV RS) ที่มีการพัฒนาคุณภาพของกล้องให้มีความละเอียดสูงขึ้น
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ถุงลมคู่หน้า
  • ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
  • ม่านถุงลมด้านข้าง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
  • เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและหลังแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) 
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) 
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)


อุปกรณ์สำหรับความบันเทิง

  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) ที่ได้พัฒนาการแสดงผลสีของหน้าจอให้คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมปรับโฉม Interface ใหม่ ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
  • ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) และด้านหน้า 1 ตำแหน่ง (รุ่น S+)

  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS)
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ปุ่ม ECON
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • กระจกมองหลังแบบตัดแสง
  • แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
  • ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
  • พนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคนขับและหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก 
  • (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
  • ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)

ฮอนด้า คอนเนค

Honda CONNECT เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ (รุ่น RS และ e:HEV RS) ทำงานผ่านแอปพลิเค Honda CONNECTชันบนมือถือ ที่ประกอบด้วย 8 ฟังก์ชันล้ำสมัยเชื่อมต่อและรองรับทุกการใช้งานของทุกไลฟ์สไตล์ 

  • My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
  • Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และบันทึกการเดินทางที่สามารถเลือกทริปโปรดและแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น
  • WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง* ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
  • Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น 
  • Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
  • Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน 
  • Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
  • Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน

Honda City Hatchback ใหม่ สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ 

  • สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) (Brilliant Sporty Blue Metallic) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำ (ทูโทน) (Two-tone) ใหม่! (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) 
  • สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (Ignite Red Metallic) (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS) 
  • สีขาวแพลทินัม (มุก) (Platinum White Pearl) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV, และ e:HEV RS) 
  • สีดำคริสตัล (มุก) (Crystal Black Pearl)
  • สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) (Meteoroid Gray Metallic)
  • สีเทาโซนิค (มุก) (Sonic Gray Pearl)
  • สีขาวทาฟเฟต้า (Taffeta White) (เฉพาะรุ่น S+)

Honda City Hatchback มีให้เลือก 2 ขุมพลังขับเคลื่อน รวม 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น
รุ่นขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย 

  • รุ่น e:HEV RS ราคา 799,000 บาท
  • รุ่น e:HEV SV ราคา 729,000 บาท


รุ่นขุมพลัง VTEC TURBO มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย 

  • รุ่น RS ราคา 749,000 บาท     
  • รุ่น SV ราคา 679,000 บาท
  • รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ