รีวิว Royal Enfield Hunter 350 2022 หล่อ เท่ ขี่ง่าย

Royal Enfield Hunter 350 รถมอเตอร์ไซค์ทรง Roadster ขนาดกลาง พิกัด 350cc ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานขับขี่ในเมืองโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยความคล่องตัว กับราคาจำหน่ายเปิดมาที่ 129,900 บาท พร้อมส่งมอบภายในปีนี้

Royal Enfield Hunter 350

Royal Enfield Hunter 350 รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในเมืองที่เร่งรีบ โดยเป็นรถโรดสเตอร์ที่ปรับปรุงใหม่ด้วยลักษณะเฉพาะของ รอยัล เอ็นฟีลด์ ที่มาในรูปทรงอันมีสไตล์ กะทัดรัด และแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถขับขี่บนถนนในเมืองที่แออัด ถนนสายรองในชนบท และอื่นๆ ได้อย่างมั่นใจ

เนื่องจากโลกแห่งการขับขี่ได้เปลี่ยนจากความสวยงามและซับซ้อนไปเป็นการขับขี่ที่เน้นการใช้งานและความเรียบง่ายและมาพร้อมกับความฉลาดในการออกแบบและการแสดงรูปลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นขึ้น รอยัล เอ็นฟีลด์ จึงรับหน้าที่ในการสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์สำหรับใช้งานในเมืองใหญ่ซึ่งเหมาะกับย่านที่ทันสมัยที่สุดของโลกได้อย่างลงตัว

Royal Enfield Hunter ถูกออกแบบใหม่ทั้งคัน แต่แฝงความเท่แบบย้อนยุคและคงไว้ซึ่งดีเอ็นเอที่สำคัญของ รอยัล เอ็นฟีลด์ จากการกลั่นกรองทีละเล็กทีละน้อย ทำให้ Hunter 350 เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีการผสมผสานอย่างลงตัว ทั้งความสนุกสนานและความแข็งแกร่ง พร้อมนำเสนอสไตล์ย้อนยุคและทันสมัยที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติอันเต็มอรรถรสของจิตวิญญาณของการขับขี่ที่แท้จริงและนำเสนอภาพแห่งความตื่นเต้นอย่างมีสไตล์และเป็นมิตรกับเมือง

สิทธัตถะ ลาล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ไอเชอร์ มอเตอร์ส กล่าวถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลัง Hunter 350 ว่า "ที่ รอยัล เอ็นฟีลด์ เรามีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับผู้บริโภคและชุมชนของเรา ความปรารถนาและแรงบันดาลใจของพวกเขาเป็นตัวกำหนดรถจักรยานยนต์ที่เราผลิต และเราจะมองหาการสร้างประสบการณ์และรูปแบบใหม่ ๆ ด้านจิตวิญญาณของการขับขี่ที่แท้จริงให้แก่ชุมชนของเราอยู่เสมอ กลุ่มนักขี่มอเตอร์ไซค์มากมายมักมีความหลงใหลในแบรนด์ของเรา แต่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรานั้นยังไม่รุ่นที่ใช่สำหรับพวกเขา Hunter 350 จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบรับกับความต้องการนี้ โดยเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่รวมเอาจุดแข็งของตระกูลต่าง ๆ ไว้ด้วยกันในรูปแบบที่สนุกสนานและมีสไตล์สุด ๆ และเป็นรสชาติใหม่ในจิตวิญญาณของการขับขี่ที่แท้จริงกับภาพลักษณ์ รอยัล เอ็นฟีลด์ ที่ไร้ข้อผิดพลาด

Hunter 350 มีเอกลักษณ์เฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ รอยัล เอ็นฟีลด์ โดย Hunter ถูกสร้างขึ้นบนเครื่องยนต์ตระกูล J-series ขนาด 350cc ที่ได้รับรางวัล ซึ่งผสมผสานกับแชสซี Harris Performance ที่ปรับเลื่อนได้สูง และมอบความคล่องตัวและความแข็งแกร่งทนทานเมื่อขับขี่บนถนนในเมือง พร้อมความสนุกสนานผ่อนคลายเมื่อขับขี่ตามท้องถนนที่เป็นเส้นทอดยาว

คุณบี โกวินดาราจาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ รอยัล เอ็นฟีลด์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดตัว Hunter 350 ว่า "Hunter 350 เป็นผลมาจากการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกและการศึกษาจากผู้บริโภคทั่วโลกเป็นเวลาหลายปี รุ่นนี้เป็นรถจักรยานยนต์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในมหานครขนาดใหญ่ สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักขี่มากประสบการณ์ และความสะดวกสบายใช้งานง่ายให้แก่นักขี่หน้าใหม่ โดยมาพร้อมกับฐานล้อสั้นลง รูปทรงกะทัดรัดยิ่งขึ้น และน้ำหนักเบากว่า ทำให้คล่องตัวและว่องไวเมื่อขับขี่ในเมือง เรามั่นใจมากว่ารถโรดสเตอร์โฉมใหม่คันนี้จะนำกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลกกลุ่มใหม่เข้าสู่โลกของจิตวิญญาณของการขับขี่ที่แท้จริง”

ทุกอย่างเกี่ยวกับ Hunter 350 สำหรับสิงห์นักบิด เช่น เสียง สี สไตล์ การควบคุมรถ ประสิทธิภาพ ได้รับออกแบบมาเพื่อปลุกคุณให้ตื่นขึ้นด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

รถจักรยานยนต์รุ่นนี้มี 2 รุ่นหลัก ๆ ได้แก่ Retro Hunter และ Metro Hunter โดยทั้งสองตกแต่งด้วยเครื่องยนต์และส่วนประกอบที่ทันสมัยและเคลือบด้วยสีดำ Retro Hunter ขับขี่ด้วยล้อซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว และมีจานเบรกด้านหน้าขนาด 300 มม. พร้อมดรัมเบรกด้านหลังขนาด 6 นิ้ว ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังจาก Showa ระบบ ABS แบบหนึ่งทิศทาง แผงหน้าปัดดิจิทัลและอะนาล็อกสไตล์ย้อนยุคที่สบายตาซึ่งจะแสดงเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น และรุ่นย่อยที่มีตัวถังแบบคลาสสิกสีเดียวจำนวนสองรุ่น

ส่วนรุ่น Metro Hunter จะมาพร้อมกับรูปลักษณ์ร่วมสมัยมากขึ้นด้วยการตกแต่งแบบสองสี ล้ออัลลอยหล่อขึ้นรูป ยางแบบไม่มียางในขนาดกว้าง และไฟท้ายแบบกลม ทั้งสองรุ่นย่อยของ Metro Hunter จะมีทั้งหมด 6 สี โดย 3 สีจะเป็นรุ่นที่มีตัวถังและกราฟิกสุดเท่ และอีก 3 สีจะเป็นของรุ่นท็อปสุดซึ่งมาพร้อมกับการตกแต่งถังน้ำมันที่โดดเด่นและสร้างสรรค์ที่สุดตั้งแต่เคยใช้ประดับ โดยตลาดประเทศไทยจะจัดจำหน่ายเฉพาะประเภท Metro Hunter เนื่องจากข้อจำกัดของกฎหมายไทยที่ต้องมีระบบเบรก ABS

Royal Enfield Hunter 350 เวอร์ชั่นไทย

Royal Enfield Hunter 350 เวอร์ชั่นไทย ใช้รถประเภท Metro Hunter ล้อแม็กทั้งคัน พร้อมระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก ดีไซน์ภายนอกโดยรวมทั้งหมดมาในรูปแบบของ Roadster เน้นความคล่องตัว

ไฟหน้า ใช้เป็นฮาโลเจนเทรงกลม

ล้อหน้า ใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รัดยางขนาด 110/70 R17 ชนิดไม่มียางใน ช่วงล่างใช้เทเลสโกปิก ระบบเบรกใช้ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 300 มม. พร้อมระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก

เรือนไมล์แบบดิจิทัล พร้อมมาตรวัดความเร็วแบบเข็มระดับพรีเมียมที่แสดงมาตรวัดระยะทาง มาตรวัดการเดินทาง ไฟแสดงเกียร์ แถบกราฟที่แจ้งเตือนเมื่อระดับเชื้อเพลิงต่ำ นาฬิกา และการแจ้งเตือนเมื่อรับบริการ

พอร์ต USB-A ติดตั้งอยู่ใต้ก้านคลัทช์

แฮนด์บาร์แบบยกสูงและดึงเข้าหาผู้ขับขี่เล็กน้อย ส่งผลให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น และท่านั่งเป็นหลังตรง

ประกับแฮนด์ซ้าย ประกอบด้วยปุ่มควบคุมระบบไฟสูง,ไฟต่ำ,ไฟพาส / ไฟเลี้ยว / แตร และปุ่มเมนูบนหน้าจอ

ประกับแฮนด์ขวา ประกอบด้วยปุ่ม Off/Run/Start และปุ่มเปิด/ปิดไฟฉุกเฉิน ส่วนคันเร่งเป็นคันเร่งแบบสาย

ถังน้ำมัน

เบาะนั่งแบบตอนเดียว ความสูงจากพื้นอยู่ที่ 800 มม.

ไฟท้าย LED

ล้อหลัง ใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รัดยางขนาด 140/70 R17ชนิดไม่มียางใน ส่วนระบบเบรก ใช้ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 270 มม. พร้อมระบบ ABS โช๊คอัพใช้เป็นโช๊คอัพคู่ ส่วนท่อไอเสียติดตั้งอยู่ในระดับความสูงเดียวกับสวิงอาร์ม

เครื่องยนต์ Royal Enfield Hunter 350

Royal Enfield Hunter 350 ใช้เครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 349cc เหมือนกับ Meteor 350 และ Classic 350 มอบพละกำลังสูงสุด 20.2 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 27 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมเพลาบาลานเซอร์หลักที่ช่วยลดการสั่นสะเทือน ทำให้รู้สึกนุ่มนวลและทรงตัวดี ส่วนการเปลี่ยนเกียร์มีความแม่นยำและราบรื่นด้วยกระปุกเกียร์ 5 สปีดที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ มีความนุ่มนวลสูง และถ่ายทอดพละกำลังขับเคลื่อนด้วยโซ่

ทดลองขับ Royal Enfield Hunter 350

ในส่วนของการทดสอบขับขี่ Royal Enfield Hunter 350 ผมได้มีโอกาสทดสอบการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ระยะทางรวมราวๆ 100 กิโลเมตร สภาพเส้นทางตลอดการทดสอบนั้นเจอกับฝนตกตลอดทาง

ด้านพละกำลังของ Royal Enfield Hunter 350 ออกมาในสไตล์เน้นขับขี่แบบ "เรื่อยๆ" ไม่ได้เน้นแรงปรู๊ดปร๊าดอะไรมากนัก อัตราเร่งของรถมีมาให้ใช้งานแบบเรื่อยๆ อย่างนุ่มนวล ไม่ได้มีฟีลลิ่งกระโชกโฮกฮากแต่อย่างใด เน้นการขี่เรื่อยๆ ในรอบเครื่องยนต์ต่ำๆ ซะมากกว่า โดยถ้าจะแซงรถ หรืออยากได้อัตราเร่งจัดๆ แนะนำให้ขี่รอบกลาง - สูงๆ ไว้เลย จะได้อัตราเร่งที่ดีมากยิ่งขึ้น แต่ก็มากับอัตราสิ้นเปลืองที่มากขึ้นด้วย

ความคล่องตัวของรถ ถือเป็นเอกลักษณ์ของเค้าเลย โดยเราได้ทดสอบเรื่องนี้กันภายในสนามทดสอบแบบปิด พบว่าเป็นรถที่สามารถพับรถได้เร็วมากๆ โดยเฉพาะการขับขี่ในซอยแคบๆ เนี้ย บอกเลยว่าตอบโจทย์สุดๆ ด้วยน้ำหนักของรถที่ค่อนข้างเบาเพียง 179 กิโลกรัม ประกอบกับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้เราพับรถได้เร็ว

ช่วงล่างของ Royal Enfield Hunter 350 มีนิสัยเน้นความแน่น หนึบ ซะมากกว่า ไม่ได้ออกไปทางนุ่ม และไม่ได้ออกไปทางแข็ง อยู่ในระดับกลางๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกวัน การซับแรงกระแทกจากคุณภาพถนนระดับพอใช้งานได้ในเมืองถือว่าสอบผ่าน ส่วนเรื่องหลุม ฝาท่อ ลูกระนาด สามารถซับแรงกระแทกได้ดีในระดับหนึ่ง

ในด้านการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ถือว่าทำได้ดี ตัวช่วงล่างของเค้าไม่มีอาการย้วยออกมาให้เห็นเลย อันนี้ดีเยี่ยม

ท่านั่งของ Royal Enfield Hunter 350 จัดเป็นท่านั่งที่ค่อนข้างสบาย ด้วยแฮนด์บาร์ยกสูง และดึงเข้าหาตัวผู้ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่ายมากขึ้น ประกอบกับตำแหน่งพักเท้าที่อยู่ตรงกลาง ทำให้ท่านั่งของเค้าเป็นท่าแบบเกือบหลังตรง ซึ่งส่งผลให้ควบคุมรถได้ง่าย และกระชับ

ระบบเบรกถือว่าสอบผ่านในทุกมิติ ด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมระบบ ABS ครบครัน ทำให้มันถือเป็นรถที่คุ้มค่าคุ้มราคาอีกคันหนึ่งเลย

สรุป Royal Enfield Hunter 350 เหมาะกับใคร?

โดยสรุปแล้ว Royal Enfield Hunter 350 เป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบ Roadster ที่เหมาะสำหรับคนที่มองหารถมอเตอร์ไซค์ที่ดูดี มีสไตล์ สามารถใช้งานได้ทุกวัน และใครๆ ก็ขี่ได้ เพราะเป็นรถที่ขับได้ง่าย ขับสนุก แถมประหยัดน้ำมัน

ราคา Royal Enfield Hunter 350

ราคา Royal Enfield Hunter 350 เริ่มต้นที่ 129,900 บาท ท่านที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Royal Enfield ทั่วประเทศครับ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn 

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car