ก่อนจะตัดสินใจซื้อ Tesla คุณต้องรู้เรื่อง "แบตเตอรี่" ที่เป็นหัวใจของมันก่อน! วันนี้เลดี้จะพาไปดูว่ามันทนทานแค่ไหน และราคาเปลี่ยนจริงๆ มันโหดอย่างที่เขาลือกันหรือไม่
แบตเตอรี่ Tesla มีกี่แบบ? ราคาเท่าไหร่?
ถ้าแบตเตอรี่ Tesla เสื่อม ต้องจ่ายเท่าไหร่? เชื่อว่าเป็นหนึ่งในความสงสัยสำหรับสาวกรถยนต์ไฟฟ้า และผู้ที่กำลังตัดสินใจที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์ Tesla อยู่ในขณะนี้ วันนี้เลดี้จะพามาวิเคราะห์ข้อมูลที่คุณต้องเรียนรู้ และหัวใจสำคัญของรถยนต์ Tesla กันค่ะ

แบตเตอรี่ Tesla มีกี่แบบ?
Tesla คือเจ้าพ่อวงการ EV และมีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ซับซ้อนพอตัว แต่หลักๆ ที่พวกเขาใช่คือ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แบบ NCA นิกเกิล-โคบอลต์-อะลูมิเนียม, NCM นิกเกิล-โคบอลต์-แมงกานีส และ LFP ลิเธียมไอออนฟอสเฟต โดยใช้เซลล์แบตเตอรี่หลายขนาด อาทิ
- 1865 เส้นผ่านศูนย์กลาง 18 มม. สูง 65 มม. ใส่ใน Roadster, Model S และ Model X
- 2170 เส้นผ่านศูนย์กลาง 21 มม. สูง 70 มม. ใส่ใน Model 3 และ Model Y
- 4680 เส้นผ่านศูนย์กลาง 46 มม. สูง 80 มม. ใส่ใน Model Y ที่ผลิตในเท็กซัส เป็นเซลล์รูปแบบที่ใหญ่ขึ้น คาดว่าจะถูกนำไปใช้ในรถรุ่นอนาคตอย่าง Cybertruck และ Semi
- แบตเตอรี่ LFP แบบแท่งสี่เหลี่ยม (Prismatic) ใส่ใน Model 3 และ Model Y
นอกจากนี้ Tesla ยังเป็นผู้นำในการพัฒนาแบตเตอรี่แบบแข็ง หรือ Solid-state ที่จะช่วยให้ชาร์จเร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้นในอนาคต

แบต Tesla อึดแค่ไหน?
ก่อนที่เราจะไปพูดคุยในเรื่องของราคา มาดูเรื่องความทนทานกันก่อน โดยข้อมูลของ Tesla และสถาบันวิจัยต่างๆ ต่างยืนยันตรงกันว่าแบตเตอรี่ของ Tesla นั้นอึดมาก เพราะแบตเตอรี่ของเค้าถูกออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนานหลายแสนไมล์ โดยมีการประเมินว่าอาจจะยังคงเหลือความจุอยู่ถึง 70% หลังจากใช้งานไป 500,000 ไมล์ หรือประมาณ 800,000 กม. ซึ่งถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว
ยกตัวอย่างวิจัยของ Recurrent Auto ที่อิงตามข้อมูลแบตเตอรี่จาก Tesla Model 3 ประมาณ 6,300 คันในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้ว แบตเตอรี่ยังคงมีความจุประมาณ 90% หลังจากใช้งานทุกวันเป็นเวลา 5 ปี รวมถึงใน Model S และ X จะสูญเสียความจุโดยเฉลี่ย 12% หลังจากวิ่งไป 200,000 ไมล์ หรือประมาณ 322,000 กม.
โดยทั่วไปแล้วรถยนต์ Tesla จะถูกปลดระวางหลังจากใช้งานไป 200,000 ไมล์ในสหรัฐฯ และ 150,000 ไมล์ในยุโรป ซึ่งหมายความว่า แบตเตอรี่แพ็คจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าตัวรถ พูดง่ายๆ คือ แบตเตอรี่ของ Tesla ถูกออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ถึง 10-20 ปี

ราคาเปลี่ยนแบต Tesla
หากคุณจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใน รถยนต์ Tesla ก็ต้องบอกตามตรงว่าราคาไม่ถูกแน่ๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ จะอยู่ระหว่าง 5,000 ถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 183,000 - 734,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่น แพ็ค และขนาดของแบตเตอรี่ โดยมีการประเมินออกมาคร่าวๆ ซึ่งคิดได้เป็นราคาดังต่อไปนี้
- Model 3 : มากกว่า 14,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 514,000 บาท
- Model Y : 5,000 - 5,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 183,000 - 202,000 บาท
- Model S : 13,000 - 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 477,000 - 734,000 บาท
- Model X : มากกว่า 13,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 477,000 บาท
เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ที่ผลิตรถ EV ค่าใช้จ่ายแบตเตอรี่ของ Tesla นั้นสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ในการเปรียบเทียบ ค่าแบตเตอรี่สำหรับ Hyundai Ioniq อยู่ที่ประมาณ 2,850 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 104,000 บาท ซึ่งค่าแบตเตอรี่คือหนึ่งในเหตุผลใหญ่ที่สุดที่ทำให้รถ Tesla มีราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น หรือรถยนต์สันดาปที่เทียบเท่ากัน

เคล็ดลับในการยืดอายุแบตเตอรี่ Tesla
-
ชาร์จ Tesla ของคุณเสมอ แต่ไม่ใช่ 100% ควรชาร์จที่ 80% แทน ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ เพราะแบตเตอรี่เพียง 80% นั้นเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
-
พฤติกรรมการขับขี่ หากคุณขับรถเหมือนนักแข่งอย่าง Scott Dixon, Tanner Foust หรือ Bubba Wallace อาจทำให้อายุการใช้งานของรถและแบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น การเร่งความเร็วบ่อยๆ, การเบรกกะทันหัน ส่งผลเสียต่อทุกส่วนของภายนอกรถรวมถึงแบตเตอรี่ด้วย
-
การบำรุงรักษาตามปกติ หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะกำหนดอายุการใช้งานของรถคือตัวคุณเอง การปฏิบัติตามตารางการบำรุงรักษารถเป็นสิ่งสำคัญ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น