BMW Z4 ปิดตำนานโรดสเตอร์ ด้วยรุ่น Final Edition มาพร้อมเกียร์ธรรมดากับลุคที่ดุดัน

ค่ายใบพัดฟ้าขาวเผยโปรเจคอำลาวงการของ BMW Z4 ด้วยรุ่น Final Edition ที่อัดแน่นด้วยออปชั่นและคู่สีสุดพิเศษ

โอกาสสุดท้ายที่จะได้ครอบครอง BMW Z4 Final Edition ตัวจบ (สี Frozen Black) ที่ผลิตแค่ 3 เดือน!

การเดินทางของ BMW Z4 เจเนอเรชันที่ 3 ที่สร้างความฮือฮามาตั้งแต่ปี 2019 กำลังจะเดินทางมาถึงบทสุดท้ายแล้วค่ะ หลังจากโลดแล่นอยู่บนท้องถนนมานานถึง 8 ปี ในฐานะรถสปอร์ตเปิดประทุนที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง BMW และ Toyota ซึ่งมีฝาแฝดร่วมสายเลือดอย่าง Toyota Supra ที่ถูกผลิตขึ้นโดย Magna Steyr ในออสเตรีย

วันนี้ BMW ได้มีการประกาศยุติสายการผลิตอย่างเป็นทางการ พร้อมส่งจดหมายรักฉบับสุดท้ายถึงแฟนๆ ในรูปแบบของรุ่นพิเศษ "Z4 Final Edition" เพื่อเป็นการอำลาตำนานโรดสเตอร์คันนี้อย่างสมเกียรติและน่าจดจำที่สุด

อำลา BMW Z4 ด้วย Final Edition

ความพิเศษของ BMW Z4 Final Edition รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตัดความลังเลใจของแฟนคลับ เพราะทาง BMW ได้คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดมารวมไว้ในคันเดียวจนคุณแทบไม่ต้องปวดหัวกับการเลือกออปชั่น สิ่งเดียวที่คุณต้องตัดสินใจมีเพียงแค่เลือกว่าอยากจะเสพความเร้าใจผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือจะเลือกความสะดวกสบายแต่ยังคงความสปอร์ตด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เท่านั้น 

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ให้เป็นหน้าที่ของวิศวกรและดีไซเนอร์จากทางค่าย ที่ได้มีการจัดเตรียมสเปคที่สวยงาม และลงตัวที่สุดมาให้แบบจบครบในคันเดียว ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดุดันและแฝงไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา

รูปลักษณ์ภายนอกของ Final Edition มาในธีมเข้มขรึมด้วยสีตัวถัง Frozen Black Metallic หรือสีดำด้านอันหรูหรา จับคู่กับชุดแต่ง Shadowline ที่เปลี่ยนชิ้นส่วนโครเมียมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝาครอบกระจกมองข้าง กระจังหน้า ช่องดักลม ไปจนถึงปลายท่อไอเสีย ให้กลายเป็นสีดำเงาทั้งหมด เพื่อสร้างลุคที่ดุดันแบบ Stealth ท่ามกลางความมืดมิดนี้ มีเพียงจุดสีสันเดียวที่โดดเด่นออกมาคือคาลิปเปอร์เบรก M Sport สีแดงสด ที่ตัดกันอย่างรุนแรงและแสดงถึงสมรรถนะที่ซ่อนอยู่ภายใน

ภายในดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม

เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้องโดยสาร ความรู้สึกสปอร์ตพรีเมียมยังคงถูกถ่ายทอดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการตกแต่งที่คุมโทนสีดำเช่นเดียวกัน เบาะนั่ง แผงประตู และคอนโซลกลางถูกหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูงผสมผสานกับวัสดุ Alcantara ที่ให้อารมณ์แบบรถแข่ง โดยมีการเดินด้ายสีแดงบนเบาะและพรมปูพื้นเพื่อสร้างมิติและความร้อนแรง

นอกจากนี้ เข็มขัดนิรภัยยังได้รับการถักทอด้วยแถบสี 3 สีอันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW M และเพื่อย้ำเตือนถึงความพิเศษที่มีเพียงหนึ่งเดียว กาบประตูรถยังได้ประทับตราสัญลักษณ์ Final Edition เอาไว้อย่างชัดเจน

สำหรับใครที่อยากครอบครองตำนานบทสุดท้ายนี้ ต้องบอกว่าเวลารวมถึงจำนวน มีจำกัดแบบสุดๆ เพราะ BMW Z4 Final Edition จะมีกำหนดการผลิตเพียงช่วงสั้นๆ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เมษายน ปี 2026 เท่านั้น ซึ่งระยะเวลาที่จำกัดนี้ยิ่งทำให้มันกลายเป็นเป้าหมายที่เหล่านักสะสมรถยนต์ทั่วโลกต่างจับจ้อง โดยราคาจำหน่ายถูกเคาะออกมาเท่ากันทุกคันอยู่ที่ 78,675 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.6 ล้านบาท (ราคายังไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย)

ถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้เป็นเจ้าของโรดสเตอร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดรุ่นหนึ่งจาก BMW ก่อนที่มันจะกลายเป็นเพียงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ยานยนต์

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน