มิชลินคว้าแชมป์รายการแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมง สมัยที่ 28 โดยทั้ง 8 ทีมที่ลงสนาม เลือกใช้ยางของมิชลินทั้งหมด
มิชลินกับบทพิสูจน์ยางแห่งอนาคต
การแข่งขัน ‘เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง’ สุดทรหดครั้งที่ 93 ปิดฉากลงอย่างน่าประทับใจเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา โดยมีรถไฮเปอร์คาร์ 8 ทีมลงสนาม และทั้งหมดเลือกใช้ยางมิชลิน ตอกย้ำถึงประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม รวมถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์มิชลิน
สมรรถนะเหนือระดับกับชัยชนะต่อเนื่อง
มิชลิน ไพลอต สปอร์ต เอ็นดูรานซ์ ยางสูตรเนื้อ แข็งปานกลาง ถือเป็นกุญแจสำคัญบนสนามที่แห้งสนิท นักแข่งสามารถวิ่งต่อเนื่องได้ถึงสามช่วงการแข่งขัน โดยไม่ต้องเปลี่ยนยาง แม้สภาพอากาศจะผันผวนระหว่างวันและคืน สะท้อนถึงความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอของยางมิชลิน
ปิแอร์ อัลเวส ผู้จัดการฝ่ายการแข่งขันของมิชลิน มอเตอร์สปอร์ต กล่าวชื่นชมถึงการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมและประสิทธิภาพของยางมิชลิน ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง โดยชัยชนะของทีม ‘เอเอฟ คอร์เซ่’ และ ‘เฟอร์รารี่’ ทำให้มิชลินคว้าตำแหน่งแชมป์ เลอ ม็องส์ ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 28 นับตั้งแต่ปี 2541 และเป็นการคว้าชัย 3 ปี ซ้อน สำหรับทีมเฟอร์รารี่ในรายการ FIA World Endurance Championship (WEC)
มิชลินมุ่งหน้าสู่นวัตกรรมยั่งยืน
ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นทางด้านสมรรถนะ แต่มิชลินยังให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืน โดยร่วมมือกับสตาร์ทอัพ Enviro ในสวีเดน นำยางไฮเปอร์คาร์ที่ใช้แล้วทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลด้วยเทคโนโลยี ไพโรไลซิส เพื่อนำ คาร์บอนแบล็ค น้ำมัน และเหล็กกล้ากลับมาใช้ในการผลิตยางใหม่ ซึ่งในปัจจุบันยางต้นแบบของมิชลินใช้วัสดุรีไซเคิลและหมุนเวียนสูงถึง 71% เป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมายยางยั่งยืน 100% ภายในปี 2593 และเทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำไปใช้แล้วในยางสำหรับรถยนต์พลังไฮโดรเจน H24EVO และรถแข่งไฟฟ้า Porsche GT4 e-Performance
วิสัยทัศน์แห่งอนาคต
ภายในปี 2569 มิชลินจะเปิดตัวยางสำหรับรถไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่ ที่มีส่วนประกอบจากวัสดุรีไซเคิลและหมุนเวียนถึง 50% และโดดเด่นด้วยลวดลาย Race to Vision บนดอกยาง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการผสานสมรรถนะมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสำหรับการแข่งขัน เลอ ม็องส์ ในปีนี้ มิชลินได้มีการระดมบุคลากร 110 คน และสนับสนุนยาง 4,100 เส้น ให้กับ 21 พันธมิตร โดยจัดส่งยาง 3,700 เส้น ล่วงหน้าเพื่อลด คาร์บอนฟุตพริ้นท์ จากการขนส่ง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านโลจิสติกส์และบุคลากร
สรุปผลการแข่งขัน
ทีม ‘เอเอฟ คอร์เซ่’ คว้าอันดับ 1 (Ferrari 499P หมายเลข 83), ตามด้วยทีม ‘ปอร์เช่’ อันดับ 2 (Porsche 963 หมายเลข 6) และทีม ‘เฟอร์รารี่’ อันดับ 3 (Ferrari 499P หมายเลข 51) ซึ่งทั้งหมดใช้ยางจากมิชลิน โดยมี แมทธิว โบนาร์เดล ผู้อำนวยการมิชลิน มอเตอร์สปอร์ต ออกมายืนยันความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเป็นผู้นำการสัญจรแห่งอนาคต ด้วยการผสานสมรรถนะ นวัตกรรมยั่งยืน และความทุ่มเทของบุคลากรเข้าด้วยกัน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น