รีวิวเปรียเทียบสเปก รถยนต์ไฮบริด 2 รุ่น TOYOTA YARIS ATIV HEV 2025 และ BYD SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID เปิดตัวไล่เลี่ยกันและราคาพิเศษช่วงแนะนำใกล้เคียงกัน 719,000 บาทและ 699,900 บาท ตามลำดับ ใครชอบรุ่นไหนอย่างไร อ่านข้อมูลข้างล่างเป็นแนวทางได้เลย
YARIS ATIV HEV 2025 ปะทะ SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID ญี่ปุ่นหรือจีน ใครจะครองใจคุณ?
ตลาดรถยนต์ซีดานขนาดเล็กในประเทศไทยกำลังลุกเป็นไฟอีกครั้ง หลังการเปิดตัวของสองยักษ์ใหญ่ต่างขั้ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดสุดล้ำ โคจรมาพบกันอย่างเป็นทางการในปี 2025 ระหว่าง Toyota Yaris Ativ HEV เจ้าพ่อตลาดรถยนต์ที่มาพร้อมกับระบบฟูลไฮบริดที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและประหยัดน้ำมัน และ BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid ผู้ท้าชิงรายใหม่จากแดนมังกร ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) สุดไฮเทค ชูจุดเด่นด้านการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนที่ไกลกว่าและออปชั่นที่จัดเต็ม บทความนี้จะเจาะลึกเปรียบเทียบหมัดต่อหมัด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่า คันไหนคือตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ
ราคาจำหน่ายอยู่ที่เท่าไรกันบ้าง
- TOYOTA YARIS ATIV HEV 2025 ราคา 719,000 บาท (ราคาปกติ 729,000 บาท)
- BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid 2025 (Premium) ราคา 699,900 บาท (ราคาปกติ 769,900 บาท)
ขนาดตัวรถ
TOYOTA YARIS ATIV HEV 2025
- ความยาว: 4,425 มิลลิเมตร
- ความกว้าง: 1,740 มิลลิเมตร
- ความสูง: 1,480 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถรวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด: 160 มิลลิเมตร
- รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด: 4.8 เมตร
BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid 2025
- ความยาว: 4,780 มิลลิเมตร
- ความกว้าง: 1,837 มิลลิเมตร
- ความสูง: 1,495 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถรวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด: 120 มิลลิเมตร
- รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด: 5.5 เมตร
ดีไซน์ภายนอก
YARIS ATIV HEV 2025
จุดเด่นหลักๆ เช่น
- ไฟหน้า LED พร้อมไฟเลี้ยว LED
- ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- ระบบไฟหน้า Follow-me-home
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB
- กระจังหน้า ด้านบน โครเมียมรมดำ
- กระจังหน้าด้านล่าง สีเทาเมทัลลิก
- วัสดุตกแต่งช่องดักอากาศด้านหน้า สีดำเงา
- วัสดุตกแต่งกันชนหลัง สีดำเงา
- ไฟท้าย พร้อมไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential
- มือเปิดประตูภายนอก สีเดียวกับตัวรถ
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin
- กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
ดีไซน์ภายใน
YARIS ATIV HEV 2025
จุดเด่นหลักๆ เช่น
- เบาะหนังสังเคราะห์สีดำ-เทา
- หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (ใหม่)
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (ใหม่)
- ระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า EPB (Electric Parking Brake) พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH (Auto Brake Hold)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง และระบบกรองฝุ่น PM2.5
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ปรับได้ 64 เฉดสี
- ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน อาทิ กล่องเก็บของคอนโซลกลาง พร้อมฝาปิด, แผงบังแดด พร้อมกระจกแต่งหน้าด้านคนขับ, ช่อง USB Type A และ Type C เป็นต้น
ดีไซน์ภายนอก
SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID 2025
จุดเด่นหลักๆ เช่น
- ไฟหน้าแบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปรับระดับความสูงไฟหน้าด้วยตนเอง
- ฟังก์ชันหน่วงเวลาการปิดไฟหน้า Follow-Me-Home
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED
- ไฟตัดหมอกด้านหลัง
- ระบบไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ Sequential
- ไฟเบรกบน ดวงที่ 3 แบบ LED
- ไฟส่องสว่างช่องพอร์ตชาร์จ
- กระจกมองข้างปรับองศาไฟฟ้า
- กระจกหลังพร้อมระบบทำความร้อนไล่ฝ้า
- ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าอัตโนมัติ (Premium)
- กระจกมองข้างพับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติ (Premium)
- ไฟส่องพื้นบริเวณภายนอกกระจกมองข้าง (Premium)
- ไฟส่องพื้นบริเวณประตูหน้า (Premium)
ดีไซน์ภายใน
SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID 2025
จุดเด่นหลักๆ เช่น
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน
- พวงมาลัยแบบหุ้มหนังสังเคราะห์
- หน้าจอเรือนไมล์ 8.8 นิ้ว
- วัสดุหุ้มเบาะ: ผ้า (Standard), หนังสังเคราะห์ (Premium)
- กระจกเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบสัมผัสสวิตช์ครั้งเดียว พร้อมระบบป้องกันการหนีบ: ด้านผู้ขับขี่ (Standard), ด้านหน้าและด้านหลัง (Premium)
- พนักพิงเบาะโดยสารด้านหลังพับแบบ 60/40
- พนักพิงศีรษะที่เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง ปรับระดับสูง-ต่ำได้
- ที่บังแดดสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมกระจก
- ไฟส่องสว่างในพื้นที่เก็บสัมภาระ
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (Premium)
- ที่พักแขนด้านหลัง พร้อมที่วางแก้ว 2 ช่อง (Premium)
- ไฟส่องพื้นบริเวณผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า (Premium)
- ไฟส่องสว่างในช่องเก็บของฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า (Premium)
- ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน อาทิ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย, ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย/ภาษาอังกฤษ, ระบบกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ขุมพลัง
- YARIS ATIV HEV 2025 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,000 – 4,800 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 80 แรงม้า 141 นิวตันเมตร เวลาเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังรวม 111 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ e-CVT แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 0.7 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 29.4 กม./ลิตร
- SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID 2025 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 122 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมพละกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน Blade Battery ขนาดความจุ 18.3 kWh รองรับน้ำมันสูงสุด E20 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.วิ่งไฟฟ้าล้วน ระยะทาง 120 กม.(NEDC) ชาร์จไฟ AC Type 2 รองรับสูงสุด 6.6 kW อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 26.3 กม./ลิตร
Yaris Ativ HEV 2025 ขุมพลัง
BYD SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID 2025 ขุมพลัง
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
YARIS ATIV HEV 2025
ยกตัวอย่าง เช่น
- ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense (TSS) พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ LKC : Lane Keeping Control หรือระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน ที่จะทำงานคู่กับ Adaptive Cruise Control แบบ All-speed (ใหม่)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยจอด RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor)
- สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
- กล้องวิดีโอบันทึกภาพด้านหน้า DVR (Digital Video Recorder)
- Airbag 6 ตำแหน่ง (เป็นต้น)
SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID 2025
ยกตัวอย่าง เช่น
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ด้านหน้าและด้านหลัง
- ระบบช่วยเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
- ระบบช่วยป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
- ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
- ระบบช่วยกระจายแรงเบรกอัจฉริยะ (HBA)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD) (เป็นต้น)
บทสรุป: เลือกคันไหนให้เหมาะกับคุณ?
การเลือกระหว่าง Toyota Yaris Ativ HEV 2025 และ BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid 2025 ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการในการใช้งานของคุณเป็นหลัก
เลือก Toyota Yaris Ativ HEV 2025
- ต้องการรถที่ ประหยัดน้ำมัน ในทุกสถานการณ์การขับขี่
- ให้ความสำคัญกับ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และศูนย์บริการที่ครอบคลุม
- เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก และไม่สะดวกในการชาร์จไฟที่บ้าน
- ชอบรถที่มีความคล่องตัวสูง หาที่จอดง่าย
เลือก BYD Seal 5 DM-i Super Hybrid 2025
- สามารถ ชาร์จไฟที่บ้านหรือที่ทำงานได้สะดวก และต้องการใช้รถในโหมดไฟฟ้าเป็นหลักเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว
- ชอบ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และออปชั่นอำนวยความสะดวกที่จัดเต็ม
- ต้องการรถยนต์ที่มี พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และความสะดวกสบายที่มากกว่า
- หารถที่มีดีไซน์โดดเด่น ทันสมัย และไม่เหมือนใครบนท้องถนน
รถยนต์ทั้งสองรุ่นต่างมีจุดเด่นที่ชัดเจน การตัดสินใจจึงขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดระหว่าง "ความประหยัดแบบไม่ต้องคิดเยอะ" ของฟูลไฮบริด หรือ "ความล้ำสมัยและโอกาสในการใช้พลังงานไฟฟ้า 100%" ของปลั๊กอินไฮบริด.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
- ตารางผ่อน TOYOTA YARIS ATIV HEV 2025 อีโคคาร์ 2 รุ่นย่อยใหม่
- ตารางผ่อน BYD SEAL 5 DM-i SUPER HYBRID 2025 รุ่น Premium ราคาพิเศษ
- ตารางผ่อน JAECOO 5 EV 2025 B-SUV ไฟฟ้า 100% ใหม่
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น