HONDA ACCORD 2025 คุ้มค่ายิ่งขึ้น ! ด้วยราคาใหม่ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ เริ่มต้น 1,479,000 บาท เพิ่มเติม ! Blind Spot Information และ Cross Traffic Monitor ในทุกรุ่นย่อย จัดเต็มโปรแรงงาน BIG MOTOR SALE 2025 วันที่ 22 – 31 ส.ค. 68 และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
HONDA ACCORD 2025 เพิ่มฟีเจอร์สนองลูกค้า ราคาถูกลง
HONDA ACCORD 2025 ราคาเท่าไร
มี 3 รุ่นย่อย
- รุ่น e:HEV E ราคา 1,479,000 บาท
- รุ่น e:HEV EL ราคา 1,599,000 บาท
- รุ่น e:HEV RS ราคา 1,729,000 บาท
HONDA ACCORD 2025 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่
- สีขาวแพลทินัม (มุก)
- สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ
(สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) สำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 14,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท)
ขุมพลัง HONDA ACCORD 2025
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 147 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 182 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานคู่กับ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลัง 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้กำลังรวม 207 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร (ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ ผ่านการรับรองมาตรฐานมลพิษระดับ Euro 6)
ภายนอก HONDA ACCORD 2025
แนวคิดการออกแบบ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ไม่เพียงมุ่งเน้นความหรูหราสง่างาม แต่ยังสะท้อนสมรรถนะการขับขี่ที่ดีและมอบความมั่นใจ โดยออกแบบภายใต้แนวคิด “Creative Black Tie” ที่สื่อถึงภาพลักษณ์ที่เป็นทางการ แต่ก็แฝงด้วยลูกเล่นที่สนุกสนาน สะท้อนถึงการออกแบบ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ให้มีเสน่ห์ น่าหลงใหล ลงตัวด้วยความเป็นสากลและความมีเอกลักษณ์ ดีไซน์ตัวรถด้านหน้าที่ดูเฉียบคม แข็งแกร่ง เชื่อมต่อกับเส้นสายด้านข้างตัวรถที่ยังคงเอกลักษณ์การใช้เส้นสายแนวนอน เพื่อเน้นโครงสร้างตัวถังในคอนเซ็ปต์ Low & Wide ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูปราดเปรียว สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ดึงดูดทุกสายตา
- ใหม่ ! กันชนล่าง ด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง สีเดียวกับตัวรถ ในทุกรุ่นย่อย
- ใหม่ ! แถบตกแต่งมุมไฟหน้าสีใสและสีดำในทุกรุ่นย่อย
- ใหม่ ! กรอบไฟหน้าสีเดียวกับตัวรถในทุกรุ่นย่อย
- ใหม่ ! ช่องดักอากาศข้างกันชนสีดำ ในรุ่น e:HEV RS
- กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ต โดดเด่นด้วยแพตเทิร์นที่มีมิติ สะกดทุกสายตา
- ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
- กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ระบบเปิด - ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- เสาอากาศครีบฉลาม
- ใหม่ ! ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว เปลี่ยนจาก สีเงิน เป็นสีดำ Gloss Black (รุ่น e:HEV E)
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำ Gloss Black (รุ่น e:HEV EL) และขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำ Matte Black (รุ่น e:HEV RS) (เป็นต้น)
เอ็กซ์คลูซีฟกว่าใครกับความสปอร์ตพรีเมียมในรุ่น e:HEV RS
- ใหม่! ช่องดักอากาศข้างกันชน เปลี่ยนจากสีเงินเป็นสีดำ เพื่อเสริมความดุดันและสปอร์ตให้กับด้านหน้าของตัวรถ
- ใหม่ ! กันชนล่างด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังสีเดียวกับตัวรถ ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมในทุกมุมมอง
- ใหม่ ! แถบตกแต่งมุมไฟหน้าสีใสและสีดำ
- ใหม่ ! กรอบไฟหน้าสีเดียวกับตัวรถ กับสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้าและด้านท้าย
- หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา เปิดมุมมองที่กว้างขวาง ยกระดับสุนทรียภาพในการเดินทาง
- ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential
- ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ สีดำแบบสปอร์ต
- เสาอากาศครีบฉลามสีดำแบบสปอร์ต
- สปอยเลอร์หลังสีดำแบบสปอร์ต
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เสริมความสปอร์ตหรูด้วยสีดำ Matte Black
- ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black
ภายใน HONDA ACCORD 2025
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย โดยได้รับการออกแบบเพื่อมอบทัศนวิสัยที่ดี โดยเน้นการส่งมอบคุณภาพระดับพรีเมียมภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ Comfort ที่เน้นให้ทุกองค์ประกอบเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวอย่างลงตัว เช่น แผงด้านหน้าและแผงประตู ที่เชื่อมต่อกันในแนวนอน Intelligence หรือการจัดวางฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น สะดวกสบาย เช่น การจัดการข้อมูลบนหน้าจอ Display Audio ที่มีขนาดใหญ่ให้อยู่ตรงกลาง และ Advance ความเรียบหรูล้ำสมัย เช่น การออกแบบบริเวณแผงคอนโซลกลางหรือที่วางแขน ให้สะท้อนภาพลักษณ์ที่มีระดับของรถ ผสานด้วยการใช้ finishing ที่ให้ความหรูหรา ประณีต เสริมด้วยการใช้วัสดุบุนุ่มในจุดที่มีการสัมผัสบ่อย มอบความสะดวกสบายและผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร ด้วยพื้นที่ช่วงขาและช่วงเข่าที่กว้างขวาง และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน
- ปุ่ม Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ได้ ซึ่งจะแสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 แบบ
- ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย
- ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) โดยสามารถเลือกโหมดการเปลี่ยนสีของไฟได้ ดังนี้ 1. โหมด Recommended Color ไฟจะสามารถปรับเปลี่ยนสีได้โดยอัตโนมัติตามชุดสีที่เลือก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 2.โหมด Theme Color ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับไฟสีที่ต้องการได้ โดยมีสีให้เลือก 10 เฉดสี
- ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card (รุ่น e:HEV RS)
- ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง (เป็นต้น)
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย HONDA ACCORD 2025
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ผสานการทำงานของกล้องมุมกว้างด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้าในการทำงาน โดยระบบจะช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็ว เมื่อมีการตรวจจับว่ารถยนต์คันหน้า จักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง หรือในกรณีที่อยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุโดยระบบจะทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 5 กม./ชม. ขึ้นไป
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) กล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ โดยระบบจะทำงานที่ความเร็ว 72 - 180 กม./ชม.
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ระบบจะใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัย เพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ ช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร โดยระบบจะทำงานที่ความเร็ว 72 – 180 กม./ชม.
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยใช้เรดาร์และกล้องด้านหน้าทำงานร่วมกันในการตรวจจับรถคันหน้า เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง โดยระบบตั้งค่าได้ที่ความเร็ว 30 – 180 กม./ชม. และระบบยังสามารถปรับลักษณะการเร่งความเร็วได้ตามโหมด ACC ที่เลือก
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ระบบจะปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวา อัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของไฟสูงที่ความเร็วมากกว่า 10 กม./ชม. เพื่อลดการรบกวนรถยนต์ด้านหน้าหรือรถที่กำลังสวนทางมา
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) ระบบที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียงเพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามรถคันหน้า โดยระบบจะตรวจจับรถที่หยุดด้านหน้าในระยะ 10 เมตร
- ใหม่ ! ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information - BSI) ในทุกรุ่นย่อ
- ใหม่ ! ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor - CTM) ในทุกรุ่นย่อย
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
- ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)
- ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) และ รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)
- ถุงลม 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และ ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
- เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง (เป็นต้น)
บทความที่น่าสนใจ
- สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด 2568 สีอะไรเสริมดวง สีอะไรต้องห้าม
- รันอินคืออะไร ออกรถใหม่ต้องรันอินไหม มีผลอย่างไรกับรถบ้าง
- ฤกษ์ออกรถ 2568 วันไหนวันมงคล ซินแสดังเคาะ วันไหนควรออกรถมากที่สุด
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น