HERE Technologies จัดงานใหญ่ประจำภูมิภาค HERE Directions Bangkok 2025 ณ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ พร้อมผนึกผู้นำอุตสาหกรรม พันธมิตร และนวัตกรจากทั่วเอเชียแปซิฟิก ร่วมหารือแนวทางการขับเคลื่อนอนาคตนวัตกรรมการเดินทาง แผนที่ และการขนส่งอัจฉริยะ รวมถึงจัดแสดงนวัตกรรมแบบ in-vehicle experience
HERE Technologies จัดงาน HERE Directions Bangkok 2025
เปิดประสบการณ์นำทางสุดพิเศษด้วย Lotus Emeya x HERE
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญในงาน HERE Directions Bangkok 2025 ที่ผู้ร่วมงานได้สัมผัสการเปิดตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ Lotus Emeya รถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับ Hyper-GT ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีระบบนำทางอัจฉริยะจาก HERE ที่มอบประสบการณ์นำทางอันล้ำสมัยแบบไร้รอยต่อ ความแม่นยำสูง และใช้ง่ายไม่ซับซ้อน พร้อมยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับพรีเมียม
อาบิจิต เซนกุปตา ผู้อำนวยการอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย บริษัท HERE Technologies กล่าวว่า “ประสบการณ์ร่วมกับ Lotus Emeya ในครั้งนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดและมีนัยสำคัญที่บ่งบอกได้ว่า HERE ได้เข้ามาพลิกโฉมระบบนำทางในอุตสาหกรรมยานยนต์แบบเดิมๆ เพราะแพลตฟอร์มของเราให้ความสำคัญกับความแม่นยำในการนำทาง ประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน รวมไปถึงความปลอดภัยขั้นสุด ซึ่งสอดคล้องกับคุณสมบัติที่ Lotus และ พันธมิตรของเรามองหา ซึ่งจะกลายเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ (Next-gen vehicles) ทั่วโลกอย่างแน่นอน”
3 เทรนด์ พลิกโฉมการเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภายในงาน HERE Directions Bangkok 2025 นอกจากจะมีการนำเสนอข้อมูลสาระสำคัญต่างๆ ผ่านเวทีเสวนา และสาธิตเทคโนโลยีสุดล้ำ ยังมีการเผย 3 เทรนด์สำคัญที่มีแนวโน้มขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านการเดินทางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างชัดเจน ได้แก่:
1. การเร่งผลักดันอัตราการใช้งาน EV อย่างต่อเนื่อง
อัตราการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในภูมิภาคมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนของนโยบายระดับชาติ อาทิ เป้าหมายของประเทศไทยที่มีการตั้งเป้าเพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ถึง 30% ภายในปี 2030 ซึ่งรวมไปถึงรถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนบุคคล ไปจนถึงระบบขนส่งสาธารณะไฟฟ้า เช่น รถประจำทาง เป็นต้น
2. การยกระดับความชัดเจนด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างจริงจัง
แผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทยที่ตั้งเป้าลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือไม่เกิน 12 คนต่อประชากรแสนคนภายในปี 2027 ซึ่งจำเป็นต้องมีการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานที่รอบคอบมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี เช่น ระบบยานยนต์ที่เชื่อมต่อกัน (Connected Vehicle Systems) เพื่อยกระดับความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ถนนทุกคน
3. การขยายศักยภาพ AI และข้อมูล สู่พลังการขับเคลื่อนแห่งอนาคต
การเดินทางในเมืองกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยแนวคิด Mobility-as-a-Service (MaaS) หรือ บริการระบบคมนาคมขนส่งแบบครบวงจร กำลังกลายเป็นรูปแบบหลักของการเดินทางในอนาคต และเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านนี้ HERE Technologies ได้พัฒนา HERE AI Assistant ที่ออกแบบมาเพื่อความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่งยุคใหม่ให้ตอบโจทย์ผู้โดยสารและผู้ใช้งานยานพาหนะเชิงพาณิชย์ โดยใช้เทคโนโลยี Generative AI Large Language Models (LLMs) โมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ที่เชี่ยวชาญทางด้านภาษา ที่สามารถช่วยให้คำแนะนำตำแหน่งหมุดหมาย การวางแผนการเดินทางแบบเฉพาะบุคคล เพิ่มความแม่นยำด้านการวางเส้นทาง เวลาถึงที่หมาย (ETA) รวมถึงการบริหารจัดการงานขนส่งด้วยความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ตอบโจทย์การใช้งานระดับองค์กรและอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย HERE Technologies
HERE Technologies นำเสนอแพลตฟอร์มและโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยยกระดับการทำงานในระดับองค์กรและอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้:
- โซลูชันยานยนต์แบบครบวงจร (Comprehensive Automotive Solution) ที่มีการรองรับระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) การขับขี่อัตโนมัติ การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และประสบการณ์ดิจิทัลในห้องโดยสารอันล้ำสมัย
- ระบบการคำนวณเส้นทางและระบุพิกัดขั้นสูง (Advanced Routing and Geocoding) ออกแบบมาสำหรับงานด้านโลจิสติกส์และโมบิลิตี้โดยเฉพาะ
- API ที่ให้ความสำคัญแก่นักพัฒนา (Developer-focused APIs) สำหรับการสร้างแอปพลิเคชันที่มีฟังก์ชันระบุตำแหน่งตามความต้องการ
- รองรับการใช้งานครอบคลุมทั่วโลก (Global Coverage) รองรับการนำทางอย่างไร้รอยต่อในกว่า 200 ประเทศ
โดยแพลตฟอร์มของ HERE สามารถช่วยให้องค์กร ควบคุมข้อมูลของตนเองได้อย่างเต็มที่ ปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้งานได้ตามต้องการ และ ขยายการดำเนินงานทั่วโลกได้อย่างแม่นยำในระดับท้องถิ่น
เสริมแกร่งอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยด้วยเทคโนโลยีระดับโลก
ขณะนี้ HERE Technologies กำลังขยายการลงทุนและความร่วมมือในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งผนึกกำลังร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่:
- SKOOTAR บริษัทที่ให้บริการเรียกแมสเซนเจอร์ออนไลน์ในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยี Geocoding และ Routing API จาก HERE เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าแบบ on-demand ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในเวลาที่ต้องการมากยิ่งขึ้น
- Bedrock Analytics ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการข้อมูล ที่ให้บริการแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ และข้อมูลเชิงพื้นที่ ในประเทศไทย ร่วมกับ HERE พัฒนาเทคโนโลยี Digital Twin เพื่อสนับสนุนโครงการสมาร์ทซิตี้ในจังหวัดยะลา เพื่อการวางผังเมืองและระบบตอบสนองเหตุฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพสูง
นอกจากนี้ ผลสำรวจจาก HERE ยังพบว่า คนไทยกว่า 90% เชื่อว่าระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง หรือ Advanced Driver-Assistance Systems (ADAS) จะสามารถเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนได้ พร้อมทั้งอยากสนับสนุนให้ภาครัฐนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในเชิงนโยบายอีกด้วย
เป้าหมายในอนาคตของ HERE Technologies
HERE Directions Bangkok 2025 ในครั้งนี้ได้ตอกย้ำบทบาทของ HERE Technologies ในการเป็นเสมือนแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบการเดินทางและขนส่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยให้ความสำคัญกับความเปิดกว้าง ความแม่นยำ และการสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นจริงอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจทั่วโลกสู่โอกาสและความสำเร็จแห่งอนาคต
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
- รันอินคืออะไร ออกรถใหม่ต้องรันอินไหม มีผลอย่างไรกับรถบ้าง
- ไอเดียตั้งชื่อรถยนต์คันโปรดให้โดนใจ!
- Easy Pass Plus คืออะไร ต่างจาก Easy Pass อย่างไร พร้อมวิธีสมัคร
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น