ค้ำประกันรถแต่เพื่อนชิ่ง ทางรอดของผู้ค้ำประกัน ทำอะไรได้บ้าง?

เมื่อมีสายโทรศัพท์จากไฟแนนซ์โทรมาทวงหนี้ ซึ่งคุณเป็นผู้ค้ำประกันเอาไว้ ทางออกของสถานการณ์เหล่านี้ สามารถทำอะไรได้บ้าง? ไปชมกันค่ะ

อย่าเพิ่งจ่ายแทน! ผู้ค้ำประกันมีสิทธิ์มากกว่าที่คิด เมื่อเจอไฟแนนซ์โทรมาทวงหนี้

มีใครไป ค้ำประกันรถ ให้เพื่อนแล้วเพื่อหนีไม่จ่ายหนี้บ้าง? นี่เป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ค้ำประกันมากที่สุด การไปค้ำประกันซื้อรถให้คนอื่นแล้วเขาไม่จ่ายค่างวดนั้น ในทางกฎหมายแล้ว ผู้ค้ำประกันมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบหนี้ก้อนนั้นแทนลูกหนี้หลัก (ผู้เช่าซื้อ) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีทางออก! หากคุณตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เลดี้จะชี้ช่องทางเอาตัวรอดให้ตามสเต็ปดังต่อไปนี้ 

Step 1 หากได้รับจดหมายทวงหนี้

• ติดต่อผู้เช่าซื้อหรือลูกหนี้โดยตรง และสอบถามอย่างตรงไปตรงมาว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น บางทีเขาอาจจะมีปัญหาชั่วคราวและต้องการความช่วยเหลือ
• กระตุ้นให้เขารับผิดชอบ และแจ้งให้เขาทราบถึงผลกระทบที่จะตามมา ทั้งต่อตัวเขาเองและต่อตัวคุณ (ผู้ค้ำประกัน) ที่จะเสียประวัติทางการเงินไปด้วยกัน และพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขากลับไปชำระหนี้ให้เป็นปกติ
• ติดต่อบริษัทไฟแนนซ์ทันที และแจ้งว่าคุณคือผู้ค้ำประกัน โดยสอบถามสถานะของสัญญาอย่างละเอียด เช่น ค้างชำระกี่งวด? ยอดหนี้ทั้งหมดเท่าไหร่? การติดต่อไฟแนนซ์โดยตรงแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้เพิกเฉยและพร้อมจะร่วมมือแก้ปัญหา ซึ่งอาจทำให้การเจรจาในอนาคตง่ายขึ้น

Step 2 เข้าใจสิทธิ์ของผู้ค้ำประกันตามกฎหมาย

• กฎหมายค้ำประกันฉบับใหม่ เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระ ไฟแนนซ์มีหน้าที่ต้องส่งหนังสือแจ้งให้ผู้ค้ำประกันทราบภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด
• ไฟแนนซ์ต้องไล่เบี้ยกับลูกหนี้หลักให้ถึงที่สุดก่อนก่อน จึงจะมาเรียกร้องให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทนได้
• ข้อตกลงให้คุณรับผิดชอบเหมือนลูกหนี้ร่วมเป็นโมฆะ หากในสัญญาระบุให้ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบในฐานะลูกหนี้ร่วม ข้อตกลงส่วนนั้นจะถือเป็นโมฆะตามกฎหมาย

Step 3 ทางออกที่เป็นไปได้ จากเบาไปหาหนัก

• หาคนมาเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ (ทางออกที่ดีที่สุด) เมื่อผู้เช่าซื้อไปต่อไม่ไหวจริงๆ วิธีที่ดีที่สุดคือการหาคนอื่นที่ไว้ใจได้และมีเครดิตดี มาทำเรื่อง "เปลี่ยนสัญญา" กับไฟแนนซ์เพื่อรับรถและภาระการผ่อนต่อไป วิธีนี้จะทำให้ทั้งผู้เช่าซื้อและตัวคุณหลุดออกจากสัญญาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
• ผู้ค้ำประกันจ่ายค่างวดแทน (เพื่อรักษาเครดิต) ในกรณีที่คุณมีกำลังทรัพย์พอและต้องการรักษาประวัติเครดิตของตัวเองไม่ให้เสียหาย คุณสามารถจ่ายค่างวดที่ค้างชำระแทนไปก่อนได้ และตามกฎหมายแล้ว เงินที่คุณจ่ายไปทั้งหมด คุณมี "สิทธิไล่เบี้ย" หรือฟ้องร้องเพื่อเรียกคืนจากผู้เช่าซื้อในภายหลังได้
• เจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับไฟแนนซ์ เช่น ขยายระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้นเพื่อให้ค่างวดต่อเดือนลดลง แม้จะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่ม แต่ก็อาจเป็นทางออกที่ช่วยให้ผู้เช่าซื้อสามารถผ่อนต่อไปได้
• คืนรถยนต์ให้ไฟแนนซ์ (ทางเลือกที่ไม่ดี แต่ดีกว่าโดนยึด) หากไปต่อไม่ไหวจริงๆ การเจรจาเพื่อนำรถไปคืนไฟแนนซ์เอง เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการปล่อยให้ถูกยึด
• การคืนรถไม่ได้หมายความว่าหนี้จะจบ ไฟแนนซ์จะนำรถไปขายทอดตลาด ซึ่งมักจะได้ราคาต่ำกว่ายอดหนี้ที่เหลืออยู่ และส่วนต่างที่ขาดไปนั้น ทั้งผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันยังคงต้องร่วมกันรับผิดชอบ แต่ก็ยังดีกว่าการปล่อยให้มีค่าใช้จ่ายในการติดตามยึดรถเพิ่มขึ้นมาอีก

สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

หากปล่อยปละละเลยไม่ทำอะไรเลย สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือรถจะถูกยึดและถูกถูกนำไปขายทอดตลาด หากเกิดหนี้ส่วนต่าง ไฟแนนซ์จะฟ้องร้องทั้งผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน และทั้งคู่จะถูกดำเนินคดีและติดเครดิตบูโร หรือ Blacklist ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคตเป็นเรื่องยากลำบากมากเลยค่ะ

การค้ำประกัน คือ การเอาอนาคตทางการเงินของตัวเองไปผูกกับคนอื่น ดังนั้นควรทำให้เฉพาะคนที่คุณมั่นใจ และไว้ใจได้จริงๆ เท่านั้น แต่หากเกิดปัญหาขึ้นแล้ว การสื่อสารและการลงมือแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วคือทางออกที่ดีที่สุดค่ะ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน