ประโยชน์ของเทคโนโลยี Biometric Authentication & Control หรือ ระบบยืนยันตัวตนและควบคุมรถยนต์ด้วยข้อมูลชีวภาพ จะมีค่ายรถยนต์ไหนบ้างนำมาใช้
ล้ำกว่ากุญแจ! ระบบ Biometric ปลดล็อก-สตาร์ท-สั่งงาน ปลอดภัยขั้นสุด
เทคโนโลยี Biometric Authentication & Control หรือ ระบบยืนยันตัวตนและควบคุมรถยนต์ด้วยข้อมูลชีวภาพ เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทในรถยนต์ยุคใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะใช้ลักษณะเฉพาะทางชีวภาพของเรา เช่น ลายนิ้วมือ, ใบหน้า, หรือเสียง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการใช้งานรถยนต์
รถยนต์ที่มีการนำเทคโนโลยี Biometric มาใช้
Genesis (แบรนด์หรูในเครือ Hyundai)
ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่นำระบบนี้มาใช้อย่างจริงจังในหลายๆ รุ่น เช่น Genesis GV60, GV70, G90 จะมี เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ผู้ขับขี่สามารถใช้เพื่อ:
- สตาร์ทรถยนต์ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
- โหลดโปรไฟล์ผู้ขับขี่อัตโนมัติ เช่น ปรับตำแหน่งเบาะ, กระจกมองข้าง, ระบบอินโฟเทนเมนต์, และการตั้งค่าอื่นๆ ให้ตรงกับที่บันทึกไว้
- อนุมัติการชำระเงินภายในรถ (In-car payments)
Hyundai
บริษัทแม่ของ Genesis ก็มีการพัฒนาระบบสแกนลายนิ้วมือในรถยนต์บางรุ่นเช่นกัน โดยอาจจะเริ่มจากตลาดในเกาหลีใต้หรือตลาดหลักอื่นๆ ก่อนที่จะขยายไปยังภูมิภาคอื่น
Tesla
ในส่วนของ Tesla มีการใช้ กล้องภายในรถ (Interior Camera) สำหรับระบบ Driver Monitoring เพื่อตรวจสอบผู้ขับขี่ขณะใช้ระบบ Autopilot และสำหรับ Sentry Mode นอกจากนี้การเข้าถึงรถผ่านระบบ Phone-as-Key ก็อาศัยการยืนยันตัวตนด้วย Biometric บนสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งานเช่นกัน
Mercedes-Benz
ในรถยนต์ Mercedes-Benz รุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เวอร์ชันล่าสุด โดยเฉพาะในรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ (เช่น Hyperscreen) จะมี เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ติดตั้งมาให้ด้วย ผู้ขับขี่สามารถใช้เพื่อล็อกอินเข้าสู่โปรไฟล์ส่วนตัว หรืออนุมัติการตั้งค่าบางอย่างได้ นอกจากนี้ยังมีระบบ จดจำใบหน้า (Facial Recognition) ในบางรุ่น เพื่อปรับการตั้งค่าส่วนตัว และระบบ สั่งงานด้วยเสียง "Hey Mercedes" ที่เรียนรู้และจดจำเสียงของผู้ใช้งานได้ดีขึ้น
BMW
ระบบ iDrive รุ่นใหม่ๆ ของ BMW ก็มีการพัฒนาในทิศทางนี้ แม้จะไม่ได้เน้นการสแกนลายนิ้วมือเพื่อสตาร์ทรถ แต่ก็มีระบบ Driver Monitoring Camera ที่สามารถจดจำใบหน้าเพื่อความปลอดภัย (เช่น ตรวจจับความเหนื่อยล้า) และอาจเชื่อมโยงกับการโหลดโปรไฟล์ผู้ขับขี่ ระบบ Digital Key Plus ที่ใช้สมาร์ทโฟนแทนกุญแจ ก็อาศัยระบบ Biometric บนโทรศัพท์ (เช่น สแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือบนมือถือ) เพื่อปลดล็อกและสตาร์ทรถ
กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน
แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีจากจีนหลายค่าย เช่น NIO, XPeng, Li Auto, Zeekr และรวมถึง Changan / Deepal / Avatr กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใส่ในรถยนต์ ด้วยการนำเอา ระบบจดจำใบหน้า (Facial Recognition) มาใช้เพื่อ:
- ปลดล็อกรถ
- โหลดโปรไฟล์ผู้ขับขี่
- ตรวจจับความเหนื่อยล้าหรือการละสายตาของผู้ขับขี่ (Driver Monitoring System - DMS)
- บางรายอาจพัฒนาไปถึงการอนุมัติการชำระเงินภายในรถด้วยใบหน้า
ประโยชน์ของเทคโนโลยี Biometric ในรถยนต์
- เพิ่มความปลอดภัย: ป้องกันการโจรกรรมได้ดีขึ้น เพราะต้องใช้ข้อมูลชีวภาพเฉพาะบุคคลในการสตาร์ทรถ
- สร้างความเป็นส่วนตัวและปรับแต่งเฉพาะบุคคล: รถยนต์สามารถจดจำผู้ขับขี่แต่ละคน และปรับการตั้งค่าต่างๆ (เบาะ, พวงมาลัย, แอร์, เพลงโปรด) ให้โดยอัตโนมัติ
- เพิ่มความสะดวกสบาย: ลดความจำเป็นในการพกกุญแจ หรือการ์ด
- ช่วยเสริมความปลอดภัยในการขับขี่: ระบบ DMS ที่ใช้ Biometric สามารถตรวจจับความผิดปกติของผู้ขับขี่และแจ้งเตือนได้
เทคโนโลยี Biometric ในรถยนต์ยังคงอยู่ในช่วงพัฒนาและเริ่มนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ นะคะ คาดว่าในอนาคตเราจะได้เห็นฟังก์ชันที่ล้ำสมัยและหลากหลายกว่านี้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างแน่นอนค่ะ!
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น