Mercedes-Benz GLB 2026 โฉมใหม่ พลิกสู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัว พร้อมเทคโนโลยี 800V ชาร์จไว และจอยักษ์ Superscreen สุดล้ำ
Mercedes-Benz GLB ใหม่ มาแล้ว! พร้อมเทคโนโลยี 800V และจอยักษ์ Superscreen
สาวกดาวสามแฉกเตรียมตัวให้พร้อม Mercedes-Benz GLB 2026 เผยโฉมอย่างเป็นทางการ ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การปรับโฉมธรรมดา แต่เป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ เพราะ GLB ใหม่นี้ จะทำหน้าที่แทนรถยนต์ไฟฟ้าตระกูล EQB โดยตรง โดยจะมีเฉพาะเวอร์ชันไฟฟ้า 100% เท่านั้น แต่ๆๆ ก็มีข่าวคราวแว่วมาว่าจะมีรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดตามมาสมทบในภายหลังอีกด้วย

GLB แรงขึ้น ชาร์จไวด้วยเทคโนโลยี 800V
Mercedes-Benz GLB ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทรงกล่องที่บึกบึนและอเนกประสงค์ มีทั้งแบบ 5 และ 7 ที่นั่ง โดยถูกสอดไส้ในไว้ด้วยเทคโนโลยีที่ถูกอัปเกรดใหม่หมดจด เดินตามรอยรุ่นพี่อย่าง CLA และ GLC ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแรงดันสูง 800 โวลต์ รวมถึงติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 85 kWh มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ดังนี้



- GLB 250+ with EQ Technology (RWD)
- มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง
- พละกำลังสูงสุด 268 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที
- วิ่งไกลสุด 630 กม./ชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP
- GLB 350 4Matic with EQ Technology (AWD)
- มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ
- พละกำลังสูงสุด 349 แรงม้า แรงบิด 515 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.5 วินาที
- วิ่งไกลสุด 615 กม./ชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP
นอกจากนี้ Mercedes-Benz ยังแย้มว่าจะมีรุ่นเริ่มต้นราคาประหยัดตามมาอีกในปีหน้า และรุ่นไฮบริด 48V ที่มีให้เลือกถึง 3 ระดับความแรงในอนาคตอีกด้วย


ดีไซน์ภายนอกรับแรงบันดาลใจจาก Vision EQXX
สำหรับการออกแบบของ Mercedes-Benz GLB มีการดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ และไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่ซ่อนลูกเล่น ไฟ DRL รูปทรงดาว (Star-shaped) พร้อมแถบไฟ Light bar เชื่อมต่อกัน แต่ไฮไลท์จริงๆ อยู่ที่บั้นท้าย ติดตั้งไฟท้ายแนวตั้งที่เชื่อมด้วย Light bar พร้อมลายเซ็นไฟรูปดาวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถต้นแบบสุดล้ำอย่าง Vision EQXX ทำให้รถดูทันสมัยและมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนขึ้นมาก


ห้องโดยสารยก Superscreen มาใส่ มาพร้อม AI อัจฉริยะ
บอกลาหน้าปัดแบบเดิมๆ ไปได้เลย เพราะ Mercedes-Benz GLB ก้าวสู่อนาคตด้วยออปชั่น Superscreen แผงหน้าจอยาวตลอดคอนโซลที่ประกอบด้วย จอคนขับ 10.25 นิ้ว จออินโฟเทนเมนต์กลาง 14 นิ้ว และจอผู้โดยสารตอนหน้า 14 นิ้ว มาพร้อมระบบปฏิบัติการคือ MBUX เจเนอเรชันที่ 4 ที่ฉลาดล้ำด้วยการผสาน AI จากทั้ง Microsoft และ Google ทำงานบน Unity Game Engine รวมถึงผู้ช่วยส่วนตัว MBUX Virtual Assistant ที่ขับเคลื่อนด้วย ChatGPT4o เพื่อการโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติที่สุด



สำหรับราคาที่ประกาศขายในเยอรมนี เริ่มต้นที่ €59,048 หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท ในรุ่น GLB 250+ และ €62,178 หรือประมาณ 2.45 ล้านบาท ในรุ่น GLB 350 4Matic ถือเป็นการยกระดับ Mercedes-Benz GLB ให้กลายเป็น SUV ไฟฟ้าที่ครบเครื่องทั้งสมรรถนะ เทคโนโลยี และความอเนกประสงค์ ส่วนแฟนๆ ชาวไทยคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าเวอร์ชันพวงมาลัยขวาจะเข้ามาเมื่อไหร่ค่ะ






อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น