หลังจาการทำราคาพิเศษ Mercedes-Benz EQE 300 รถไฟฟ้า 100% ที่ต้องบอกว่าเป็นทำให้เป็นรถที่น่าสนใจอีกครั้ง ส่วนลดพิเศษ ส่วนลด 1,080,000 บาท จำนวนจำกัด
Mercedes-Benz EQE 300
ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการรถไฟฟ้า EQE 300 ที่เราเห็นบนท้องถนนถือว่าน้อยมาก แน่นอนว่าด้วยหลายปัจจัย สิ่งแรกคือราคาที่ต้องยอมรับว่าแรงจูงใจน้อยมาก และที่สำคัญ ราคาพอๆกับ E-Class ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นปัจจัยหลักก็ว่าได้ แต่พอราคาลดลงมาก็ทำให้ EQE 300 น่าสนใจขึ้นมาอีกครั้ง
Mercedes-Benz EQE 300
EQE 300 :ราคาเดิม 3,970,000 บาท ราคาใหม่ 2,890,000 บาท
ส่วนลด 1,080,000 บาท
สิทธิพิเศษจำนวนจำกัด ! เฉพาะผู้ที่จองรถผ่าน Online Showroom และรับมอบรถวันนี้ – 31 สิงหาคม 2025 เท่านั้น
พร้อมข้อเสนอพิเศษ
ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 1 ปี
ชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง นาน 1 ปี
ฟรี Wallbox พร้อมติดตั้ง
นำเข้าทั้งคัน (CBU) จากประเทศเยอรมนี มาพร้อมการรับประกันและบริการ ดังนี้
การรับประกันแบตเตอรี่ High-voltage 10 ปี หรือไม่เกิน 250,000 กิโลเมตร
ขุมพลังขับเคลื่อน EQE 300
ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ หรือ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 89 kWh รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 170 kW
ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.3 วินาที
ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 210 km/h
ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม อยู่ที่ 651 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)
การชาร์จไฟฟ้า
ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC จาก 10 – 100 % ใช้เวลา 9 ชั่วโมง 25 นาที
ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (170 kW) จาก 10 – 80% ใช้เวลา 32 นาที
การทดสอบ EQE 300
หลังจากที่มีการปรับราคาก็ต้องบอกตามตรงเลยว่าราคานี้คือดีมากและถูกต้องที่สุด เพราะถ้ารถไฟฟ้ามีราคาที่ถูกว่ารถ น้ำมัน แรงจูงใจก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว รวมถึงหน้าตาของรถด้วย หลายท่านอาจจะยังไม่ค่อยถูกใจสำหรับหน้าตาเพราะไม่ค่อยจะคุ้นตากับการออกแบบเท่าไหร่ แต่พอมองไปนานแล้วก็รู้สึกว่าดูล้ำสมัยดี ทุกอย่างออกแบบมาเพื่อเป็นรถไฟฟ้าเพราะทุกอย่างจะเรียบไปกับตัวรถทั้งหมดเพื่อลดแรงต้านอากาศ
แต่มีข้อดีข้อเสียก็มีเช่นกันสำหรับล้อที่มีแผ่นปิด เพื่อลดแรงต้านอากาศเมื่อเราต้องเติมลมแผ่นปิดเปิดช่องจุกลมเล็กมากซึ่งทำให้การเติมลมนั้นเป็นเรื่องยาก แค่จะเอาจุกปิดลมออกก็ยากแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่จริงๆก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะยางของตัวรถนั้นค่อนข้างบางมากต้องคอยตรวจเช็ค ซึ่งหลายท่านอาจจะเข้าใจผิดว่ารอไฟเตือนค่อยดูตรวจลมยาง
มาถึงภายใน สิ่งที่ขัดใจคือตำแหน่งการนั่งด้วยการออกแบบค่อนโซนหน้าที่ใหญ่ จอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลาง OLED central display ขนาด 12.8 นิ้ว จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Digital ขนาด 12.3 นิ้ว เรียกได้ว่าสวยงามแต่ด้วยความใหญ่โตแล้วตำแหน่งค่อนข้างสูงทำให้การนั่งของผู้ขับขี่ต้องสูงตามด้วย แต่เอาจริงเวลาใช้งานด้วยจอขนาดใหญ่นั้นดูสวยงามและใช้ง่ายสบายตา
เบาะนั่งหลังมีการออกแบบให้มีความเป็นหลุมเมื่อเวลามีผู้โดยสานตอนหลังนั่งแล้วรู้สึกไม่สบายจมลงไปที่เบาะเวลาลุกค่อนข้างยาก ซึ่งถ้าเทียบ E-Class เบาะหลังนั่งสบายกว่ามาก
นั้นคือปัญหาหลักๆสำหรับ EQE 300 แต่จุดที่เด่นจริงๆจะคืออะไร ต้องยอมรับว่าการออกแบบต่างๆเน้นเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสการขับขี่ที่ดีดังนั้น ทีมงานจึงได้ทำการทดสอบแบบใช้งานจริงวิ่งยาวๆกันไปเลย ในการใช้งานในเมืองต้องยอมรับว่าเป็นรถที่มีระบบต่างๆทันสมัยซึ่งจะรู้สึกต่างจากการขับรถ Benz ด้วยกัน และที่สำคัญคือเสียงที่เงียบด้วยการเป็นรถไฟฟ้า แต่ความเงียบนั้นดีมากสำหรับการเดินทางในเมืองเพราะเราจะรู้สึกสบายมากกว่าเวลารถติดๆ
ออกเดินทางไกลมุ่งหน้า สุ่ขอนแก่น 400 กว่ากิโลเมตร กับระยะทางการวิ่งที่รถเคลมไว้ สูงสุดต่อการชาร์จเต็ม อยู่ที่ 651 กิโลเมตร จะทำได้ดีแค่ไหน ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ ความแรงในแบบรถไฟฟ้านั้นคุณจะประคองคันเร่งให้อยู่ในความเร็วที่เหมาะสมค่อนข้างยากมากเพราะ ด้วยความเงียบของรถ ช่วงล่างที่นุ่ม มองจออีกครั้งความเร็วเกิน 120 km ไปอีกแล้วต้องใช้ระบบ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC ซึ่งต้องยอมรับว่าใช้งานได้ดีมากทำให้เหมือนมีคนขับให้เรานั่งประคองพวงมาลัยเท่านั้นเอง เบรกเองเมื่อมีรถช้าด้านหน้าเร่งความเร็วเองเมื่อถนนโล่ง ในความเร็วที่เราตั้งเอาไว้ ซึ่งช่วยในการเดินทางไกลได้จริง
ต้องยอมรับว่ารถไฟฟ้าจะมีน้ำหนักมากกว่ารถน้ำมันเห็นคันไม่ใหญ่รถมีน้ำหนักตัวถึง 2,405 กิโลกรัม ซึ่งยังไม่รวมผู้โดยสารและของ นั้นทำให้เราต้องระวังในเรื่องลมยางไม่ให้อ่อนเพราะจะทำให้เสียหายได้เวลาวิ่งทางไกล ขนาดยาง 255/40 R20 (แนะนำให้เติมแข็ง) แต่น้ำหนักเยอะก็มีข้อดีเพราะรถมีความนิ่งมากด้วยน้ำหนักส่วนใหญ่จะอยู่ที่พื้นทำให้การเกาะถนนค่อนข้างดีเรียกว่าดีกว่า E-Class ด้วยซ้ำ จุดที่แสดงให้เห็นว่าดีคือ ช่วงนี้ฝนตกเยอะในการเดินทางไกลต่างจังหวัดมีน้ำขังเป็นบางช่วงซึ่งเราอาจจะไม่ได้ระวังเวลาลุยใส่อาจจะทำให้เกิด อาการเรียกว่าเหินน้ำ ซึ่งอันตรายมากอาจจะทำให้รถเสียอาการได้ควมคุมไม่อยู่ แต่ด้วยน้ำหนักรถ EQE 300 ที่มากทำให้รถวิ่งผ่านไปได้แบบไม่รู้สึกอะไรเลย
รถขับขี่ง่ายมีระบบช่วยเหลือมากมายปลอดภัยแล้ว สิ่งที่หลายท่านกังวลใจสำหรับการเดินทางไกลไปกับรถไฟฟ้าคือที่ชาร์จนั้นเอง ในการทดสอบนี้เน้นการใช้งานจริง ดังนั้นทีมงานจึงไม่รอให้ไฟต่ำแล้วค่อยชาร์จเจอที่ไหนชาร์จที่นั้นเหมือนใช้งานจริงๆ ซึ่งจุดแรกที่ชาร์จคือแถวสระบุรี ชาร์จให้ได้ไฟประมาณ 80% เพื่อเดินทางยาวจนไปถึงขอนแก่นแบบไม่ต้องชาร์จอีก และวิ่งด้วยความเร็วปกติ ช่วงใช้งาน 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเมื่อเราเดินทางถึงขอนแก่นระยะทางที่ยังใช้งานได้ก็มีเหลือถึง 300 กิโลเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการเที่ยวในสถานที่ต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย
แล้วในการชาร์จแต่ละครั้งใช้เวลานานแค่ไหน ต้องยอมรับว่าในการเดินทางไกลตู้ชาร์จตามต่างจังหวัดนั้นมีน้อยและในส่วนของภาคอีสานตำแหน่งตู้ส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองใหญ่เป็นหลักสำหรับเมืองรองนั้นหายากมาก แล้วส่วนใหญ่ตู้ก็จะจ่ายไปไม่ค่อยแรง แรงสุดที่หาได้คือ 180Kw แม้ว่ารถคุณรับไฟได้แรงแต่สุดท้ายก็ตายหน้าตู้ ทำให้การเดินทางไกลนั้นแผนที่ดีคือเจอที่ไหนชาร์จที่นั้น อย่างน้อย 15-20 นาที ก็ได้ไฟเพิ่ม 20% ได้ เพราะถ้าเอาแบบเต็ม 100% ก็จะเสียเวลาเป็นชั่วโมง แต่อย่างน้อย EQE 300 ก็รับไฟได้ค่อนข้างแรงเพราะโดยส่วนใหญ่ถ้าไฟเกิน 80% แล้วไฟจะเข้าช้ามากแต่ EQE 300 ก็ยังรับไฟได้เร็วทำให้ไม่เสียเวลามาก
สำหรับรถไฟฟ้า EQE 300 ในการเดินทางไกลสำหรับการใช้งานจริง สิ่งแรกที่แสดงให้เห็นคือระบบการจัดการไฟที่ดีทำให้ให้รถกินไฟไม่มากนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะในเวลาใช้งานจริงยิ่งได้ระยะทางที่ไกลย่อมไม่เสียเวลา ในการเดินทางเฉลี่ยรวมการกินไฟ 15.4kw/100กม. ซึ่งถ้าเทียบกับน้ำหนักตัวแล้วนั้นถือว่าประหยัดมาก ซึ่งในการเดินทางไกลในการทดสอบ การชาร์จไฟเฉลี่ยแล้วตก "กิโลเมตรละ 1 บาท" เท่านั้นเองซึ่งประหยัดมาก
เลขที่แจ้งหน้าจอกับระยะทางการวิ่งได้ นั้นไว้ใจได้เพราะจะแปรผันตามความเร็วที่วิ่ง เพราะหลายค่ายตัวเลขไม่ตรงกับที่วิ่งได้จริง
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ อีกข้อดีคือเมื่อเวลามีฝนตกหนักเราสามารถเปิดระบบไปด้วยได้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ในสภาพเส้นทางที่ไม่ดี
ระบบมัลติมีเดียแบบ MBUX ระบบแผนที่นําทางแบบ Hard–disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ ระบบมัลติมีเดีย MBUX Entertainment Plus ระบบแผนที่นําทาง พร้อมสภาพการจราจร Live Traffic Information รวมถึงแสดงสถานีชาร์จไฟอีกด้วย
ความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่
Safety Features & Driving Assistance
ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างป้องกันศีรษะ 4 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่
ถุงลมนิรภัยระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง
สัญญาณเตือนเข็มขัดนิรภัยบนหน้าจอ สําหรับผู้โดยสารด้านหลัง
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program)
ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน Adaptive brake light
ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร
ระบบสร้างเสียงจําลอง สําหรับเตือนผู้ใช้ถนน Acoustic presence indicator
ระบบช่วยการนํารถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ Active Brake Assist
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Assist
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST
ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า และควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC
กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด
ระบบป้องกันก่อนเหตุ PRE–SAFE® system
ระบบเตือนแรงดันลมยาง
อุปกรณ์ปะยางแบบฉุกเฉิน TIREFIT
สรุป Mercedes-Benz EQE 300
ต้องยอมรับว่า Mercedes-Benz EQE 300 ด้วยราคา 2,890,000 บาท ถือเป็นราคาที่ทำให้รถดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นส่วนต่างกับรถน้ำมันหลักล้านย่อมมีผลต่อการตัดสินใจ รวมไปถึงค่ายใช้จ่ายต่างๆก็ประหยัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้การตัดสินใจย่อมง่ายขึ้น
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น