สงครามราคาฟิล์มกรองแสงเดือด กระทบ V-KOOL ส่งผลรายได้ทรงตัว เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ตั้งเป้าปีหน้าโต 5-10%

V-KOOL โอดฟิล์มกรองแสงรถยนต์แข่งราคาเดือด ส่งผลรายได้ทรงตัวแม้ยอดขายฟุตเพิ่ม ขณะที่ได้เป็นตัวแทนขาย"ฮิวเปอร์ ออฟติค" ตั้งเป้าปีหน้าเติบโตทั้งสองยี่ห้อ 5-10%

พิมพา ชลาลัย ประธานบริหาร บริษัท วี เค เอส กรุ๊ป (เอเซีย) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ในปีนี้ มีการแข่งขันด้านราคากันสูง แม้บริษัทมีจำนวนยอดขายสูง แต่รายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน โดย V-KOOL มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 11-13% ซึ่งในปีนี้บริษัทมียอดขายจากโชว์รูมเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิม 20% ขณะที่สัดส่วนดีลเลอร์ลดลงเหลือ 50% และคงฟิล์มอาคาร 20%

นอกจากนี้ บริษัทได้เป็นตัวแทนจำหน่าย ฟิล์มเซรามิคยี่ห้อ ฮิวเปอร์ ออฟติค ตั้งเป้าปีหน้าจะมียอดขาย 3% ของมูลค่าฟิล์มกรองแสงในตลาด (1,500-1,600 ล้านบาท) โดยเจาะกลุ่มลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ขณะที่ V-KOOL จะเป็นลูกค้าระดับกลาง-สูง พร้อมตั้งเป้าขายทั้งสองยี่ห้อปีหน้าอยู่ที่ประมาณ 5-10%

"ภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้ คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 8.3-8.4 แสนคัน และมีการแข่งขันกันเต็มที่ โดยลูกค้า V-KOOL อยู่ในกลุ่มรถที่มีราคาเกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งรถกลุ่มนั้นมีประมาณ 1.3 แสนคัน และ V-KOOL มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 13% และจะรักษาส่วนแบ่งตลาดให้ได้ แม้ว่าตลาดชะลอตัวในช่วงไตรมาส 2-3 และมีการแข่งขันสูงในตลาดโชว์รูมรถ"

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีนี้ บริษัทได้จัดโปรโมชั่น ช็อปช่วยชาติ ตามนโยบายรัฐบาล เริ่มตั้งแต่ 11 พ.ย.-3 ธ.ค.60 ซึ่งลูกค้าจะได้ส่วนลดฟิล์ม V-KOOL สูงสุด 8,000 บาท,เคลือบแก้วจากญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้น 7,000 บาท และกล้องติดรถยนต์ Klassla ส่วนลดพิเศษ 15% ซึ่งลูกค้าที่ซื้อสินค้าในข่วงเวลาดังกล่าวสามารถขอใบกำกับภาษีเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีตามนโยบายของรัฐบาลได้

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่