รีวิว รถยนต์พลังงานไฟฟ้า iMIO M2 ความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงง่าย เพียง 279,000 บาท (จดทะเบียนได้) Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว รถยนต์พลังงานไฟฟ้า iMIO M2 ความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงง่าย เพียง 279,000 บาท (จดทะเบียนได้)

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 09 February 2564

iMIO M2 รถพลังงานไฟฟ้า 100% เล็ก กะทัดรัด น่ารัก ราคาเบา ๆ ชาร์จไฟ 10 บาท แต่วิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 100 กม.เลยทีเดียว และยังสามารถจดทะเบียน ต่อภาษีได้เหมือนรถยนต์ทั่วไป


ชมรีวิวรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่

ปัจจุบันรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีระบบกลไกน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบสันดาป ดูแลรักษาง่าย และที่สำคัญ คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการเผาไหม้ ไม่ปล่อยมลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ด้วยราคาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีขายอยู่ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ราคาจะค่อนข้างสูง โดยมีราคาเกือบล้าน ไปจนถึงหลายล้านบาท แม้คุณสมบัติจะน่าสนใจสักแค่ไหน แต่บางท่านก็สู้ราคาไม่ไหว ทำให้การตัดสินใจซื้อรถพลังงานไฟฟ้าต้องหยุดชะงักลง

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีรถพลังงานไฟฟ้าราคาถูกหลงเหลืออยู่ในไทยนะครับ เพราะล่าสุดมีผู้สั่งผลิตและนำเข้ารถไฟฟ้าจากจีน ได้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าราคาประหยัดเข้ามาจำหน่ายในไทย ซึ่งมีชื่อแบรนด์ว่า iMIO (ไอมีโอ้) โดยแบรนด์นี้ มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เลือกมากมายหลายรุ่น เช่น รุ่น Q7+ , S3 ,SUV และรุ่นล่าสุดที่เพิ่งมาใหม่ และน่าสนใจมากๆคือ iMIO M2

iMIO M2 (ไอมีโอ้ รุ่น เอ็ม2) เป็นรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่มาในตัวถังขนาดเล็ก กะทัดรัด น่ารัก จุดเด่นของ iMIO M2 คือสามารถจดทะเบียนได้เหมือนรถยนต์ปกติทั่วไป วิ่งบนถนนใหญ่ได้ โดยมีราคาค่าตัวเพียงแค่ 279,000 บาท

ดีไซน์ภายนอก iMIO M2

ดีไซน์ภายนอก มาในสไตล์ของความน่ารัก ลายเส้นส่วนเว้าส่วนโค้งของฝากระโปรงหน้า และกันชนหน้าดูมีมิติ ตัวถังกะทัดรัดคล้ายกับรถ Kei Car ของญี่ปุ่น โดยมิติตัวถังของรถ มีความกว้าง 140 ซม. ความยาว 280 ซม. และความสูง 155 ซม.

ไฟหน้า LED เมื่อเราเปิดไฟหรี่ ตรงส่วนที่เป็นสีขาวจะสว่างเหมือนไฟ Daytime ตัดกับส่วนที่เป็นสีแดง พร้อมขอบโคมไฟสีเงินโครเมี่ยม ที่รับเข้ากับชุดกระจังหน้าตะแกรงสีดำแบบปิดทึบ บริเวณขอบและเส้นคาดกลางกระจังหน้าเป็นสีเงิน ถัดลงมาด้านล่างเป็นไฟตัดหมอกทรงกลม พร้อมฝาปิดไฟตัดหมอกและกระจังตัวล่างสีดำ

เมื่อเปิดฝากระโปรงหน้า จะดูโล่งๆ เพราะไม่มีเครื่องยนต์ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นที่อยู่ของระบบแอร์ ปั๊มลมเบรก หม้อลมเบรก

กระจกมองข้างสีดำแบบปรับมือ พร้อมแถบสีแดงตรงกลางที่เป็นลายเดียวกันกับไฟหน้ารถ แม้ตัวถังจะดูเล็ก แต่ด้วยความสูงของหลังคา ประกอบกับกระจกข้างที่บานใหญ่ จึงทำให้รู้สึกได้ทันทีว่านั่งแล้วไม่อึดอัด นอกจากนี้ ลายเส้นที่ด้านข้างยังเล่นลวดลายส่วนเว้าส่วนโค้ง ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น และใช้เป็นสีทูโทนสีดำครึ่งบน ช่วยให้ตัวรถดูมีสีสัน ไม่จืดชืด สำหรับแร็คหลังคาที่อยู่ด้านบน ผมใช้มือลองโยกดู ก็แข็งแรงมากพอที่จะขนของเล็กๆน้อยๆที่มีน้ำหนักไม่มากนัก และอีกจุดที่ดูโดดเด่นมากๆสำหรับด้านข้าง คือล้อแมกซ์ขนาด 12 นิ้ว ลายซี่ถี่ๆ สีดำปัดหน้าสีเงิน

ตัวถังด้านท้ายคล้ายกับรถ Hatch back แต่ฝาท้ายของเจ้าคันนี้ไม่สามารถเปิดได้ จะเปิดได้แต่ตัวบานกระจกหลัง ซึ่งการใช้งานก็ไม่ยุ่งยากครับ เพียงแค่ใช้กุญแจเสียบที่กลอน โดยจุดเด่นของท้ายรถอยู่ที่ไฟท้ายครับ ลายเส้นข้างในคล้ายธงชาติอังกฤษ เมื่อเปิดไฟท้ายตอนกลางคืนสวยงามมากครับ นอกจากนี้ ยังมีกล้องมองหลัง ซึ่งจะฝังอยู่ที่กันชนท้าย เห็นกล้องเล็กๆแบบนี้ แต่ภาพคมชัดใช้ได้เลยครับ

ดีไซน์ภายใน iMIO M2

ภายในของคันนี้มาในโทนสีดำ ซึ่งภายในตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินด้าน พวงมาลัยอยู่ฝั่งขวา เป็นแบบสามก้านหุ้มหนัง จับถนัดกระชับมือ แต่เป็นพวงมาลัยแบบธรรมดานะครับ ไม่ใช่พวงมาลัยพาวเวอร์ และไม่ใช่พวงมาลัยไฟฟ้า แต่การใช้งานจริง พวงมาลัยก็ไม่ได้หนักมากครับ เพราะล้อมีหน้ากว้างไม่มาก และตัวรถมีเบาหนักเบาไร้แรงกด สามารถหมุนพวงมาลัยด้วยมือเดียวได้

ปุ่มด้านซ้ายบนพวงมาลัย สำหรับใช้รับสายวางสายโทรศัพท์ และสำหรับเพิ่ม-ลดเสียง ส่วนปุ่มทางด้านขวาสำหรับใช้เลื่อนเปลี่ยนเพลง กดหยุดเพลง  ก้านที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัย ฝั่งซ้ายสำหรับเปิด-ปิดไฟหน้า และไฟเลี้ยว ส่วนก้านฝั่งขวาสำหรับเปิด-ปิดที่ปัดน้ำฝน และยังมีไฟ Ambient สีน้ำเงิน ซึ่งแสงไฟตอนกลางคืนดูโดดเด่นสวยงามดีครับ

จอเรือนไมล์แบบดิจิตอล สำหรับแสดงความเร็วรถ ระยะทางวิ่ง และยังมีตัวเลขบอกสถานะแบตเตอรี่ ส่วนแถบที่อยู่ทางด้านขวาก็เป็นแถบแสดงสถานะแบตเตอรี่เช่นกันครับ มีช่องเสียบ USB ไว้เชื่อมต่อโทรศัพท์ และก้านสีแดงๆบนพวงมาลัยสำหรับใช้เปิด-ปิด ไฟฉุกเฉินครับ

จอเครื่องเล่นเป็นภาษาจีน แต่ใช้งานไม่ยุ่งยากครับ สามารถเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์ได้ ดูหนังฟังเพลงได้ และยังเป็นจอแสดงภาพเมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย

สำหรับตัวปรับตำแหน่งเกียร์ จะเป็นแบบลูกบิดครับ มีเกียร์ R N D S

  • R = เกียร์ถอย
  • N = เกียร์ว่าง
  • D = ขับเดินหน้า (จากการขับทดสอบ สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 55 กม./ชม.)
  • S = ขับเดินหน้า แต่มอเตอร์มีกำลังเพิ่มมากขึ้น (จากการขับทดสอบ สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 75 กม./ชม.)

ที่นั่งตอนหลังมีพื้นที่เยอะมากๆครับ โดยเฉพาะตรงที่วางเท้า กว้างจนเราสามารถลงไปนั่งเล่นที่พื้นได้เลย นอกจากนี้ พนักพิงเบาะหลัง ยังสามารถพับได้อีกด้วย เท่าที่ลองทดสอบนั่ง ก็นั่งได้ปกติครับ แต่พนักพิงจะตั้งชันไปหน่อย ผมสูง 175 ซม. ศีรษะไม่ติดเพดาน หัวเข่าไม่ดันเบาะหน้า

iMIO M2 ใช้พลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5,000 วัตต์ หากเทียบกับรุ่นอื่นๆ ของ iMIO เจ้าคันนี้ถือว่ากำลังมอเตอร์เยอะที่สุดแล้วครับ ในส่วนของแบตเตอร์รี่เก็บไฟ ใช้เป็นแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์ วางเรียงกันทั้งหมด 6 ลูก เก็บไฟได้รวมทั้งหมดประมาณ 72 โวลต์ โดยตำแหน่งของมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่บริเวณท้ายรถ ส่วนตำแหน่งของแบตเตอรี่ จะวางอยู่ที่ใต้เบาะนั่งตอนหน้า 5 ลูก และวางที่ด้านหลัง 1 ลูก โดยอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในรถ รวมถึงระบบแอร์ จะกินไฟตรงจากแบตเตอรี่ หากเราขับโดยปิดแอร์จะได้ระทางไกลสูงสุดอยู่ที่ 100 กม. แต่ถ้าเปิดแอร์จะได้ระยะทางไกลสูงสุดประมาณ 75 กม.

การชาร์จไฟ สามารถใช้ไฟบ้านได้เลยครับ ชาร์จง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องติดตั้งตู้ชาร์จ ไม่ต้องใช้ไฟ 3เฟส แต่อย่างใด ซึ่งอุปกรณ์ในการชาร์จไฟที่เค้าให้มา จะให้มาเป็นอแดปเตอร์หม้อแปลง เราแค่เสียบเข้ากับเต้ารับของตัวรถ ส่วนปลายสายอีกข้าง เสียบเข้ากับเต้ารับไฟบ้านได้เลย โดยในขณะชาร์จไฟ ที่ตัวหม้อแปลงจะมีแสงไฟสีแดงกระพริบ และเมื่อชาร์จไฟจนเต็ม ระบบจะตัดไฟอัตโนมัติ ไฟสีแดงที่กระพริบจะดับลง และขึ้นเป็นไฟสีเขียว ซึ่งใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 6-8 ชม.

ทดลองขับ iMIO M2

การทดลองขับในครั้งนี้ ผมวิ่งบนถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นถนนใหญ่ ในใจตอนแรกแอบกังวลกลัวว่ารถจะวิ่งไม่ไหว และกลัวว่าจะไปเกะกะรถคันอื่นๆที่วิ่งอยู่บนท้องถนน แต่ด้วยกำลังมอเตอร์ 5,000 วัตต์ ซึ่งก็มากพอที่จะแบกตัวถังขนาดเล็กนี้ให้วิ่งฉิวได้ ประกอบกับตัวรถที่สามารถจดทะเบียนได้เหมือนรถยนต์ปกติทั่วไป ผมเลยขอลองขับแบบยาวๆ ระยะทางกว่า 50 กม.

เริ่มต้นด้วยการสตาร์ทเครื่อง เนื่องจากเป็นรถไฟฟ้าจึงไม่มีเสียงของไดร์สตาร์ทให้ได้ยิน ซึ่งเราสังเกตได้จากหน้าจอเรือนไมล์ หากมีไฟต่างๆขึ้นที่หน้าจอ แสดงว่ารถสตาร์ทติดเรียบร้อยแล้ว เมื่อปรับลูกบิดไปที่ตำแหน่งเกียร์ D แล้วปล่อยเบรก ตัวรถจะยังไม่ขยับไปไหนจนกว่าเราจะเหยียบคันเร่ง ซึ่งนี่ก็คือระบบความปลอดภัยป้องกันรถพุ่ง

หลังจากเหยียบคันเร่ง ในตำแหน่งเกียร์ D ตัวรถจะค่อยๆไต่ระดับเรื่อยๆ เสียงมอเตอร์เริ่มดังวื๊ดดดเข้ามาในตัวรถ ตามความเร็วที่ใช้ จนความเร็วมาตันอยู่ที่ 55 กม./ชม. ต่อให้ขยี้คันเร่งยังไงก็ได้ประมาณนี้ จากนั้นผมเลยเปลี่ยนมาใช้ตำแหน่งเกียร์ S กำลังมอเตอร์เพิ่มขึ้น รถดูมีเรี่ยวแรงมากขึ้นอย่างชัดเจน จากความเร็ว 55 กม./ชม. ไต่ระดับไปถึง 75 กม./ชม. ได้เพียงไม่กี่วินาที แม้กำลังมอเตอร์ในโหมด S จะยังมีกำลังอีกเหลือเฟือ แต่ด้วยการที่ผู้ผลิตเค้าปรับเซ็ตให้ความเร็วสูงสุดวิ่งได้เพียงเท่านี้ จึงไม่สามารถแรงเกินกว่านี้ได้ ซึ่งเหตุผลก็คือเพื่อไม่ให้มอเตอร์ร้อนจนเกินไป ต่อด้วยการขับขึ้นสะพานกลับรถ ตอนแรกก็แอบเสียวๆกลัวจะขึ้นไม่ไหว แต่ถึงเวลาที่ต้องขับขึ้นสะพานจริงๆ ก็ทำได้สบายมากครับ กำลังเหลือเฟือ แต่จังหวะที่กำลังลงสะพานนี่สิ ความเร็วดันไหลเกินไปที่ 80 กม./ชม. ทำให้มอเตอร์ตัดการทำงานไปชั่วขณะ แต่พอความเร็วอยู่ต่ำกว่า 75 กม./ชม. มอเตอร์ก็จะกลับมาทำงานปกติ

ต่อด้วยการทดสอบเข้าโค้ง ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ในทางโค้งทั่วไปบนถนน ตัวรถสามารถเข้าโค้งได้ปกติครับ จากนั้นลองอีกครั้งที่ความเร็ว 75 กม./ชม. ตัวรถแอบมีอาการโคลงเคลงบ้างเล็กน้อยให้พอเสียวๆ แต่ก็ยังสามารถควบคุมตัวรถได้ปลอดภัย และในขณะที่ขับทดสอบ ปรากฎว่ารถคันหน้าเบรกแบบกะทันหัน จึงทำให้ผมต้องเบรกตาม ซึ่งก็เบรกอยู่นะครับ แต่จะต้องกะระยะเพิ่มมาอีกนิด โดยระบบเบรกของคันนี้เป็นแบบดิสก์เบรก ในส่วนของระบบช่วงล่าง เป็นแบบสปริง การซับแรงสั่นสะเทือนในย่านความเร็วต่ำก็พอใช้ได้ครับ ไม่นิ่มยวบยาบ ออกแนวแข็งๆหน่อย โดยรวมผมว่าเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานบนถนนที่ไม่ต้องขับเร็วมากครับ แต่ถ้าจำเป็นต้องขับออกถนนใหญ่ ก็ไปได้นะครับ แต่แนะนำให้วิ่งเลนซ้ายจะดีที่สุด

iMIO M2 เหมาะกับใคร ?

iMIO M2 เหมาะเป็นรถคันที่สองของบ้านครับ เอาไว้ขับในระแวกหมูบ้าน ขับไปจ่ายตลาด ขับไปรับ-ส่งลูกที่โรงเรียน คันเล็ก หาที่จอดง่าย กันแดด กันลม กันฝนได้ มีแอร์เย็นๆ เพลงชิลๆฟัง และยังเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มหัดขับรถ เพราะเจ้าคันนี้มีขนาดที่กะทัดรัด ขับง่าย ระบบการใช้งานต่างๆไม่มีอะไรที่ยุ่งยากเลยแม้แต่น้อย แค่ทำความคุ้นเคยสักพักก็ใช้งานได้แบบสบายๆเลยล่ะครับ นอกจากนี้ iMIO M2 ยังเหมาะกับผู้ที่สนใจอยากได้รถประหยัดพลังงาน เพราะ iMIO ชาร์จไฟต่อครั้ง ใช้เงินประมาณ 8-10 บาท แต่วิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 100 กม. เลยทีเดียว และที่สำคัญคือ เป็นรถพลังงานไฟฟ้าราคาเบาๆ แค่ 279,000 บาท ที่สามารถจดทะเบียนได้ นอกจากนี้ iMIO ยังมีอีก 2 ทางเลือกสำหรับรถพลังงานไฟฟ้า นั่นก็คือรุ่น S3 ราคา 165,000 บาท และ รุ่น Q7+ ราคา 149,000 บาท

หากท่านใดสนใจอยากทดลองขับ ติดต่อได้ที่ iMIO ได้เลยครับ

เบอร์โทรศัพท์

  • 099-026-4444
  • 0827205555

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ