เทคนิคการดูแลบำรุงรักษา กระจกรถยนต์ ให้สดใสและสะอาดอยู่ตลอดเวลา เพื่อยืดอายุการใช้งานและส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และมูลค่าของรถในระยะยาว
กระจกรถยนต์ กุญแจสู่ทัศนวิสัยการขับขี่ปลอดภัย
กระจกรถยนต์ เปรียบเสมือนดวงตาของคุณ หากกระจกไม่สดใสคุณก็จะมองเส้นทางข้างหน้าได้อย่างไม่ชัดเจน ดังนั้นแล้วจึงควรดูแลรักษากระจกให้สะอาดและอยู่ในสภาพที่ดีอยู่ตลอดเวลา เพราะมันจะส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการขับขี่และอายุการใช้งานรถของคุณเอง
ทำไมต้องใส่ใจดูแลกระจกรถยนต์?
อย่างที่เลดี้บอกว่า กระจกรถยนต์ คือดวงตา ดังนั้นแล้วทำไมเราถึงจะไม่ดูแลรักษาดวงตาของเรากันล่ะ และนอกจากนี้ยังช่วยให้ทุกการขับขี่ของคุณปลอดภัยได้มากกว่า
- ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดี เพราะการที่กระจกรถยนต์ของคุณปราศจากคราบสกปรก รอยขีดข่วน หรือรอยร้าว จะช่วยให้คุณมองเห็นสภาพถนน สภาพจราจร และสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
- ปกป้องห้องโดยสารและผู้โดยสาร เพราะกระจกที่แข็งแรงและอยู่ในสภาพที่ดี จะสามารถทำหน้าที่ปกป้องคุณและผู้โดยสารจากเศษหิน สิ่งแปลกปลอม หรือแม้แต่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุได้ดีกว่า
- ยืดอายุการใช้งานและรักษามูลค่ารถ แน่นอนว่ามากกระจกอยู่ในสภาพที่ดี มันจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และมูลค่าของรถในระยะยาว
เคล็ดลับการดูแลรักษากระจกรถยนต์ง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้
การดูแลรักษา กระจกรถยนต์ จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยุ่งยากหรือซับซ้อนอะไร เพียงแค่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยให้กระจกของคุณใสปิ๊งเหมือนใหม่ได้ ดังต่อไปนี้
- ทำความสะอาดอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ
- เลือกใช้น้ำยาเช็ดกระจกที่มีคุณภาพ : โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจกรถยนต์โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาเช็ดกระจกสำหรับกระจกบ้าน เพราะอาจมีส่วนผสมที่อาจทำลายฟิล์มกรองแสงหรือทิ้งคราบไว้ได้
- ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ในการเช็ด : เลือกใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่มีคุณภาพเช็ดกระจกเสมอ เพราะผ้าไมโครไฟเบอร์มีคุณสมบัติในการดูดซับสิ่งสกปรกได้ดีเยี่ยม และไม่ทิ้งขุยหรือรอยขีดข่วนบนพื้นผิวกระจก
- ทำความสะอาดในที่ร่ม : เนื่องจากกระจกจะได้ไม่อมความร้อน เพราะถ้าหากกระจกร้อน น้ำยาจะแห้งเร็วเกินไปและทิ้งคราบเป็นด่างๆ ได้ง่าย
- จัดการกับคราบน้ำและคราบสกปรกที่ฝังแน่น
- หาสาเหตุของคราบก่อน : เพราะสิ่งสกปรกที่แห้งกรังมักเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ แร่ธาตุในน้ำฝน น้ำประปา หรือน้ำที่ใช้ล้างรถ จะได้เลือกวิธีการทำความสะอาดได้อย่างถูกต้อง
- ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง : หากเป็นคราบน้ำฝังแน่น ควรใช้น้ำยาขจัดคราบน้ำโดยเฉพาะที่หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์รถยนต์ ทำตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงการ ถู/ขัด อย่างรุนแรง : ห้ามใช้ใยขัดหรือวัสดุแข็งๆ ขัดถู เพราะจะทำให้กระจกเป็นรอยได้ถาวร
- ดูแลใบปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งาน
- ทำความสะอาดใบปัดอยู่เสมอ : โดยใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดทำความสะอาดขอบยางใบปัดน้ำฝนเป็นประจำ เพื่อกำจัดฝุ่นผงและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้กระจกเป็นรอยขณะใช้งาน
- เปลี่ยนใบปัดที่เสื่อมสภาพ : วิธีสังเกตุว่าใบปัดเริ่มเสื่อมสภาพ ดูได้จากการที่ใบปัดเริ่มมีเสียงดังเนื่องจากใบปัดน้ำฝนเริ่มแข็งตัวทำให้ปัดไม่เกลี้ยง ควรรีบเปลี่ยนบปัดใหม่ทันที เพื่อประสิทธิภาพในการปัดน้ำและป้องกันรอยขีดข่วนบนกระจก
- จัดการกับรอยร้าวและรอยแตกอย่างถูกวิธี
- หินกระเด็น : รอยร้าวบนกระจกหน้าส่วนใหญ่แล้วเกิดจากหินหรือเศษกรวดกระเด็นใส่
- ซ่อมทันที : หากเกิดรอยร้าวเล็กๆ (ขนาดไม่เกินเหรียญ 10 บาท) ควรรีบนำรถเข้าปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาการซ่อมแซมโดยด่วน ก่อนที่รอยจะขยายใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถซ่อมได้
- เปลี่ยนทันทีหากซ่อมไม่ได้ : หากกรอยร้าวมีขนาดใหญ่ขึ้น และลึกถึงชั้นในของกระจก หรืออยู่ในตำแหน่งที่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ ควรเปลี่ยนกระจกใหม่ในทันที
- การเลือกซื้อและติดตั้งฟิล์มกรองแสง
- เลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งาน : ควรเลือกพิจารณาฟิล์มกรองแสงจากลักษณะของการใช้รถ เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับค่าการกันความร้อนและการสะท้อนแสง
- ติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ : เพราะการติดตั้งฟิล์มที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดฟองอากาศ ฟิล์มลอก หรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ควรให้ผู้เชี่ยวชาญทำการติดตั้งเท่านั้น
การดูแลรักษากระจกรถยนต์อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ส่งผลต่อความปลอดภัยและการขับขี่ของคุณโดยตรง ซึ่งการใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้กระจกรถยนต์ของคุณใสปิ๊ง สะอาดตา และพร้อมพาคุณเดินทางอย่างปลอดภัยในทุกเส้นทาง
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น