รีวิวเปรียบเทียบสเปค GAC M8 PHEV และ Denza D9 รุ่น Performance AWD รถ MPV ไฟฟ้าจากแดนมังกร
GAC AION M8 คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ Denza D9
จะมีอะไรที่สนุกไปกว่าการป้องกันตำแหน่งจากผู้ท้าชิงรายใหม่ ซึ่งศึกครั้งนี้เป็นคิวของ GAC M8 PHEV ที่ท้าชนกับ Denza D9 แบบแลกกันหมัดต่อหมัด เพราะเทรนด์รถ MPV จากจีนกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดของประเทศไทย วันนี้เลดี้จะพาไปเจาะลึกสเปคของทั้ง 2 ค่าย เทียบให้เห็นกันชัดๆ ว่าใครให้มากกว่ากัน?
โดยเลดี้ขอหยิบเอา Denza D9 รุ่น Performance AWD ตัวท็อปสุดมาสู้ กับ GAC M8 PHEV ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ยังไม่อยากก้าวเข้าระบบไฟฟ้าแบบเต็มตัว ซึ่งเค้ามีจำหน่ายในไทยแค่รุ่นเดียว ถ้าพร้อมแล้ว... ลุยค่ะ
การออกแบบดีไซน์ และมิติตัวถัง
GAC M8 PHEV มาพร้อมแนวคิดการออกแบบ Masterful Gaze Design ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความแข็งแกร่งและจิตวิญญาณอันสูงส่งของสิงโต ซึ่งคุณสามารถเห็นการออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ ให้เปรียบเสมือนเรือนร่างของสิงโต อาทิ ไฟหน้า Grand Lion ที่มีรูปทรงเฉียบคมเหมือนดวงตา ไฟท้าย Lion Fang ดีไซน์คมกริบดุดันเหมือนกับเขี้ยว ในส่วนของกระจังหน้า Lion Claw ได้รับแรงบันดาลใจจากกรงเล็บ เป็นต้น มาพร้อมกับมิติตัวถังยาว 5,212 มิลลิเมตร กว้าง 1,893 มิลลิเมตร สูง 1,823 มิลลิเมตร ซึ่งหากเทียบตัวเลขกับทาง Denza D9 จะมีความยาวน้อยกว่า 38 มิลลิเมตร กว้างน้อยกว่า 67 มิลลิเมตร และเตี้ยกว่า 97 มิลลิเมตร
Denza D9 Performance AWD มาพร้อมกับการดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ภายใต้แนวคิด DENZA π - Motion ไฟหน้าแบบ Meteor Arrow และไฟท้ายออกแบบด้วยแนวคิดฝนดาวตกแห่งกาลเวลา มาพร้อมกับประตูไฟฟ้าคู่สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ยกระดับความหรูหราและความสะดวกสบาย เสริมด้วยยางเก็บเสียงคุณภาพสูงเพื่อให้ห้องโดยสารเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวตลอดการเดินทาง
ไฮไลท์ของในรุ่นนี้ก็คือช่วงล่างที่ดีกว่าในรุ่นเริ่มต้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเค้าใช้เทคโนโลยีระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C เอกสิทธิ์เฉพาะ BYD ปรับแต่งความกระด้างและความนุ่มนวลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมรถ ลดปัญหาการยุบตัวของตัวรถ การพลิกคว่ำ การเกิดแรงกระชากเมื่อเบรกหรือเหยียบคันเร่ง มีมิติตัวถังยาว 5,250 มิลลิเมตร กว้าง 1,960 มิลลิเมตร สูง 1,920 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 3,110 มิลลิเมตร
ขุมพลังการขับขี่
GAC M8 PHEV เป็นขุมพลัง Plug-in Hybrid ผสมผสานการทำงานจากเครื่องยนต์ 2.0 ให้กำลัง 140 kW แรงบิด 330 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า (FWD) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัจฉริยะ GMC400 Hybrid Transmission ที่พัฒนาโดย GAC ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 134 kW แรงบิด 300 นิวตัน-เมตร เท่ากับว่ามีพละกำลังรวมสูงสุด 274 kW (373 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร สามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนจากแบตเตอรี่ Magazine Battery (NCM) ขนาด 25.75 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 120 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) หากรวมระยะทางทั้ง 2 ระบบเข้าด้วยกันสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 1,032 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTC) ทำ Top Speed สูงสุดอยู่ที่ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง รองกรับการชาร์จกระแสสลับ AC ให้กำลังสูงสุด 11 kW รองรับการชาร์จกระแสตรง DC ให้กำลังสูงสุด 40 kW
ทางด้านสมรรถนะของเจ้า Denza D9 Performance AWD ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน จากขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุดถึง 275 kW (374 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาด 103.36 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 6.9 วินาที สามารถทำ Top Speed สูงสุดที่ 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ติดตั้งระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบมัลติลิงก์ รองกรับการชาร์จกระแสสลับ AC ให้กำลังสูงสุด 1 กิโลวัตต์ (3 เฟส) รองรับการชาร์จกระแสตรง DC แบบ CCS2 ให้กำลังสูงสุด 166 กิโลวัตต์
สำหรับแรงม้าของทั้ง 2 รุ่น ถือว่าสูสีทีเดียว แต่ทางด้าน GAC M8 จะมีแรงบิดที่มากกว่า 160 นิวตันเมตร และระบบขับเคลื่อนจะเป็นแบบ FWD รวมถึงการชาร์จกระแสตรง DC ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 40 kW ส่วน Denza D9 จะขับเคลื่อนแบบ AWD และรองรับการชาร์จกระแสตรง DC ที่ให้กำลังมากกว่าถึง 126 kW ซึ่งในเรื่องกำลังไฟพอเข้าใจได้เพราะ GAC M8 เค้าใช้ 2 ระบบ และมีแบตเตอรีลูกเล็กกว่า
การออกแบบภายในห้องโดยสาร
ไฮไลท์ที่แท้จริงของ GAC M8 คือภายในห้องโดยสาร ที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบความสบายระดับสูงสุดสำหรับผู้โดยสารตอนหลังโดยเฉพาะ โดยมีกิมมิกที่น่าสนใจมากๆ คือเค้าสามารถตกแต่งเบาะโดยสารแบบ Bespoke Serenity Suite ซึ่งเจ้าเบาะที่ว่านี้สามารถใช้เป็น Wheelchair สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยได้อีกด้วย ซึ่งจะควบคุม/สั่งการด้วยระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถปรับเอนได้ถึง 58° มาพร้อมกับที่พักขาและระบบนวด 10 จุด ปรับระดับได้ 3 โหมด สั่งการผ่านหน้าจอสัมผัสบริเวณที่พักแขน ภายในห้องโดยสารเงียบสนิทด้วยวัสดุเก็บเสียงถึง 108 ชิ้น เหมือนนั่งอยู่ในห้องสวีท และที่สำคัญยังสามารถ เปิด-ปิด ฉากกั้นระหว่างคนขับกับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นไปอีก (Optional)
ภายในห้องโดยสารของ Denza D9 Performance AWD มาพร้อมความหรูหรา โปร่งสบายด้วย Panoramic Glass Roof ขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะหนังแท้ Nappa คู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง คู่หลัง 4 ทิศทาง มาพร้อมกับระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ ครบครันด้วยระบบมัลติมีเดีย อาทิ หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สาย เครื่องเสียง Dynaudio Hi-Fi Class พร้อมลำโพง 14 ตำแหน่ง รองรับการตอบสนองคำสั่งเสียงอิสระ 4 โซน มีที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายทั้งหมด 3 ตำแหน่ง และยังมีตู้เย็นให้ด้วยซึ่งสามารถปรับอุณหภูมิตั้งแต่ -6 จนถึง 50 องศา เลยทีเดียว
หากเทียบกันในเรื่องของฟังก์ชันก็ต้องบอกเลยว่า GAC M8 นอกจากจะโฟกัสไปที่กลุ่มผู้บริหารแล้ว ยังฉีกแนวไปเวย์ของครอบครัวใหญ่ที่มีผู้สูงอายุอีกด้วย ซึ่งเลดี้มองว่า Wheelchair มีประโยชน์มากสำหรับสังคมไทยในปัจจุบัน
เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัย
GAC M8 PHEV ติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาให้มากมาย เช่น
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอยหลัง (RAEB)
- ระบบจอภาพแบบมองรอบทิศทาง
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติแบบฟิวชัน (FAPA)
- ระบบช่วยถอยตามรอยเส้นทาง สูงสุด 50 เมตร (RTA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA)
- ระบบตรวจจับจุดบอด (BSD)
- ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหลัง (RCTA)
- ระบบเบรกเมื่อรถเคลื่อนผ่านด้านหลัง (RCTB)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาจากด้านหลัง (RAW)
- ระบบเตือนเมื่อเปิดประตู (DOW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนฉุกเฉิน (ELK)
Denza D9 Performance AWD มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัย อาทิ
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTB)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
- ระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ (DMS)
- ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
- เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุรอบคัน 8 จุด
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
- ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
ในส่วนของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ หลักๆ แล้วให้มาใกล้เคียงกัน มีที่แตกต่างกันก็คือ GAC M8 PHEV ติดตั้งระบบช่วยจอดอัตโนมัติแบบฟิวชัน (FAPA) และระบบช่วยถอยตามรอยเส้นทางสูงสุด 50 เมตร (RTA) มาให้ ส่วน Denza D9 จะไม่มีมาให้ แต่จะไปเติมในส่วนของระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ (DMS) และระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR) มาแทน
ตารางเทียบสเปค GAC M8 PHEV vs Denza D9 Performance AWD
GAC M8 PHEV |
Denza D9 Performance |
|
มอเตอร์ไฟฟ้า / เครื่องยนต์ | 2 ตัว เครื่องยนต์ 2.0 | 2 ตัว กำลัง 275 kW |
ระบบขับเคลื่อน | ล้อหน้า (FWD) | สี่ล้อ (AWD) |
พละกำลังสูงสุด (แรงม้า) | 373 | 374 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร) | 630 | 470 |
ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.) | 180 | 190 |
ประเภทแบตเตอรี่ | Magazine Battery (NCM) | BYD Blade Battery (LFP) |
พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh) | 25.57 | 103.36 |
รองรับการชาร์จ AC (kW) | 11 | 11 |
รองรับการชาร์จ DC (kW) | 40 | 166 |
ระยะวิ่งสูงสุด NEDC | 120 km (1,032 km) | 580 km |
ระบบกันสะเทือน (หน้า/หลัง) | แม็คเฟอร์สันสตรัท/มัลติลิงก์ | แม็คเฟอร์สันสตรัท/มัลติลิงก์ |
มิติตัวถัง (มิลลิเมตร) | 5,212x1,893x1,823 | 5,250x1,960x1,920 |
ราคา (บาท) | 2,499,000.- | 2,699,900.- |
สรุปภาพรวม และราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
GAC M8 PHEV เพิ่งเปิดราคาไปแบบหมาดๆ โดยเริ่มต้นที่ 2,499,000.- สำหรับ 7 ที่นั่ง ส่วนใครที่ต้องการสั่งทำเบาะโดยสารใหม่แบบ Bespoke Serenity Suite ตามสไตล์ของคุณเอง ราคาจำหน่ายก็จะอัพเกรดขึ้นตามแต่ฟังก์ชันที่เลือก ซึ่งทาง GAC ไม่ได้ระบุเอาไว้ แต่ถ้าให้เลดี้แอบกระซิบนะ บอกเลยว่ามีหลักแสนสำหรับการ Customise ดีไม่ดีราคาอาจจะขยับไปเท่าๆ กับ Denza D9 Performance AWD ที่จำหน่ายในราคา 2,699,900.- เลยก็เป็นได้
ลองไปเวทความต้องการที่แท้จริงดูนะคะ เพราะทั้ง 2 รุ่น มีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน หากใครที่เป็นสาวกรักษ์โลก และเน้นการใช้งานในเชิง Business ทาง Denza D9 ก็ตอบโจทย์ค่ะ ส่วนใครที่เน้นเดินทางไกล ชอบความสะดวกสบาย คุ้มค่า ขับไปทำงานได้และเป็นครอบครัวใหญ่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย GAC M8 PHEV น่าจะเป็นคำตอบที่จบที่สุดค่ะ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น