LeapMotor Lafa5 แฮทช์แบ็กไฟฟ้ารุ่นใหม่ วิ่งไกลสูงสุด 605 กม. เปิดราคาที่จีนเริ่มต้น 97,800 หยวน (ประมาณ 4.43 แสนบาท)
LeapMotor เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อ Lafa5 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน พร้อมวางตำแหน่งเป็นแฮทช์แบ็กไฟฟ้าราคาเข้าถึงง่าย ได้เทคโนโลยีครบครัน ด้วยตัวเลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย รองรับระยะทางวิ่งสูงสุดตั้งแต่ 515 กิโลเมตร ไปจนถึง 605 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC
ราคาจำหน่าย LeapMotor Lafa 5 ในประเทศจีน
- รุ่น 515 Plus ราคา 97,800 หยวน (ประมาณ 4.43 แสนบาท)
- รุ่น 515 Pro ราคา 105,800 หยวน (ประมาณ 4.8 แสนบาท)
- รุ่น 515 Max ราคา 115,800 หยวน (ประมาณ 5.25 แสนบาท)
- รุ่น 605 Pro ราคา 111,800 หยวน (ประมาณ 5.07 แสนบาท)
- รุ่น 605 Max ราคา 121,800 หยวน (ประมาณ 5.52 แสนบาท)
หลังจากเผยโฉมครั้งแรกที่งาน IAA Mobility 2025 ประเทศเยอรมนี รุ่นนี้ก็ได้รับความสนใจอย่างมากเพราะดีไซน์ที่สะดุดตา ตัวรถถูกออกแบบเป็นแฮทช์แบ็กลุคทันสมัย ตกแต่งด้วยชุดไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL ในโคมเดียวกัน เชื่อมทั้งสองฝั่งด้วยแถบสีดำที่ช่วยเพิ่มความล้ำสมัย กระโปรงหน้ามีเส้นสายโค้งมนรับกับกันชนหน้าที่ติดตั้งช่องดักลมสีดำขนาดใหญ่ และช่องระบายอากาศ ให้ความสปอร์ตลงตัว ส่วนด้านข้างใช้มือจับประตูแบบซ่อนและประตูคู่หน้าแบบไร้กรอบ เสริมด้วยล้ออัลลอยสีดำขนาด 19 นิ้ว ที่ช่วยเติมความดุดันของตัวรถ ขณะที่ด้านท้ายตกแต่งเรียบแต่คม พร้อมไฟท้าย LED แบบพาดยาวเต็มแนวกว้าง และในรุ่นสูงสุดมีการติดตั้ง LiDAR บริเวณหลังคาด้านหน้าเพื่อรองรับระบบขับขี่อัจฉริยะ
ขนาดตัวรถอยู่ในสัดส่วนที่คล่องตัว เหมาะกับการใช้งานในเมือง และนอกเมือง โดยมีความยาว 4,430 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,520 มม. และฐานล้อ 2,735 มม.
ภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบง่ายในโทนมินิมอล มีฟังก์ชันครบถ้วน เบาะนั่งมีให้เลือกหลายวัสดุ ตั้งแต่หนังแท้ หนังกลับ ไปจนถึงวัสดุผ้า
เบาะคู่หน้ามีระบบระบายอากาศ รวมถึงฟังก์ชันปรับความร้อน ชุดมาตรวัดเป็นจอดิจิทัลขนาด 8.8 นิ้ว พวงมาลัยแบบสองก้านหุ้มหนัง ส่วนหน้าจอกลางอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.6 นิ้ว ความละเอียด 2.5K รันบนระบบ Leapmotor OS 4.0 Plus ที่ใช้ชิป Snapdragon ให้การตอบสนองรวดเร็ว คอนโซลกลางออกแบบเป็นชิ้นงานที่เรียกว่า “Magic Expansion Island” เชื่อมต่อเนียนตากับแผงแดชบอร์ด ติดตั้งแท่นชาร์จไร้สาย ช่องวางแก้ว และพื้นที่เก็บของเพิ่มความสะดวก ภายในยังมีหลังคาพาโนรามิกและไฟ Ambient Light 256 สี ช่วยยกระดับบรรยากาศโดยรวมให้มีความพรีเมียม
ด้านขุมพลัง LeapMotor Lafa5 พัฒนาบนสถาปัตยกรรม LEAP 3.5 โดยรุ่นเริ่มต้น 515 Plus ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 132 kW หรือ 177 แรงม้า แรงบิด 175 นิวตันเมตร จับคู่แบตเตอรี่ LFP ความจุ 56.2 kWh วิ่งได้สูงสุด 515 กม. ส่วนรุ่น 515 Pro, 515 Max, 605 Pro และ 605 Max จะได้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็น 160 kW หรือ 215 แรงม้า พร้อมแรงบิด 240 นิวตันเมตร โดยรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ 56.2 kWh ยังให้ระยะวิ่ง 515 กม. เท่ากัน ขณะที่รุ่นท็อปด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น 67.1 kWh จะวิ่งได้ไกลสุด 605 กม. ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน และด้านหลังแบบมัลติลิงก์
ระบบความปลอดภัยและผู้ช่วยการขับขี่ให้มาแบบจัดเต็มตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น โดยมีทั้งกล้องรอบคัน เรดาร์อัลตราโซนิก ระบบเตือนการชนด้านหน้า เตือนออกนอกเลน ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน รวมถึงระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน รุ่น 515 Max ขึ้นไปจะได้ระบบตรวจจับจุดบอดเพิ่ม ส่วนรุ่นเรือธง 605 Max จะได้ระบบ LiDAR พร้อมแพลตฟอร์มประมวลผล 200 TOPS รองรับฟีเจอร์ขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง
LeapMotor B05 ทำตลาดในจีนพร้อมสีตัวถังทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Electric Yellow, Storm Grey, Starry Blue, Morgan Pink, Galaxy Silver และ Metallic Black และทางค่ายยังเผยว่าจะมีรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง Lafa 5 Ultra เปิดตัวเพิ่มเติมในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2026 ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มไลน์อัปด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่ารุ่นปัจจุบัน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
LINE
ความคิดเห็น