รีวิว Tesla Model 3 LR Refreshed 2024 รถซีดานไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุด

Tesla Model 3 2024 รถยนต์ซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่เราขอยกให้เป็นรถที่มีความคุ้มค่ามากที่สุดในระดับราคาเดียวกัน โดดเด่นเรื่องการจัดการพลังงาน เสริมออปชั่นใหม่หลายจุด เน้นหนักเรื่องความสบายในการขับขี่ ด้วยช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ พร้อมเบาะนั่งใหม่

Tesla Model 3 2024

Tesla Model 3 2024 รถยนต์นั่งแบบซีดานพลังไฟฟ้า ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Tesla Model 3 รุ่นก่อนหน้า ที่ออกจำหน่ายมายาวนานกว่า 6 ปี บัดนี้ได้ทำการปรับโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ โดยมีการปรับปรุงใหม่ทั้งภายนอกและภายใน อัดฟีเจอร์ที่จำเป็นเข้าไปเพิ่มเติมหลายอย่าง ให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น และมีการพัฒนาระบบขับเคลื่อนของรถให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ถูกเผยโฉมออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

และเปิดให้จองในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 เปิดจองทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ 

• Tesla Model 3 Rear-Wheel Drive 2024 ราคาเริ่มต้น 1,599,000 บาท
• Tesla Model 3 Long Range 2024 ราคาเริ่มต้น 1,899,000 บาท

วีดีโอรีวิว Tesla Model 3 2024

Tesla Model 3 2024 มีอะไรใหม่?

Tesla Model 3 2024 ได้อัปเกรดคุณสมบัติใหม่มากมาย ที่ทำให้ประสบการณ์การขับขี่รถโมเดล 3 ดีมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนพวงมาลัยใหม่ ให้เป็นแบบมัลติฟังก์ชันพิเศษแตกต่างจากแบบเดิม ช่วยลดความยุ่งยากในการขับขี่ ผู้ขับขี่สามารถคลิกเพียงครั้งเดียวเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันสำคัญต่างๆ เช่น สัญญาณไฟเลี้ยวและไฟสูง

นอกจากนี้ ตัวควบคุมทางฝั่งด้านซ้ายยังสามารถปรับโหมดการเร่งความเร็ว ความสว่างหน้าจอ และการตั้งค่าอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย

ในส่วนของการออกแบบห้องโดยสารที่มีส่วนประกอบจาก suspended elements เทคโนโลยีสิ่งทอและขอบอะลูมิเนียมแบบด้าน ที่เรียบง่ายและกลมกลืน ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและคำนึงถึงสภาพแวดล้อมห้องโดยสารที่ดีต่อสุขภาพ

สำหรับรถโมเดล 3 อัปเกรดใหม่ ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด การออกแบบตัวถังที่มีมาตรฐานสูงและโครงสร้างประตูที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เสริมด้วยถุงลมนิรภัยด้านข้างที่นั่งแบบใหม่ที่ช่วยลดการบาดเจ็บของทั้งคนขับและผู้โดยสารหากมีการชน ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้มีการปรับปรุงเรื่องการลดเสียงรบกวนด้วยการซีลแบบใหม่ รวมถึงกระจกกันเสียงแบบ 360 องศาถึงสองชั้น ช่วยเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสาร และสามารถลดเสียงรบกวนจากถนนสู่ภายในได้มากถึง 31% ในช่วง 50-1000 Hz

นอกจากนี้ ด้วยพละกำลังมหาศาล อัตราเร่งที่ตอบสนอง และความสามารถในการใช้พลังงานแบบต่ำได้ ทำให้รถโมเดล 3 อัปเกรดใหม่ยังคงความเป็นเลิศในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับได้ทั้งในเมืองและออกไปลุยในต่างจังหวัด ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในทุกสภาพแวดล้อม ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะสั้นหรือการเดินทางทางไกล รถโมเดล 3 จึงมีคุณสมบัติและฟังก์ชันที่สามารถมอบความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความยั่งยืนในการขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ได้ทั้งหมด

Tesla Model 3 2024 เปลี่ยนอะไรบ้าง

Tesla Model 3 2024 มีการเปลี่ยนแปลงหลายจุด ทั้งภายนอกและภายใน อาทิ

1. ตัวรถกว้างขึ้น ยาวขึ้น แต่เตี้ยลง
2. ขับได้ไกลขึ้น 4.5%
3. ตัดเซ็นเซอร์รอบคันออก ใช้ Tesla Vision แทน
4. มี Blind spot ไฟเตือนมุมอับสายตา
5. ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ มีความมินิมอลมากขึ้น
6. ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ มินิมอลมากขึ้นกว่าเดิม
7. ชุดกันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
8. ชุดฝาท้ายและกันชนหลัง ดีไซน์ใหม่
9. ชุด HW 4.0 เพิ่มประสิทธิภาพของกล้องรอบคัน ให้มีความละเอียดสูงมากขึ้น
10. เพิ่มจอมัลติมีเดียขนาด 8 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
11. เพิ่มไฟ Ambient Light เสริมบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
12. พวงมาลัย ดีไซน์ใหม่ เพิ่มปุ่มควบคุมจำนวนมาก
13. ตัดก้านหลังพวงมาลัยออกทั้งหมด
14. ระบบเกียร์อยู่ในหน้าจอเหมือน Model S, X และ Cybertruck
15. เปลี่ยนแผงคอนโซลหน้าใหม่ทั้งหมด
16. เบาะหนังใหม่ พร้อมระบบระบายอากาศ
17. กระจกแบบลดเสียงรบกวน
18. อัพเกรดเครื่องเสียงเป็นลำโพง 17 ตัว (เฉพาะรุ่น LR)
19. ช่วงล่าง มีความนุ่มนวลมากขึ้น

ฯลฯ

Tesla Model 3 โครงสร้างตัวถัง

โครงสร้างตัวถังของ Tesla Model 3 2024 พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า โดยตัวถังถูกเน้นหนักไปที่ความปลอดภัยเป็นหลัก มันถูกออกแบบให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถกระจายแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม การันตีความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากสถาบันทดสอบความปลอดภัยอันเกิดจากการชนแทบทุกสำนัก ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานยุโรป หรือมาตรฐานสหรัฐอเมริกา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเคี่ยว Tesla Model 3 ก็สอบผ่านระดับ 5 ดาวทั้งหมด

สำหรับในรุ่น 2024 ได้เสริมสมรรถนะเรื่องอากาศพลศาสตร์เข้าไปอีกขั้น ทำให้รถขับได้ไกลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ด้านหน้าของ Tesla Model 3 ใช้กระจังหน้าแบบปิดทึบตามพิมพ์นิยมของรถยนต์ไฟฟ้า โดยชุดหน้าของรถถูกปรับโฉมใหม่ทั้งหมด ชุดไฟหน้าแบบ LED เต็มระบบที่มีขนาดเล็กลง ดูมินิมอลมากขึ้น โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟแบบ LED Reflector แทนของเดิมที่เป็น Matrix LED มาพร้อมชุดกันชนหน้าใหม่ โดยสิ่งที่เอาออกไป 2 อย่าง ได้แก่ไฟตัดหมอกและเซ็นเซอร์รอบคัน

ด้านข้าง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก Model 3 รุ่นเดิม ทั้งโครงสร้างตัวถัง, มือจับประตูแบบเรียบเนียนกับตัวรถ, หลังคาแก้วแบบพาโนรามิก, กล้องรอบคัน, Autopilot เป็นต้น

โดยสิ่งที่อัพเกรดขึ้นมานั่นคือระบบกล้องรอบคัน ที่ใช้เป็น HW 4.0 แล้ว

Autopilot Model 3 2024

ระบบ Autopilot ใน Tesla Model 3 2024 ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เนื่องด้วยการอัพเกรด HW 4.0 โดยมีระยะตรวจจับไกลถึง 250 เมตร ทำหน้าที่หลายอย่าง โดยแบ่งเป็นหัวข้อได้ดังนี้

- Navigate on Autopilot ระบบขับอัตโนมัติ ตามเส้นทางที่กำหนดไว้
- Auto Lane Change ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ
- Autopark ระบบถอยจอดรถอัตโนมัติ
- Summon ระบบเรียกรถมาหาเรา
- Full Self-Driving Computer ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เวอร์ชั่นอัพเกรด
- Traffic Light and Stop Sign Control ระบบหยุดรถตามสัญญาณจราจรอัตโนมัติ

ล้อของรุ่น Standard และ Long Range มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Photon Wheels ขนาด 18 นิ้ว 

Nova Wheels ขนาด 19 นิ้ว ต้องเพิ่มเงิน 50,000 บาท

ด้านท้ายของตัวรถถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะฝาท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมโลโก้ใหม่ ใช้เป็น "T E S L A" หลังคาถูกออกแบบให้ลายเส้นลาดลงมารับถึงท้ายรถ ทำให้ตัวรถดูกลมมน ไฟท้ายใช้แบบ LED เต็มระบบ

ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระ มีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 682 ลิตร

ที่เก็บของด้านหน้า ความจุ 88 ลิตร

ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ มินิมอลมากขึ้น

Tesla Model 3 2024 ภายใน

ภายในห้องโดยสารของ Tesla Model 3 2024 มีการตกแต่งใหม่ทั้งหมด โดดเด่นด้วยสไตล์ที่โอบล้อมคุณไว้ภายใน ปรับแต่งไฟบรรยากาศในแบบของคุณเอง ระบบเสียงที่ถูกอัปเกรดด้วยการติดตั้งลำโพง 9 ตัวในรุ่น Enhanced และ 17 ตัวในรุ่น Premium เพื่อประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ระดับโรงภาพยนตร์

มีการเพิ่มไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร หรือ Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนสีได้

หน้าจอกลางขนาด 15.4 นิ้ว ใช้ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างของรถคันนี้ และบอกข้อมูลทุกอย่างอยู่ภายในหน้าจอ รวมไปถึงฟังก์ชั่นความบันเทิงต่างๆ ทำงานผ่านหน้าจอนี้ทั้งหมด

โดยด้านใต้จอ มีแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สายมาให้ 2 ตำแหน่ง

ปรับดีไซน์ของพวงมาลัยใหม่ โดยมีการตัดก้านไฟเลี้ยว และคันเกียร์ออก โดยหากต้องการเปิดไฟเลี้ยว จะถูกเปลี่ยนให้เป็นปุ่มเปิดไฟเลี้ยวบนพวงมาลัยฝั่งซ้ายแทน ส่วนเกียร์ถูกย้ายไปอยู่ในจอ เรียกได้ว่าเหมือนกับ Tesla Model S, X เลยทีเดียว

โดยระบบเกียร์แบบปุ่มกด จะติดตั้งไว้ที่ด้านบนฝ้าเพดานรถ เป็นรูปแบบปุ่มกด ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

ผู้โดยสารด้านหลังสามารถใช้งานระบบควบคุมจากทางด้านหลังผ่านหน้าจอขนาด 8 นิ้ว ในการควบคุมระบบปรับอากาศ ระดับความอุ่นของเบาะนั่ง ระดับเสียง และแม้แต่การเล่นวิดีโอและเกมทำได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส 

จอด้านหลัง สามารถสั่งเลื่อนเบาะนั่งฝั่งข้างคนขับได้, ปรับอุณหภูมิและตำแหน่งแอร์ด้านหลังได้ และสามารถดูคอนเท้นความบันเทิงต่างๆ ขณะรถกำลังวิ่งได้

มาพร้อมกับช่องเสียบ USB-C 2 ช่อง

หลังคาแก้วแบบ 2 ชิ้นวางต่อกัน ช่วยทำให้ห้องโดยสารโปร่ง โล่งสบาย

เครื่องเสียง ใช้ลำโพงจำนวน 17 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์ และแอมพลิฟายเออร์ เพื่อคุณภาพเสียงภายในห้องโดยสารระดับสตูดิโออัดเสียง

ส่วนรุ่น RWD จะมีลำโพง 9 ตัว และไม่มีซับวูฟเฟอร์

ระบบความบันเทิงภายในมาแบบครบครัน ทั้งเกม, Youtube, Netflix, Twitch และอื่นๆ

สิ่งอำนวยความสะดวก Tesla Model 3 2024

• Phone key

• Autopilot

• Sentry Mode

• Camp Mode

• Dog Mode

• ระบบปรับอากาศขั้นสูง

• ระบบเสียงสมจริง

• พอร์ท USB-A 1 ช่อง ในช่องเก็บของ พร้อมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขนาด 128 Gb

• พอร์ท USB-C จำนวน 4 จุด

• แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย 2 เครื่อง

• กระจกมองข้างแบบตัดแสน ปรับและพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า

• ระบบอุ่นเบาะนั่งและพวงมาลัย

• เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า

สเปค Tesla Model 3 2024

มิติรถ 

รีวิว ขับ Tesla Model 3 2024

Tesla Model 3 Long Range 2024 เรามาทดสอบกันในภารกิจ Khaoyai Challenge ขับจากกรุงเทพมหานคร ไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขึ้นที่ฝั่งจังหวัดปราจีนบุรี ขับขึ้นอุทยานไปถึงอ่างเก็บน้ำสายศร และขับลงมาทางฝั่งจังหวัดนครราชสีมา มุ่งหน้ากลับกรุงเทพ ด้วยระยะทางขับขี่โดยรวมเกือบ 400 กิโลเมตร เพื่อพิสูจน์สมรรถนะของตัวรถในทุกมิติ ตั้งแต่เรื่องการขับขี่, พละกำลัง, ช่วงล่าง, ระบบจัดการพลังงาน, ระบบช่วยเหลือการขับขี่, การเก็บเสียง และอื่นๆ อีกมากมาย

เริ่มต้นทดสอบด้วยการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% รีเซ็ตทริปใหม่ และออกเดินทางทันที เพื่อดูเรื่องการจัดการพลังงานของรถทั้งหมด

ด้านการขับขี่ เราจะใช้ความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม. และ 70% ของการเดินทาง ใช้โหมด Autopilot ในการขับทั้งหมด

สิ่งที่น่าประทับใจเป็นอย่างแรกของ Tesla Model 3 Refresh นั่นคือเรื่องช่วงล่างที่มีความนุ่มนวลเป็นอย่างยิ่ง สามารถซับแรงกระแทกต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นหลุม ท่อ บ่อ ลูกระนาด ถนนขูดรอราดยาง ถนนพื้นแตกเป็นลอนๆ ฯลฯ ที่ขึ้นชื่อว่าถนนไม่เรียบ ตัวช่วงล่างของรถสามารถเก็บอาการได้อยู่หมัดทั้งหมด ไม่มีอาการตึงตังออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ให้สัมผัสช่วงล่างที่มีความพรีเมี่ยมสูงมาก แตกต่างจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจน

ยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับ Tesla Model Y บอกเลยว่าหนังคนละม้วน เพราะช่วงล่างของ Model 3 Refresh นุ่มนวลกว่ามากๆๆๆๆๆ (ใส่ก ไก่ไปอีก 100 ตัวก็ไม่พอครับ มันนุ่มมากจริงๆ)

เหตุผลเกิดมาจากการปรับปรุงชุดช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้รถสามารถซับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม

การขับขี่บนทางโค้งที่ซับซ้อน และยังมีทางชันให้เร่งขึ้นไป เป็นเรื่องที่สบายๆ ด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมาก และยังมีพละกำลังล้นเหลือ ทำให้เราสามารถเดินทางขึ้นเขาที่โค้งซับซ้อนและลาดชันได้แบบไม่ต้องรอรอบ เพียงกดคันเร่ง รถก็พุ่งทะยานไปได้ทันที

โหมดการขับขี่มี 2 โหมด ได้แก่โหมดชิล และโหมดมาตรฐาน บอกเลยว่ามอบสัมผัสที่แตกต่างกันสุดขั้ว โดยโหมดชิล ก็ชิลสมชื่อ อัตราเร่งของรถจะมาแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ปรู๊ดปราดมากนัก สมมุติกดคันเร่ง 20% อัตราเร่งจะออกมาแค่ 10% ทำให้เรารู้สึกรถคันนี้ขับง่าย ขับสบาย

แต่ถ้าอยากดุดัน ให้เปลี่ยนเป็นโหมดมาตรฐาน รถจะเปลี่ยนนิสัยจากรถบ้านสุดแสนสุภาพ เป็นรถสปอร์ตตัวแรงทันที ด้วยการตอบสนองคันเร่งที่ดุดันแบบ 1:1 กดปุ้บพุ่งทันที ใครสายซิ่งจะชื่นชอบโหมดการขับขี่นี้มากที่สุด

ด้านความนุ่มนวลของช่วงล่างนี้ ถูกสร้างมาให้เหมาะกับการขับขี่แบบทั่วไป กล่าวคือการออกตัวแบบค่อยๆ เพิ่มความเร็ว และลดความเร็วแบบค่อยเป็นค่อยไป ชุดช่วงล่างใหม่นี้จะตอบโจทย์คุณเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันนุ่มนวลมากๆ ทว่าสายซิ่งจะไม่ถูกใจช่วงล่างใหม่นี้เลยแม้แต่น้อย

เนื่องจากความนุ่มนวลของมันนี่เอง หากคุณเป็นคนขับรถเร็ว ออกตัวคันแรก 0-100 4.4 วินาทีทุกครั้งที่มีโอกาส, ล็อกหลบจากเลน 3 แซงรถช้าแช่ขวา และตัดเข้าเลนขวาทันที แถมเวลาเบรกกดแบบสุดตัวทุกคราว บอกเลยว่า "ต้องเปลี่ยนช่วงล่าง"

เพราะช่วงล่างที่เซ็ตมาสำหรับ Model 3 LR เดิมๆ นี้ เป็นช่วงล่างที่เน้นใช้งานแบบบ้านๆ ล้วนๆ ถ้าขับแบบยืน 1 อย่างที่บอก คุณจะพบกับอาการ "กดหน้ายก เบรกหน้าทิ่ม โยกรถส่าย" เพราะอย่างที่กล่าวไป ช่วงล่างเดิมๆ มันนุ่มมากๆ หากคุณขับแบบที่ยกตัวอย่างไป ความนุ่มจะกลายเป็นฝันร้ายทันที เพราะอาการของรถจะเยอะมากๆ เนื่องจากมันไม่ได้ถูกสร้างมาให้ซิ่งแต่อย่างใด

Tesla Model 3 2024 รุ่นใหม่ ไม่มีคันเกียร์ ขับยังไง?

วิธีการขับ Tesla Model 3 รุ่นใหม่ที่ไม่มีคันเกียร์ จะขับยากหรือไม่? คำตอบ ณ ตรงนี้เลยคือ "ไม่ยาก แต่ต้องปรับตัว" เพราะโดยทั่วไปแล้ว คันเกียร์เราจะใช้งานแค่ 2 ครั้ง คือออกตัวกับจอดรถ นอกนั้นระหว่างที่เราขับขี่ เราไม่ต้องใช้คันเกียร์อยู่แล้ว

โดยคันเกียร์ของรถถูกเอาออกไป และเอาไปไว้ในหน้าจอฝั่งขวาแทน เหยียบเบรก ปัดขึ้น เพื่อเดินหน้า, ปัดลง เพื่อถอยหลัง, กดปุ่ม P ด้านบนเพื่อจอด และกดปุ่ม N ด้านล่างเพื่อใส่เกียร์ว่าง

ส่วนในกรณีฉุกเฉิน อาทิจอเสีย, จอดับ, จอไม่ติด สั่งการไม่ได้ จะมีชุดเกียร์สำรองติดตั้งไว้อยู่ที่เพดานบริเวณไฟฉุกเฉิน

ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างเกียร์จอกับเกียร์เพดานในการขับขี่ทั่วไป เกียร์หน้าจอใช้ง่ายที่สุด

ส่วนกรณีต้องการเปิดระบบ Autopilot ให้กดปุ่มวงกลมฝั่งขวา เพื่อเปิดระบบแทน

Tesla Model 3 2024 รุ่นใหม่ ไม่มีก้านไฟเลี้ยว

Tesla Model 3 2024 ไม่มีก้านไฟเลี้ยวอีกต่อไป แต่เปลี่ยนเป็นปุ่มกดไฟที่ฝั่งซ้ายของพวงมาลัยแทน

Tesla Model 3 2024 Campmode กินไฟเท่าไหร่?

Tesla Model 3 2024 Campmode กินไฟเท่าไหร่? เราทดสอบการจอดตากแดด อุณหภูมิอากาศอยู่ที่ 32 องศาเซลเซียส และเปิดแอร์ Camp mode ที่ 21 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง พบว่าใช้ไฟฟ้าไปทั้งหมด 6%

ทดสอบขับขี่ไปทั้งหมด 367 กิโลเมตร อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าอยู่ที่ 139 Wh/km หรือ 7.19 หน่วย/กม. ใช้ไฟฟ้าไปทั้งหมด 76% คิดเป็นปริมาณไฟฟ้า 57 kWh (ใช้งานรวมกันระหว่างการขับขี่และเปิดแอร์) คิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าทั้งหมด

•  171 บาท ราคา TOU Off peak ตกกิโลเมตรละ 0.46 บาท
• 239 บาท ราคา มิเตอร์ปกติ ตกกิโลเมตรละ 0.65 บาท
• 313.5 บาท ราคา DC Off peak ตกกิโลเมตรละ 0.85 บาท
• 427.5 บาท ราคา DC On Peak ตกกิโลเมตรละ 1.16 บาท
• 575.7 บาท ราคา Tesla Supercharger ตกกิโลเมตรละ 1.56 บาท

สรุป Tesla Model 3 Refresh 2024 เหมาะกับใคร

โดยสรุปแล้ว Tesla Model 3 2024 เหมาะสำหรับคนที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าแบบซีดานในงบประมาณ 1.5 ล้านบาท บวกลบ ไม่เกิน 2 ล้านบาท รถคันนี้คือรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุด มีประสิทธิภาพดีที่สุดเท่าที่มีให้เลือก ณ ตอนนี้ โดดเด่นด้วยซอฟแวร์ที่ดีที่สุดในตลาดรถยนต์ของโลก, ระบบจัดการพลังงานที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้รถคันนี้วิ่งได้ไกลมากแม้จะมีขนาดแบตเตอรี่ไม่ได้ใหญ่มากนัก อีกทั้งยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ชาญฉลาด ใช้งานได้จริง ช่วยเหลือเราได้ในหลายเหตุการณ์ 

หากไม่ได้ติดขัดเรื่องคันเกียร์หายกลายไปอยู่ในจอ ก้านไฟเลี้ยวไม่มี เปลี่ยนเป็นปุ่มกดบนพวงมาลัยแทน เจ้า Tesla Model 3 Refresh คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในปัจจุบันครับ

ราคา Tesla Model 3 2024 ไทย

ราคาวางจำหน่ายของ Tesla Model 3 2024 ในประเทศไทย มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่

• Tesla Model 3 Rear-Wheel Drive 2024 ราคาเริ่มต้น 1,599,000 บาท
• Tesla Model 3 Long Range 2024 ราคาเริ่มต้น 1,899,000 บาท

สามารถซื้อออปชั่นเพิ่มเติมได้ดังนี้

1. เปลี่ยนสีตัวถังรถ โดยสีพื้นฐานจะเป็นสีดำ หากต้องการเปลี่ยนสีเป็นขาว หรือ น้ำเงิน เพิ่มเงิน 50,000 บาท / สีเทา 75,000 บาท และสีแดง 85,000 บาท
2. เปลี่ยนภายในเป็นสีขาว เพิ่ม 50,000 บาท
3. EAP Enchance Auto Pilot เพิ่มความสามารถของระบบ Autopilot ในการนำทาง ได้แก่ ระบบเปลี่ยนช่องจราจรอัตโนมัติ, ระบบจอดรถอัตโนมัติ, Summon และ Smart Summon เพิ่มเงิน 122,000 บาท
4. ระบบขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ FSD (Full Self Driving) เป็นระบบที่สามารถควบคุมรถอัตโนมัติตามสัญญาณไฟจราจรและป้ายหยุด พร้อมระบบความคุมพวงมาลัยอัตโนมัติบนถนนในเมือง เพิ่มเงิน 244,000 บาท

สัมผัสรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ได้ที่ศูนย์บริการ ณ ถนนรามคำแหง และโชว์รูมที่สยามพารากอน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสถานีชาร์จ Tesla Supercharger อีกหลายแห่งทั่วประเทศ รวมถึงศูนย์ซ่อมตัวถังและสี Tesla Approved Body Shop ที่กำลังปูพรมเปิดให้บริการทั่วประเทศ

อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car