VDO Review ขี่ทดสอบ Kawasaki Z250 “Rule The Street” ฉีกกฏการขี่ 2ล้อ บนท้องถนนทั่วๆไป Share this

VDO Review ขี่ทดสอบ Kawasaki Z250 “Rule The Street” ฉีกกฏการขี่ 2ล้อ บนท้องถนนทั่วๆไป

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 18 June 2556

มาถึงช่วงสุดท้ายกับ Maxx Drive วันนี้เราจะพาคุณไปพบ Bigbike ยอดนิยมอีกคันหนึ่งจากแบรนด์ Kawasaki Z250 ที่ขายดีซะจนเราต้องนำมารีวิวให้ดูกัน ว่าอะไรที่ทำให้เจ้า Z250 คันนี้เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักบิดชาวไทยเดี๋ยวได้รู้กัน

ปัจจุบันนี้ รถจักรยานยนต์ใหญ่ (Bigbike) ได้เติบโตขึ้นมากในบ้านเรา ยิ่งในตัวเมืองนี้เราจะเห็นคนขี่รถ Bigbike เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตที่เร่งรีบในตัวเมือง หลายคนคงปฏิเสธ ที่จะขับขี่รถยนต์ เพราะจะต้องฝ่าฟันกับรถติด ที่ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมาก แถมด้วยค่าน้ำมันสุดแสนแพง ไม่พอแค่นั้น ที่จอดในตัวเมืองนั้นก็มีไม่เพียงพออีกให้แก่รถยนต์ทุกคัน เพราะฉะนั้นไม่น่าแปลกใจที่รถจักรยานยนต์นั้นจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างสูง แต่การที่จะเลือกซื้อรถจักรยานยนต์สักคัน เพื่อใช้ในชีวิตที่ค่อนข้างเร่งรีบ นอกจากจะต้องเป็นรถที่ขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ง่ายแล้ว กำลังเครื่องก็ถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะมันจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างดีเยี่ยมราบรื่น ซึ่งหลายคนที่คิดจะเริ่มหันมาเล่นรถ Bigbike นี้ คงมอง รถอย่าง Kawasaki Z250 เป็นตัวเลือกที่สำคัญ คันหนึ่ง อย่างแน่นอน ด้วยสไตล์รถ Naked แฮนด์บาร์ที่ขี่ง่าย การควบคุมง่าย ไม่เมื่อยล้าจนเกินไป และกำลังเครื่องมีมาให้ในระดับที่ใช้งานในตัวเมืองได้อย่างเหลือเฟือ และการเดินทางไกลก็ไม่ขี้เหล่ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้มีโอกาสนำมาถ่ายทำเป็น VDO รีวิวให้ได้ชมกัน

DSC_0167_resize

สำหรับการรีวิวรถ Kawasaki Z250 สีขาวมุก Pearl Sartdust White คันนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Motoaholic อีกครั้งที่ได้ให้รถเรามายืมทดสอบกัน

รูปลักษณ์เรือนกาย Kawasaki Z250 ได้ดีไซน์ไฟหน้ามาเป็นตัวอักษร W สร้างความดุดันให้บริเวณด้านหน้าตัวรถ ตรงตามคอนเซ็ปต์ “Z is Wild” บริเวณแฟริ่งด้านหน้าให้ความเป็นเหลี่ยมเป็นสัน ไปยันถังน้ำมัน เสริมความดุดัน และยังมีสติ๊กเกอร์ Z250 แปะตรงกลางตัวถังน้ำมัน เสริมความเท่ห็ยิ่งขึ้นอีกแปะ โดยรวมดูจากครึ่งคันหน้าแล้ว ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นพิกัดน้องเล็กแค่ 250cc ในส่วนของครึ่งคันด้านหลังนั้น ต้องเรียกว่ายกมาจาก ninja 250 2013 เป๊ะๆ ไม่ผิดเพี้ยนแตกต่างกันเพียงในส่วนของครึ่งคันหน้า รวมถึงลายล้อแม็กอลูมีเนียมแบบ 10 ก้าน ซึ่งใส่ยางไซส์ 140 ให้สำหรับล้อหลัง กว้างขึ้นอีก 10มม. เมื่อเทียบกับตัวปี 2012 สไตล์ของตัวรถออกแบบมาแนว หน้าเตี้ยท้ายโด่ง ซึ่งท้ายโด่งนั้น มันทำให้รถหล่อก็จริง แต่การที่มีสาวซ้อนท้าย ก็ต้องบอกเหมือนกันว่า ซ้อนนั่งลำบากเหมือน Ninja 250 เป๊ะ ตามคอนเซ็ปต์ “Z is Dynamic”

มาตรวัดแบบดิจิตัลจอ LCD แบบอัจฉริยะ แสดงผลทั้ง ความเร็ว นาฬิกา เกจ์น้ำมัน และมาตรวัดระยะเดินทาง รวมถึง eco ที่บอกว่าขับขี่แบบประหยัด ในส่วนวัดรอบยังเป็นอนาล็อค Redline อยู่ที่ 12,500rpm และมีโลโก้ Z โชว์อยู่ พิกัดน้ำหนักตัวไม่มากจนเกินไป 168 กก. เบากว่า Ninja 250 เล็กน้อยจาก เปลือกแฟริ่งด้านหน้าเป็นแบบ Naked

นอกนั้น ขาตั้งข้างเดี่ยวติดตั้งเซ็นเซอร์ตัดสตาร์ทเพิ่มความปลอดภัย อีกด้วย โดยรวมแล้วกับ เจ้า Z คันนี้ถ้าหากขับขี่ไปบนถนนจอดติดไฟแดง ได้หล่อ เกิดแน่นอน เพราะ รถส่วนใหญ่ที่เป็นแบบรถครอบครัว หรือ ออโตเมติก จะต้องหันมามองคุณ ยกระดับ Class ของคุณ ตามคอนเซ็ปต์ “Z is Class” ได้อย่างแน่นอน

IMG_1949_resize

ด้วยดีไซน์ของตัวรถ ทำให้ท่านั่งของผู้ขับขี่อยู่ในแนวตั้งตรง แฮนด์เดิลบาร์กว้าง และต่ำ แต่ไม่ต่ำจนเกินไป ทำให้การควบคุมรถทำได้ คล่องตัว ว่องไว รวมถึงท่านั่งแบบนี้ส่งผลให้ผู้ขี่ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย แม้กระทั่งการเดินทางไกล ก็ตาม โดยรวมแล้ว เจ้า Z คือ รถ Sport Naked Bike ที่ใช้งานได้ดีเยี่ยมในการจราจรที่ติดขัดและรีบเร่ง ก็มุดได้อย่างไม่ยากเย็นจนเกินไป หรือขี่เดินทางไกล ด้วยท่านั่งสรีระก็ไม่ทำให้เมื่อยจนเกินไปอีก ตรงตามคอนเซ็ปต์ “Z is Extreme” การบังคับเลี้ยวแฮนด์ควบคุมได้ค่อนข้างง่ายจากทรงแฮนด์ที่ต่ำ และกว้าง ซี่งกำลังพอเหมาะไปกว้างเกินจนแบะแขนมาก ซึ่งกับคนที่ช่วงแขนไม่ยาวมาก ยังหักแฮนด์เลี้ยวได้อย่างคล่องแคล่ว

เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ เรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 249cc แบบ DOHC บล๊อกใหม่นี้ เคลมในเรื่องกำลัง และให้ความประหยัด ตามคอนเซ็ปต์ “Z is Performance” มีแรงม้าให้ใช้ สูงสุด 32PS @11000rpm และแรงบิด 21 Nm@10000rpm

จากการที่ได้ทดลองขับ จะพบได้ว่ารอบต้นความเร็วมาเร็วขึ้น เหมือนจะมีการทดสเตอร์ไล่ เบอร์กันใหม่ ในสเตอร์หลังที่ ตัวเก่าจะเป็น 43T แต่ตัวใหม่จะเป็น 45T ส่งผลให้ความเร็วต้นดีขึ้นอย่างที่บอกไปรอบมามาไวขึ้น แต่ดูแล้วปลายจะลดหายลงไปหน่อย และที่ความเร็วสูงขึ้น จะใช้รอบเครื่องที่ลดต่ำลงกว่าเดิมด้วย เน้นความประหยัดมากขึ้น ทำให้การเซ็ตอัพปรับจูนในรถปี 2013 ใหม่นี้ จะเน้นความนุ่มนวล + ประหยัด เน้นตีนต้น เพื่อตอบสนองต่อการแบบใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง

ลองซัดทางยาวดูเพื่อจะลอง Top Speed กับเจ้า Z250 คันนี้ ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ตามมาตรวัดดิจิตัลอยู่ที่ 152 กม./ชม. @ 11000rpm + ซีึ่งน่าจะเป็นผลมาจากลมที่แรงในวันที่ทำการทดสอบทำให้ความเร็วที่ได้นั้นดูไม่มากนัก (โดยที่ผู้ขี่มีน้ำหนัก 58กก.)

IMG_1943_resize

หลังจากนั้น ได้ลองวัดความเร็วต่อรอบเครื่องยนต์ 3 ค่า ได้ดังนี้

80 กม./ชม.=6000rpm 100 กม./ชม.=7500rpm 120 กม./ชม.=9000rpm

ซึ่งในช่วงความเร็ว ตั้งแต่ 100 กม./ชม. จะใช้รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่าโมเดลเก่าอย่าง Ninja 250 ปี 2012 ซึ่งน่าเป็นผลมาจากเบอร์ของสเตอร์หลังที่เปลี่ยนไป และที่สำคัญการพัฒนาในทางที่ดีขึ้นอย่างรู้สึกได้ชัดเจน คือในตัวใหม่นี้ การเข้าเกียร์ทำได้นิ่มนุ่มนวลเข้าง่ายกว่า โมเดลเก่าอย่าง Ninja 250 ปี 2012 ตัวเก่ามาก เข้าได้แม่นยำ ลงล๊อคทุกเกียร์ เกียร์เข้าได้นิ่มนวลขึ้น และที่สำคัญการหาเกียร์ N นั้นไม่ยากเย้นอีกต่อไป

DSC_0183_resize

ระบบเบรกดิสก์หน้า และหลัง จานเบรกหน้าขนาด 290mm พร้อมด้วยคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ และหลังขนาด 220mm พร้อมด้วยคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ เช่นกัน ระยะการเบรกและการเบรกลงน่้ำหนัก ยังไม่ได้แตกต่างจากเดิม ยังทำได้ดีพอตัวกับการตัดทอนแรงม้ากำลังเครื่องที่มีในระดับรถ Bigbike Size เล็กอย่าง 250cc

DSC_0185_resize

ช่วงล่างด้านหน้า กระบอกแกนโช้คอัพเป็นชนิด Telescopic ขนาดแกน 37mm และ ช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบ Bottom Link Uni Trak และโช้คอัพแก้สแบบหลังเดี่ยว ที่สามารถปรับ ความแข็งสปริงได้ 5 ระดับ การเซ็ตแบบเดิมๆมาจากโรงงาน สามารถนั่งขี่ได้อย่างสบายๆ ใช้งานในสภาพพื้นถนนสุดแย่บ้านเราได้อย่างไม่โหดร้ายนัก แต่ถ้าเมื่อต้องการขับที่ความเร็วสูง หรือ ขับแบบฟีลลงสนาม ก็สามารถปรับโช้คหลังให้มีความแข็งเพิ่มขึ้นได้ ตามความเหมาะสมแก่การใช้งาน

สรุป Kawasaki Z250 ถือเป็นรถ Bigbike สไตล์ Naked ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีเหมาะสมกับ มือใหม่ที่อยากจะขยับ cc ขึ้นมาเล่นรถใหญ่ หรือ จะเอามาใช้งานเป็น Everyday bike ก็ถือว่าตรงคอนเซ็ปต์ “Rule The Street” เพราะมีความคล่องตัวพอเหมาะ ไม่ใหญ่จนเกินไป แก่การมุดการจราจรอันติดขัดในตัวเมือง และด้วยค่าสินสอด ระดับแสนกลาง เอาวะ หลายคนยังพอกัดฟันไหว รูปลักษณ์ดุดัน โดนใจ ความแรงใช้งานทั่วไปแบบพอเพียง ขี่ง่าย เครื่อง Smooth ทำได้ดี ไม่แปลกใจที่ยอดจอง รอคิวรถล้นทะลัก

DSC_0178_resize

Kawasaki Z250 ราคา 151,500 บาท มี 3 สี ได้แก่ ดำด้าน Flat Ebony, แดง Candy Persimmon Red, ขาวมุก Pearl Sartdust White

สนใจติดต่อขอลองขี่ หรือ จับจองได้ที่ Motoaholic

ภณ เพียรทนงกิจ ผู้เขียน

อาณัฐ สุทธิบุตร ภาพ

ชมภาพเพิ่มเติมคลิ๊ก http://photos.autospinn.com/2013-Kawasaki-Z250-VDO-Review/


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ