Ford เปิดตัว Ranger รุ่นปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในตลาดยุโรปและออสเตรเลีย โดยมีฟีเจอร์เด็ดที่จะเปลี่ยนรถของคุณให้เป็นมากกว่าแค่ยานพาหนะ
Ford Ranger PHEV กระบะยุคใหม่! เปลี่ยนท้ายกระบะให้เป็นปลั๊กไฟ
เลดี้คิดว่าน่าจะมีคนเคยเห็นโฆษณาตัวนึงของ Ford F-150 Lightning ที่ติดตั้งฟีเจอร์เด็ด โดยสามารถเสียบปลั๊กไฟต่ออุปกรณ์การช่าง หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์แคมป์ปิ้งจากท้ายรถได้ ซึ่งตอนนี้ Ford ได้นำเอาเทคโนโลยีนั้นมาใส่ไว้ใน Ford Ranger PHEV ใหม่ แล้ว และนี่คือการปฏิวัติวงการรถกระบะ ที่จะเปลี่ยนรถของคุณให้เป็นมากกว่าแค่ยานพาหนะ
Ford Ranger รุ่นปลั๊กอินไฮบริด
Ford ได้เปิดตัว Ranger รุ่นปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในตลาดยุโรปและออสเตรเลีย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 2.3 ลิตร พ่วงระบบไฟฟ้าที่ให้กำลังรวม 277 แรงม้า (281 PS) ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 11.8 kWh ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน 26 ไมล์ หรือประมาณ 42 กิโลเมตร ซึ่งน้อยกว่าที่รถยนต์และ SUV ปลั๊กอินรุ่นใหม่ๆ ทำได้ แต่ทำไม Ford Ranger PHEV ถึงยังน่าสนใจสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์อยู่ล่ะ?
Ranger PHEV กับความสามารถในการชาร์จไฟแบบสองทิศทาง
ไม่ใช่แค่ความสามารถในการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเท่านั้นที่ทำให้ Ford Ranger PHEV น่าสนใจ และก็ไม่ใช่การปล่อย CO2 ที่ต่ำกว่า แต่มันคือความสามารถในการชาร์จไฟแบบสองทิศทาง ของ Ranger ซึ่งเป็นสิ่งที่รถปลั๊กอินไฮบริดน้อยรุ่นที่จะมีฟังก์ชันนี้มาให้ และเป็นฟีเจอร์ที่โดยปกติแล้วจะพบได้เฉพาะในรถ EV บางรุ่นเท่านั้น โดย Ford เรียกฟีเจอร์นี้ว่า Pro Power Onboard ที่มาพร้อกับกำลังไฟให้เลือกสองระดับ ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตอนสั่งซื้อ
Pro Power Onboard คืออะไร?
อธิบายง่ายๆ ก็คือระบบที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดของ Ranger ให้กลายเป็นเครื่องปั่นไฟ หรือ พาวเวอร์แบงค์ขนาดยักษ์ (Vehicle-to-load) ที่คุณสามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเสียบปลั๊กใช้งานได้โดยตรงจากตัวรถ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้าง, กลางป่า หรือท้ายไร่ ก็มีไฟฟ้าใช้ได้ตลอดเวลา (ถ้าแบตเตอรี่ยังเหลือนะ) แบ่งออกเป็น 2 ระดับดังนี้
- เริ่มต้น 2.3 kW : เพียงพอสำหรับจ่ายไฟให้เครื่องมือช่างพื้นฐาน, อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (ราคาในยุโรปประมาณ 57,000 บาท)
- อัปเกรด 6.9 kW : สำหรับงานหนักๆ มาพร้อมเต้ารับในห้องโดยสาร 1 ช่อง และที่กระบะท้ายอีก 2 ช่อง สามารถจ่ายไฟให้สว่านขนาดใหญ่, เครื่องเชื่อม หรืออุปกรณ์ที่กินไฟสูงๆ ได้สบาย (ราคาในยุโรปประมาณ 85,000 บาท)
การทำงานของ Pro Power Onboard โดยปกติแล้วจะถูกปิดไว้เสมอ หากต้องการเปิดใช้งาน ให้กดไปที่ปุ่ม Generator ระบบจะเริ่มทำงาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปิดใช้งานเต้ารับด้านหลังหนึ่งหรือทั้งสองช่องได้ ผ่านหน้าจอสัมผัส SYNC 4 และถ้าหากรถตรวจจับได้ว่าประจุแบตเตอรี่เหลือน้อยเกินไป มันจะสตาร์ทเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ เพื่อปั่นไฟให้ไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง
และทั้งหมดนี้ทำให้ Ford Ranger PHEV จึงมีความน่าสนใจในตลาดสหรัฐฯ แต่สำหรับประเทศไทยยังอีกยาวไกลด้วยเหตุผลด้านราคา และสเปคที่อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ แต่ในอนาคตเลดี้คิดว่า Ford จะต้องพัฒนารถกระบะขุมพลังไฟฟ้าซึ่งไม่แน่อาจจะเป็น HEV, PHEV หรือ BEV ที่มีสเปคและราคาที่เหมาะสมสำหรับตลาดประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะ และจะทำการผลิตจากโรงงานในประเทศไทยอย่างแน่นอน แฟนๆ คงต้องอดใจรอกันต่อไปอีกสักพักค่ะ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น