Polestar รถไฟฟ้าพรีเมี่ยมจากสวีเดน เตรียมบุกไทย Share this
EV Trends
โหมดการอ่าน

Polestar รถไฟฟ้าพรีเมี่ยมจากสวีเดน เตรียมบุกไทย

Paknam536
โดย Paknam536
โพสต์เมื่อ 19 June 2567

Polestar (โพลสตาร์) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมจากสวีเดน เตรียมเข้ามาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเร็วๆ นี้ ตามแผนการขยายสู่ตลาดใหม่ช่วงปี 2025


Polestar มาไทย

Polestar แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมจากสวีเดน เผยแผนการขยายเข้าสู่ตลาดรถยนต์ใหม่ๆ รวม 7 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศไทยของเรา ท่ามกลางยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

ซึ่งเป็นไปตามแผนการเร่งขอบเขตการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ไปยังตลาดใหม่ๆ ภายในช่วงปี 2025 นี้ โดย Polestar จะเข้าไปจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศที่มีปริมาณการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับ 2 ในยุโรป รองจากเยอรมัน ตามด้วยสาธารณรัฐเช็ก สโลวาเกีย ฮังการี โปแลนด์ บราซิล และไทย ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ

 

Polestar Thailand

 

โดยขณะนี้ Polestar กำลังขยายขอบเขตการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั่วโลก โดยมีการเริ่มใช้รูปแบบการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายแล้ว จากเดิมที่แบรนด์จำหน่ายเองเพียงผู้เดียว (เหมือนกับ Tesla)

ทว่าลูกค้าทุกท่านยังคงสามารถสั่งซื้อรถยนต์ Polestar รวมถึงปรับแต่งรถยนต์ของตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ได้ หรือจะทำผ่านตัวแทนจำหน่ายของ Polestar Spaces ได้ด้วยเช่นกัน ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อและเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า Polestar ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นโมเดลนี้แล้วในประเทศสวีเดนและนอร์เวย์

ซึ่งการจำหน่ายรถยนต์ผ่านตัวแทนจำหน่าย จะทำให้ Polestar เข้าถึงลูกค้าได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นมากกว่าการจัดจำหน่ายด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้แบรนด์เติบโตได้เร็วมากยิ่งขึ้น

 

Polestar Thailand

 

Polestar บริหารโดยผู้มากประสบการณ์

ในเชิงโครงสร้างการบริหารของแบรนด์ Polestar เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวกันของผู้บริหารระดับสูงในแบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลกจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารจาก Volvo Cars, Mercedes-Benz, Jaguar Land Rover และ NIO

Polestar คือ

Polestar คือแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยมสัญชาติสวีเดนที่มี Volvo Cars เป็นเจ้าของอยู่ด้วยสัดส่วน 48.3% จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด๊กของสหรัฐอเมริกาด้วยรหัส PSNY โดยเป้าหมายของแบรนด์มุ่งเน้นที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้การออกแบบและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางสู่พลังงานที่ยั่งยืน โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ปัจจุบันทำตลาดอยู่ใน 27 ประเทศทั่วโลก ทั้งในอเมริกาเหนือ, ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก

โดย Polestar วางแผนผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 5 รุ่นภายในปี 2026 ได้แก่

 

 

Polestar 2

Polestar 2 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในกลุ่มตลาดแมสคันแรกของแบรนด์ ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 ในรูปแบบรถฟาสท์แบ็กพิกัด C/D Segment โดยมีคู่เปรียบเทียบได้แก่ Tesla Model 3 และ BMW i4 ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 2020 ในเมืองไถโจว ประเทศจีน และทำยอดขายทะลุ 100,000 คันในปี 2022

Polestar 2 เป็นรถยนต์คันแรกในโลกที่มี Google ในตัว ด้วยระบบสาระบันเทิงที่ขับเคลื่อนโดย Android Automotive OS นับตั้งแต่เปิดตัว Polestar 2 ได้เห็นการเปิดตัวหลายรุ่น พร้อมตัวเลือกแบตเตอรี่ระยะไกลและระยะมาตรฐาน รวมถึงระบบส่งกำลังด้วยมอเตอร์คู่และมอเตอร์เดี่ยว การให้ความสำคัญกับรอยเท้าคาร์บอน (Carbon footprint) ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง และภายในรุ่นปี 2024 ก็ลดลงมากถึง 3 tCO2e นับตั้งแต่เปิดตัว

การอัพเดตรุ่นปี 2024 มีการเปิดตัวรุ่นระบบขับเคลื่อนล้อหลังสำหรับรุ่นมอเตอร์เดี่ยว ควบคู่ไปกับการปรับปรุงประสิทธิภาพและการเพิ่มระยะการทำงานอย่างมีนัยสำคัญ โดยสามารถทำระยะทางขับขี่ได้ไกลถึง 654 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

พละกำลังของ Polestar 2 มีมากถึง 476 แรงม้า และมีแรงบิดมากถึง 740 นิวตันเมตร ใช้ช่วงล่าง Öhlins DFV แบบปรับได้ และเบรก Brembo 4 ลูกสูบ

 

Polestar 2

 

Polestar 3

Polestar 3 รถเอสยูวีไฟฟ้า SUV พิกัดเดียวกับ Porsche Cayenne, BMW iX และ Audi Q8 e-tron เปิดตัวในปลายปี 2022 โดยใช้โครงสร้างพื้นฐาน SPA2 ที่พัฒนาโดย Volvo Cars มาพร้อมกับระบบประมวลผลหลักจาก NVIDIA และเป็นรถยนต์ Polestar รุ่นแรกที่มีเทคโนโลยี LiDAR จาก Luminar

Polestar 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ออกแบบให้มีความสามารถในการขับขี่ทางออฟโรดอย่างแท้จริง มาพร้อมกับการออกแบบให้แนวหลังคาลาดต่ำ ตัวรถกว้าง ส่งผลให้มีประสิทธิภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ตัวรถมีพละกำลังมากถึง 517 แรงม้า และมีแรงบิดมากถึง 910 นิวตันเมตร

แม้ว่าตัวรถจะมีความยาวถึง 4.9 เมตร มีระยะฐานล้อยาว 2.9 เมตร แต่ด้วยระบบบังคับเลี้ยวที่ออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถคันนี้ได้ง่ายเฉกเช่นเดียวกับการควบคุมรถสปอร์ต มาพร้อมกับชุดช่วงล่างแบบถุงลมปรับได้อัตโนมัติ ทำให้ Polestar 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เดินทางไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลุยได้อย่างไร้กังวลด้วยความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถมากถึง 250 มม. และควบคุมได้ง่ายแม้บนเส้นทางที่คดเคี้ยว

นอกจากนี้ Polestar 3 เป็นรถยนต์คันแรกของแบรนด์ที่ผลิตในสองทวีป โดยเริ่มการผลิตครั้งแรกในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ตามด้วยการผลิตเพิ่มเติมในเมืองริดจ์วิลล์ รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

Polestar 3

 

Polestar 4

Polestar 4 รถยนต์ C-SUV คูเป้ ที่มีขนาดเล็กกว่า Polestar 3 โดยจะวางพิกัดเดียวกับ BMW iX3, Tesla Model Y, Porsche Macan EV, Mercedes-Benz EQC กำลังเปิดตัวในปี 2024

Polestar 4 เน้นการออกแบบที่มีความล้ำสมัยเป็นสำคัญทั้งภายนอกและภายใน โดยมีการถอดหน้าต่างด้านหลังของตัวรถออก เพื่อเพื่อพื้นที่ให้กับผู้โดยสารด้านหลังเป็นพิเศษ ทำให้โดยสารได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น และมีพื้นที่เหนือศรีษะมากขึ้น โดยกระจกมองหลังใช้เป็นกล้องแทนที่กระจกมองหลังแบบทั่วไป

ห้องโดยสารด้านหลังที่ได้นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นพิเศษ โดยมีเบาะนั่งด้านหลังแบบปรับเอนได้และห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกเหมือนชั้นธุรกิจ วัสดุภายในประกอบด้วยพลาสติกรีไซเคิลในรูปแบบต่างๆ เช่น เบาะหุ้มแบบ Tailored Knit อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งผลิตจาก PET รีไซเคิล 100% และถักแบบ 3 มิติตามขนาด โดยปราศจากขยะ

ไฮไลท์ด้านเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง SuperVision (ADAS) ของ Mobileye ตั้งแต่เริ่มต้น โดยตั้งใจให้ Polestar 4 เป็นรถยนต์จากการผลิตคันแรกที่ใช้ Mobileye Chauffeur ร่วมกับ Luminar LiDAR

ในอนาคต เมื่อเปิดตัว Polestar 4 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำที่สุดในบรรดารถยนต์ Polestar ส่วนระบบขับเคลื่อน มีให้เลือกทั้งระบบส่งกำลังแบบมอเตอร์เดี่ยว และมอเตอร์คู่ที่มีกำลังสูงสุด 544 แรงม้า และแรงบิด 686 นิวตันเมตร

และ Polestar 4 จะเป็น Polestar ที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน โดยสามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.8 วินาที โดยช่วงล่างแบบแอคทีฟจะช่วยให้สามารถปรับไดนามิกตามสภาพแวดล้อมการขับขี่ มาพร้อมกับเบรก Brembo 4 ลูกสูบเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบด้านสมรรถนะ
Polestar 4 ผลิตในอ่าวหางโจว ประเทศจีน โดยมีแผนการผลิตเพิ่มเติมที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ในปี 2025

 

Polestar 4

Polestar 4

 

Polestar 5

Polestar 5 รถยนต์ไฟฟ้าตัวถังซีดานสไตล์คูเป้แบบ GT พิกัดเดียวกับ Mercedes-Benz EQS, Porsche Panamera โดยตัวรถสร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่วิจัยและพัฒนาโดยทีม Polestar ในอังกฤษ มาพร้อมกับตัวถังอลูมิเนียมและแบตเตอรี่แบบ 800 โวลต์ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุด โดยคาดว่าจะมีพละกำลังมากถึง 884 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร

Polestar 5 มีกำหนดเปิดตัวในปี 2025 โดย ณ ขณะนี้กำลังเตรียมโรงงานผลิตแห่งใหม่ซึ่งจะมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถยนต์ตัวถังอลูมิเนียมในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน และจะผลิต Polestar 6 ที่นี่ด้วยด้วยเช่นกัน

 

Polestar 5

 

Polestar 6

Polestar 6 รถสปอร์ตไฟฟ้าแบบโรดสเตอร์ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกไปในปี 2022 ตัวรถทำจากอะลูมิเนียมพื้นฐานเดียวกับ Polestar 5 แต่ถูกปรับให้มีขนาดเล็กลง โดยมันจะเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าสมรรถนะสูงแห่งอนาคตที่โดดเด่นด้วยความสามารถในการเปิดหลังคาได้ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ 800 โวลต์ มอบพละกำลังสูงสุด 884 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ Polestar R&D พัฒนาขึ้นเองในประเทศสวีเดน

Polestar 6 มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2026 โดยรถยนต์ 500 คันแรกจะเป็นรุ่นพิเศษ "LA Concept Edition" ถูกผลิตขึ้นในเมืองฉงชิ่น ประเทศจีน ด้วยไลน์ผลิตเดียวกับ Polestar 5

 

 

นอกจากนี้ยังมีโครงการ Polestar 0 ซึ่งสนับสนุนเป้าหมายอันทะเยอทะยานของบริษัทในการสร้างรถยนต์เพื่อการผลิตที่เป็นกลางต่อสภาพอากาศอย่างแท้จริงภายในปี 2030 โดยโครงการวิจัยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความรู้สึกเร่งด่วนในการดำเนินการต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ โดยการท้าทายพนักงาน ซัพพลายเออร์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ในวงกว้าง เพื่อขับไปสู่สังคมมลพิษเป็นศูนย์

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ