ผ้าคลุมรถ เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน สีรถพังไม่รู้ตัว Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

ผ้าคลุมรถ เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน สีรถพังไม่รู้ตัว

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 26 May 2568

ผ้าคลุมรถยนต์มีกี่ประเภท? มีการใช้งานแตกต่างกันอย่างไร? หากเลือกผ้าคลุมรถไม่ดีจะเกิดอะไรขึ้น?


ผ้าคลุมรถ เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน สีรถพังไม่รู้ตัว

คุณคิดว่าการมีผ้าคลุมรถยนต์คือการปกป้องรถสุดที่รักอย่างดีที่สุดใช่ไหม? อาจจะไม่ใช่เสมอไป! เพราะถ้าเลือก ผ้าคลุมรถผิดประเภท หรือไม่เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุแต่ละชนิด คุณกำลังเสี่ยงที่จะทำร้ายสีรถยนต์คันโปรดของคุณโดยไม่รู้ตัว

ผ้าคลุมรถยนต์มีกี่ประเภท?

การเลือกวัสดุผ้าคลุมรถยนต์เป็นหัวใจสำคัญเลย เพราะแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป การเข้าใจวัสดุจะช่วยให้เราเลือกผ้าคลุมที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพการใช้งานและงบประมาณ ผ้าคลุมรถยนต์มีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุและคุณสมบัติการใช้งานหลักๆ ดังนี้

ผ้าคลุมรถยนต์มีกี่ประเภท

1. ผ้าคลุมรถสำหรับใช้ในร่ม (Indoor Car Cover) เน้นการป้องกันฝุ่นละออง รอยขีดข่วนเล็กน้อย และความชื้น มักเป็นผ้าที่ระบายอากาศได้ดี น้ำหนักเบา นุ่มนวล  เหมาะสำหรับรถที่จอดในโรงรถที่มีหลังคา มิดชิด ไม่โดนแดดโดนฝนโดยตรง

  • ผ้าสปันบอนด์ (Spunbond) เป็นวัสดุใยสังเคราะห์ ไม่ทอ น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดีมาก กันฝุ่นได้ดี ป้องกันรอยขีดข่วนได้ในระดับหนึ่ง ข้อดีคือราคาถูกที่สุด คลุมง่าย ไม่กักเก็บความร้อนและความชื้น ไม่ทำร้ายสีรถ (ถ้าพื้นผิวรถสะอาด) ข้อเสียคือไม่กันน้ำ ไม่กันแดด/UV ไม่ทนทานต่อการฉีกขาด มีอายุการใช้งานสั้น เหมาะสำหรับรถที่จอดในโรงรถมีหลังคาอย่างสมบูรณ์ ต้องการแค่กันฝุ่นและรอยขนแมวจากการเดินผ่าน
  • ผ้าซิลกี้ (Silky / ใยไหม):คุณสมบัติ เป็นผ้าใยสังเคราะห์ที่นุ่มลื่น คล้ายผ้าไหม มีความยืดหยุ่นสูง ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ป้องกันฝุ่นและรอยขนแมวได้ดีมาก ข้อดีคือเนื้อผ้านุ่มมาก ไม่ทำร้ายสีรถ คลุมง่ายกระชับ ระบายอากาศดีมาก ข้อเสียคือราคาสูงกว่าสปันบอนด์ ไม่กันน้ำ ไม่กันแดด/UV ไม่ทนทานต่อการฉีกขาด เหมาะสำหรับรถยนต์หรูหรา รถสปอร์ต ที่จอดในโรงรถและต้องการการปกป้องผิวสีสูงสุดจากฝุ่นและรอยเล็กน้อย

  • ผ้าคอตตอนผสม (Cotton Blend) คุณสมบัติ มีความนุ่มนวล ระบายอากาศได้ดี ดูดซับความชื้นได้ดีในระดับหนึ่ง ข้อดีคือนุ่ม ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน ระบายอากาศได้ดี แต่ก็มีข้อเสียคือแห้งช้าหากโดนน้ำ อาจอมฝุ่นได้ง่ายกว่าวัสดุสังเคราะห์บางชนิด ไม่กันน้ำ/กันแดด มีลักษณะคล้ายผ้าซิลกี้ แต่ราคาอาจจะถูกลงมาหน่อย

ผ้าคลุมรถสำหรับใช้กลางแจ้ง

2. ผ้าคลุมรถสำหรับใช้กลางแจ้ง (Outdoor Car Cover) คุณสมบัติ: เน้นการป้องกันแสงแดด รังสียูวี กันน้ำ กันฝน กันฝุ่นละออง มูลนก ยางไม้ และสิ่งสกปรกต่างๆ ที่มาจากภายนอก วัสดุจะมีความทนทานต่อสภาพอากาศสูง มักมีการเคลือบสารกันน้ำและสารป้องกันรังสียูวี เหมาะสำหรับรถที่จอดกลางแจ้ง ตากแดด ตากฝนเป็นประจำ หรือจอดทิ้งไว้นานๆ

  • ผ้า Silver Oxford / Super Silver (หรือผ้า Oxford เคลือบยูวี/อลูมิเนียม) คุณสมบัติ: เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ทอหนา เคลือบสารสีเงินหรืออะลูมิเนียมสะท้อนรังสียูวีได้ดีมาก กันน้ำได้ดี (แต่ไม่ 100% ถ้าฝนตกหนักมากหรือมีแรงดันน้ำสูง) มีความแข็งแรงทนทานระดับหนึ่ง 

    • ข้อดี คือสะท้อนแดดและรังสียูวีได้ดีเยี่ยม ช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร กันฝุ่นและมูลนกได้ มีราคาปานกลาง 

    • ข้อเสีย คืออาจจะมีไอน้ำเกาะด้านในหากไม่มีการระบายอากาศที่ดีพอ (โดยเฉพาะถ้าคลุมตอนรถร้อนจัด) อาจมีความกระด้างกว่าผ้าในร่ม 

    • เหมาะสำหรับ รถที่จอดกลางแจ้ง เน้นกันแดดเป็นหลัก และต้องการการกันฝนในระดับหนึ่ง

  • ผ้า Tyvek (ไทเวค โดยดูปองท์): คุณสมบัติ: เป็นวัสดุสังเคราะห์ชนิดพิเศษจาก DuPont มีลักษณะคล้ายกระดาษแต่ฉีกขาดยากมาก น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม แต่กันน้ำได้ดีเยี่ยม (ในระดับหนึ่ง) และกัน UV ได้ดีเยี่ยม มักมีสองชั้น (ด้านในนุ่ม) 

    • ข้อดี คือน้ำหนักเบา คลุมง่าย แห้งเร็ว กันน้ำได้ดี ระบายอากาศดีเยี่ยม (ลดปัญหาไอน้ำ) กัน UV ได้ดีเยี่ยม ทนทาน 

    • ข้อเสีย คือราคาสูง อาจมีเสียงกรอบแกรบเมื่อลมพัด 

    • เหมาะสำหรับ รถที่จอดกลางแจ้งเป็นประจำ ต้องการการปกป้องรอบด้าน ทั้งแดด ฝน และการระบายอากาศที่ดี

  • ผ้า Sensoron / Hisolon (หรือผ้า 210D/300D PVC Coating) คุณสมบัติ: เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ที่มีความหนาแน่นสูง (D = Denier แสดงความหนา) เคลือบสาร PVC หรือ PU ด้านใน ทำให้กันน้ำได้ดีมาก ทนทานต่อการฉีกขาด ป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกได้ดี

    • ข้อดี คือกันน้ำได้ดีเยี่ยม ทนทาน ป้องกันฝุ่น/มูลนกได้ดี

    • ข้อเสีย คืออาจจะร้อนสะสมได้ง่ายหากไม่มีช่องระบายอากาศที่ดี อาจไม่ระบายอากาศได้ดีเท่า Tyvek น้ำหนักค่อนข้างมาก ผิวสัมผัสอาจไม่นุ่มเท่าบางชนิด

    • เหมาะสำหรับ  รถที่จอดกลางแจ้งเป็นประจำ ต้องการการกันฝนและฝุ่นเป็นหลัก และความทนทานสูง

  • ผ้าไวนิล (Vinyl) เป็นพลาสติก PVC ที่มีความหนาและยืดหยุ่น มีน้ำหนักมาก กันน้ำได้ 100% ป้องกัน UV ได้ดีในระดับหนึ่ง

    • ข้อดี คือราคาไม่แพงมาก กันน้ำ 100%, ทนทานต่อสภาพอากาศ
    • ข้อเสีย คือร้อนสะสมได้มากที่สุด ไม่ระบายอากาศเลย (อาจเกิดไอน้ำและความชื้นใต้ผ้าคลุม) แข็งกระด้าง อาจติดสีรถได้หากคลุมตอนร้อนจัดเป็นเวลานาน น้ำหนักมากคลุมยาก
    • เหมาะสำหรับ ไม่แนะนำให้ใช้ในระยะยาว หรือใช้ในพื้นที่ที่มีแดดจัดมากๆ ควรใช้ในกรณีจำเป็นชั่วคราว เช่น จอดข้ามคืนในที่ที่ฝนตกหนักมากๆ

ตารางเทียบเกรดวัสดุผ้าคลุมรถยนต์

3. ผ้าคลุมรถแบบพิเศษ/เฉพาะทาง 

  • ผ้าคลุมรถแบบครึ่งคัน คลุมเฉพาะส่วนบนของรถ (กระจกหน้า, หลังคา, กระจกหลัง) เหมาะสำหรับกันแดดและลดความร้อนในห้องโดยสารขณะจอดในที่ร่ม แต่ไม่กันฝุ่นทั้งคัน
  • ผ้าคลุมรถแบบกันน้ำค้าง/กันหิมะ มีคุณสมบัติเฉพาะในการป้องกันความชื้นและหิมะ
  • ผ้าคลุมรถเข้ารูป (Custom-fit) ออกแบบมาเฉพาะรุ่นรถ ทำให้คลุมได้พอดี ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป ช่วยลดการขยับตัวและเสียดสี

 

เลือกผ้าคลุมรถไม่ดีจะเกิดอะไรขึ้น?

การเลือกผ้าคลุมรถที่ไม่เหมาะสม มีการใช้งานแบบผิดประเภท หรือมีคุณภาพต่ำ อาจส่งผลเสียต่อรถยนต์ของคุณได้หลายประการ ดังต่อไปนี้

สีรถเสียหาย (สีซีด, เป็นรอย, สีละลาย)

  • ผ้าไม่มีซับใน/วัสดุหยาบ: หากผ้าคลุมไม่มีซับในที่นุ่มนวล หรือวัสดุผ้าหยาบ เมื่อลมพัด ผ้าจะเสียดสีกับผิวรถ ทำให้เกิด รอยขนแมว หรือ รอยขีดข่วน ได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณมุมหรือขอบของรถ
  • ผ้า PVC ราคาถูก: ผ้าคลุมรถพลาสติก PVC คุณภาพต่ำ เมื่อโดนแดดร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจเกิดการ ละลายติดกับสีรถ ซึ่งแก้ไขได้ยากและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขัดสีหรือทำสีใหม่
  • การอมความร้อน/ความชื้น: ผ้าคลุมที่ไม่ระบายอากาศที่ดี หรือกันน้ำได้ไม่ 100% อาจกักเก็บความชื้นไว้ภายใน เมื่อโดนแดดจัด ความร้อนสะสมและความชื้นจะทำให้สีรถเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรือเกิดเป็นรอยด่างจากไอน้ำ

ทำสีตัวถัง

ฝุ่นและสิ่งสกปรกทำลายผิวรถ

  • คลุมทับฝุ่น: หากคลุมผ้าคลุมรถในขณะที่รถมีฝุ่น ทราย หรือสิ่งสกปรกเกาะอยู่ เมื่อผ้าคลุมขยับหรือเสียดสี จะเป็นการลากฝุ่นและทรายไปกับพื้นผิวรถ ทำให้เกิดรอยขีดข่วนทันที
  • ผ้าคลุมเก่า/สกปรก: ผ้าคลุมรถที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดเป็นประจำ อาจสะสมฝุ่นผงและสิ่งสกปรก เมื่อนำมาคลุมรถก็จะเป็นการนำสิ่งสกปรกเหล่านั้นไปทำร้ายสีรถ

ผ้าคลุมปลิว/ไม่กระชับ

  • ผ้าหลวม/ไม่ตรงรุ่น: ผ้าคลุมที่หลวมเกินไปหรือไม่ตรงรุ่น จะปลิวตามลมได้ง่าย ทำให้เกิดเสียงรบกวน อาจไปเกี่ยวสิ่งของรอบข้าง หรือที่แย่กว่านั้นคือการเสียดสีกับตัวรถจนเกิดรอย หรือในบางกรณีอาจทำให้ผ้าหลุดออกไปเลย
  • ผ้าคลุมแน่นเกินไป: ผ้าที่แน่นกระชับเกินไป อาจทำให้คลุมยาก ถอดออกยาก และเพิ่มโอกาสในการเสียดสีกับตัวรถขณะคลุมหรือถอดออก

ความร้อนสะสมในห้องโดยสาร 

  • ผ้าคลุมบางประเภทที่ไม่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนที่ดี อาจจะทำหน้าที่เหมือน "ห่มผ้า" ให้รถ ทำให้ความร้อนสะสมอยู่ภายในห้องโดยสาร และอาจส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ภายในรถ เช่น เบาะ คอนโซล ที่อาจแห้งกรอบหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

ผ้าคลุมเก่า/สกปรก

ข้อแนะนำในการเลือกผ้าคลุมรถ

  • พิจารณาสภาพการจอดรถ: จอดในร่ม หรือกลางแจ้ง? มีแดดแรง ฝนตกบ่อย หรือฝุ่นเยอะ?
  • วัสดุและคุณสมบัติ: เลือกผ้าที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน เช่น กัน UV, กันน้ำ, มีซับในนุ่ม
  • ขนาดที่พอดี: เลือกผ้าคลุมที่ตรงรุ่นหรือมีขนาดพอดีกับรถ ไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป
  • ทำความสะอาดรถก่อนคลุม: ล้างรถให้สะอาดและเช็ดให้แห้งสนิทก่อนคลุมผ้าทุกครั้ง
  • ทำความสะอาดผ้าคลุม: ซักหรือทำความสะอาดผ้าคลุมรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมฝุ่นและสิ่งสกปรก

การลงทุนกับผ้าคลุมรถยนต์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งาน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อปกป้องรถยนต์คันโปรดของคุณให้คงสภาพดีและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ