เคล็ดลับดูแลเครื่องยนต์ ถ้าไม่อยากให้รถพังไว Share this

เคล็ดลับดูแลเครื่องยนต์ ถ้าไม่อยากให้รถพังไว

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 08 June 2565

การที่เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งอายุการใช้งาน การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ไม่ได้คุณภาพ หรือแม้แต่พฤติกรรมการขับขี่แบบผิด ๆ ในบทความนี้ออโต้สปินน์มีเคล็ดลับในการดูแลเครื่องยนต์ ให้ใช้งานได้ยาวนานมาฝากทุกท่านครับ


เกือบทุกครั้งที่เครื่องยนต์พัง หลายท่านมักโทษผู้ผลิต ว่าอาจจะใช้วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพ แต่บางครั้งก็ลืมไปว่าอาจเป็นเพราะตัวเราที่ใช้งานผิดวิธีด้วยเช่นกัน หากไม่อยากให้รถยนต์ที่คุณรักต้องซ่อมบ่อย ลำดับแรกต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ก่อนเลยครับ ว่าควรทำ และไม่ควรทำสิ่งใดบ้าง

ไม่ขับรถลากรอบ

การขับลากรอบ หรือใช้รอบเครื่องยนต์สูงบ่อย ๆ จะส่งผลให้ลูกสูบ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในทำงานหนักขึ้น โดยปกติแล้ว ทันทีที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนภายในจะเคลื่อนที่และเสียดสีอยู่ตลอดเวลา โดยจะมีหม้อน้ำและระบบน้ำหล่อเย็นเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อน แต่ในกรณีที่เราขับลากรอบ หรือใช้รอบเครื่องยนต์สูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ จนทำให้ระบบหล่อเย็นระบายความร้อนไม่ทัน ส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอไวขึ้น หรืออาจถึงขั้นโอเวอร์ฮีท หากใครที่ชอบขับรถลากรอบบ่อย ๆ รีบเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วนครับ

ไม่ขับออกตัวกระชาก

การขับออกตัวกระชาก นอกจากจะส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอไวแล้ว ยังทำให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ สึกหรอไวอีกด้วยครับ เช่น ระบบเกียร์ ยางแท่นเครื่อง ลูกหมาก ยางล้อรถ และยังเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วยครับ

หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรวอร์มเครื่องอย่างน้อย 3 นาที

การจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน หรือจอดข้ามวัน จะทำให้น้ำมันเครื่องที่มีสถานะเป็นของเหลว ไหลมารวมกันอยู่ที่ก้นอ่าง และเมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์ จะมีกลไกอยู่หนึ่งชิ้นที่ชื่อว่า “ปั๊มน้ำมันเครื่อง” ทำหน้าที่ดูดน้ำมันเครื่องจากก้นอ่างเพื่อไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน การวอร์มเครื่องอย่างน้อย 3 นาทีหลังจากสตาร์ทเครื่อง จะช่วยให้น้ำมันเครื่องถูกดูดขึ้นไปเคลือบหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในจนทั่ว

แต่ถ้าท่านใดเร่งรีบ ไม่สะดวกที่จะจอดรถวอร์มเครื่อง ก็ยังมีทางเลือกอีก 2 วิธีครับ

  • วิธีที่หนึ่ง ช่วงแรกของการออกตัว หรือระยะทาง 3 กิโลเมตรแรก ให้ขับเรื่อย ๆ ห้ามซิ่ง โดยใช้รอบเครื่องยนต์ให้ต่ำที่สุด เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการวอร์มเครื่องยนต์ไปในตัวครับ
  • วิธีที่สอง คือการเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณสมบัติพิเศษ ที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ฟิลม์น้ำมันยึดเกาะแน่นกับชิ้นส่วน แม้เราจะจอดข้ามวัน แต่ก็สามารถสตาร์ทรถและขับออกไปได้เลยโดยที่ไม่ต้องรออุ่นเครื่อง

ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ

น้ำมันเครื่องถือเป็นหัวใจหลักของระบบเครื่องยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะมีหน้าที่ในการหล่อลื่น ลดแรงเสียดสี ลดความร้อน และชะล้างคราบเขม่า โดยน้ำมันเครื่องที่ผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน ประสิทธิภาพในการปกป้องจะเริ่มลดน้อยลง การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อย ๆ หรือตามระยะที่กำหนด (ไม่ควรเกิน 10,000 กม.) จึงส่งผลดีต่อชิ้นส่วนต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ แต่ทั้งนี้เราก็ต้องเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้ถูกเบอร์ และเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพได้มาตรฐานด้วยนะครับ

โดยในปัจจุบัน น้ำมันเครื่องที่มีจำหน่ายในท้องตลาดจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ

  • น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% (Fully Synthetic) มีคุณสมบัติช่วยเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ ทนความร้อนได้ดี เหมาะกับรถที่ใช้รอบเครื่องยนต์สูงบ่อย ๆ ใช้ได้กับรถแข่ง และรถทั่ว ๆ ไป
  • น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) คุณสมบัติจะรองมาจากน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ ใช้ได้กับรถทั่ว ๆ ไป
  • น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา (Mineral) เป็นน้ำมันเครื่องที่มีราคาถูกที่สุด ผลิตจากน้ำมันดิบ ใช้ได้กับรถทั่ว ๆ ไป แต่ไม่เหมาะกับรถที่ต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูง

ถ้าถามผมว่า เลือกแบบไหนดี ส่วนใหญ่ผมจะแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์หรือสังเคราะห์แท้ 100% ขึ้นไปครับ เพราะมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหนือกว่าเกรดอื่น ๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูคุณสมบัติอื่น ๆ ประกอบด้วยนะครับ อย่างรถของผมที่เลือกใช้เป็นน้ำมันเครื่องของ Castrol MAGNATEC ตัวนี้เป็นเทคโนโลยีน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ที่มี  “ดูอัลล็อค เทคโนโลยี”  ที่เป็นลิขสิทธ์เฉพาะของคาสตรอล ช่วยลดการสึกหรอเครื่องยนต์ได้ถึง 50% ปกป้องเครื่องยนต์เหนือกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไป ผ่าน 3 ขั้นตอนสำคัญ คือ

1. โมเลกุลอัจฉริยะ ยึดเกาะชิ้นส่วนเครื่องยนต์เหมือนแม่เหล็ก (Cling) แม้ขณะเครื่องยนต์ไม่ได้ทำงาน

2. ฟิล์มน้ำมันประสานตัวกันเพื่อสร้างสนามพลังแห่งการปกป้อง (Lock)

3. ปกป้องเครื่องยนต์จากการเสียดสีระหว่างชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ซึ่งเป็นเหตุของการสึกหรอ (Protect) โดยจะปกป้องเครื่องยนต์ได้ตั้งแต่สตาร์ท โดยไม่ต้องรออุ่นเครื่อง

จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการทำงานของน้ำมันเครื่อง Castrol MAGNATEC จะเน้นไปที่การปกป้องชิ้นส่วน ซึ่งก็แน่นอนว่า ในระยะยาวจะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้น และสิ่งที่ผมชอบมาก ๆ คือ เมื่อเครื่องยนต์หยุดทำงาน แม้น้ำมันเครื่องจะไหลกลับไปที่อ่าง แต่โมเลกุลที่ชาญฉลาดของคาสตรอล แม็กนาเทค ไม่ได้ไหลกลับลงไปด้วย โดยโมเลกุลเหล่านั้นยังคงยึดติดกับชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่สำคัญเหมือนแม่เหล็ก ซึ่งให้ชั้นการปกป้องพิเศษตั้งแต่สตาร์ทและตลอดการอุ่นเครื่อง นั่นเท่ากับว่าเราแทบไม่ต้องเสียเวลาในการอุ่นเครื่องเลยล่ะครับ

ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับ "คาสตรอล เอ็นจิ้น แชมพู" นวัตกรรมเครื่องยนต์สะอาดจากญี่ปุ่น ที่ช่วยกำจัดคราบยางเหนียวและตะกอนโคลนในเครื่องยนต์ ภายใน 10 นาที ยิ่งทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ

หากท่านใดสนใจ สามารถซื้อน้ำมันเครื่องคาสตรอล ได้ที่ศูนย์บริการคาสตรอล ออโต้ เซอร์วิสใกล้บ้าน หรือปรึกษาทางศูนย์บริการเกี่ยวกับคำแนะนำน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับรุ่น สภาพรถและลักษณะการใช้งานของรถที่ต้องการได้ ฟรี หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/CastrolCarsThailand
ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ คลิก Castrol Magnatec
ค้นหาศูนย์บริการ คาสตรอล ออโต้ เซอร์วิส คลิก Castrol Auto Service

รถยนต์ก็เหมือนกับคนเนี่ยแหละครับ ต้องการความใส่ใจดูแล ยิ่งเราดูแลดี เลือกใช้แต่น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพ เครื่องยนต์ก็จะอยู่คู่กับรถคันโปรดของคุณไปอีกนาน


คำนวณค่างวดรถเบื้องต้น
Use the calculator to calculate the installment of your dream car
ระยะเวลาผ่อนชำระ (เดือน)
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้
อัตราการผ่อนชำระ (เดือน)
บาท
จำนวนงวด (เดือน)
สนใจขอสินเชื่อรุ่นนี้
* ราคาค่างวดรวม VAT แล้ว สำหรับพิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้

ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ