ชาร์จแบต EV ด่วน ทำให้แบตเสื่อมไวกว่าปกติ จริงหรือ?

ผลการศึกษาจากต่างประเทศเผย การชาร์จแบตเตอรี่แบบด่วนตามสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มิได้ส่งผลโดยตรงต่อการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีนัยยะสำคัญ​ เมื่อเปรียบเทียบกับการชาร์จแบตเตอรี่ที่บ้าน

ชาร์จ DC ทำแบตเสื่อม จริงหรือ?

ในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ผู้คนจำนวนไม่น้อยมี "ความเชื่อ" ว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบด่วน หรือ DC Fastcharge จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวกว่าปกติ จนทำให้หลายๆ คน พยายามเลี่ยงการชาร์จด้วย DC และหันไปชาร์จแบบ AC ที่บ้านกันซะมากกว่า

เนื่องด้วยขณะชาร์จแบบ DC แบตเตอรี่ของรถจะมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ แม้ว่าตัวรถจะมีระบบจัดการความร้อนมาเป็นอย่างดี แต่หลายๆ คนก็ยังมีความเชื่อเช่นนั้น

ในกลุ่มผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในต่างประเทศ ได้มีการเก็บข้อมูลการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมากกว่า 10,000 คัน ในรุ่น Model 3 และ Model Y โดยใช้เวลาเก็บข้อมูลตั้งแต่ออกรถจนถึงอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี หรือ 2,000 วัน

ชาร์จ DC ทำให้แบตเสื่อมไวกว่าปกติ จริงหรือ?

จากการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบความเสื่อมสภาพการเก็บไฟฟ้าของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 และ Model Y กว่า 10,000 คัน เปรียบเทียบระหว่างรถที่ชาร์จ DC เป็นหลัก กับรถที่ชาร์จ AC เป็นหลัก พบว่าอัตราการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน หรือจะว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญก็ว่าได้

จากกราฟผลการสำรวจ สามารถตีความได้อย่างชัดเจนว่าการชาร์จแบบเร็วมิได้ส่งผลโดยตรงต่อการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่แต่อย่างใด เพราะโดยธรรมชาติของแบตเตอรี่ จะเสื่อมสภาพด้วยตัวมันเองตามอายุการใช้งานอยู่แล้ว

และเมื่อเปรียบเทียบกับการชาร์จ AC แล้ว พบว่าการชาร์จ DC ไม่ได้ทำให้แบตเสื่อมมากกว่าอย่างชัดเจน โดยการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ล้วนแล้วมาจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานทั้งสิ้น

อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือ ในการชาร์จแบตเตอรี่แบบเร็วในรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ มักจะมีการปรับกำลังการชาร์จลดลงเมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็ม ซึ่งนี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยถนอมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าให้ยืนยาวมากยิ่งขึ้น

ระยะทางขับ EV สั้นลง เพราะอะไร?

หลายๆ ครั้ง เรามักจะพบกรณีที่รถยนต์ไฟฟ้า สามารถขับได้ระยะทางน้อยลง แม้ว่าจะมีปริมาณไฟฟ้ากักเก็บไว้เต็มความจุ 100% ซึ่งต้องบอกว่าปัจจัยภายนอกที่สำคัญ อันทำให้ระยะทางขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าลดลงนั่นคือเรื่องของ "อุณหภูมิ" ยิ่งอุณหภูมิภายนอกสูง หรือต่ำกว่าปกติ ล้วนแล้วแต่ส่งผลโดยตรงต่อระบบปรับอากาศ และระบบควบคุมอุณหภูมิของรถให้ทำงานหนักขึ้น ซึ่งการทำงานหนักขึ้นก็ส่งผลโดยตรงต่อการใช้ไฟฟ้า

และไฟฟ้าที่ระบบเหล่านี้ใช้ ก็เป็นแหล่งเดียวกับที่ใช้งานในระบบขับเคลื่อน ก็คือแบตเตอรี่ลูกใหญ่ในรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง ไม่แปลกที่มันจะส่งผลโดยตรง ทำให้ระยะทางขับ EV สั้นลง

ภาพประกอบบทความจาก electrek.co

อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car