Honda NT1100 2025 รถบิ๊กไบค์สายทัวร์ริ่งรุ่นใหญ่ของฮอนด้า พื้นฐานเดียวกับ Honda Africa twin ที่เน้นขับทางดำ อัพเกรดอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ให้มีความทันสมัยกว่าเดิม เปิดตัวแล้วในยุโรป จ่อเข้าไทยเร็วๆ นี้
Honda NT1100
Honda NT1100 สปอร์ตทัวริ่งรุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมคอนเซปต์ “The New Touring Era” โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร บึกบึน แต่คล่องตัว รองรับทุกการเดินทางของสายทัวริ่งยุคใหม่ ให้พลังการขับเคลื่อนขั้นสุดด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1,100 ซีซี แบบ Parallel Twin สมรรถนะสูง ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัจฉริยะ DCT 6 สปีด
หลังจากการเปิดตัวรุ่นปี 2022 ออกมา สร้างกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยม ทำให้ในรุ่นปี 2025 นี้ Honda ได้ทำการอัพเกรด NT1100 ไปอีกขั้น โดยเน้นหนักในเรื่องของความสะดวกสบาย
ส่วนหัวใจสำคัญอย่างเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 1,100cc มีการเสริมสมรรถนะการขับขี่ไปอีกขั้น มาพร้อมกับแกน IMU ถึง 6 แกน และออปชั่นใหม่ล่าสุดอย่างช่วงล่างไฟฟ้าจาก Showa รุ่น EERATM ส่วนชุดเปลือกนอกของตัวรถมีการปรับปรุงใหม่ให้มีความเฉียบคมมากขึ้น ดูดุดันมากขึ้น พร้อมปรับปรุงชุดชิวบังลมใหม่ ให้สามารถปรับได้ด้วยมือข้างเดียว
ชุดบังโคลนหน้า เสริมความยาวอีก 150 มม. ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกได้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ลุยได้สะใจมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมความกว้างของเบาะนั่ง ให้นั่งสบายกว่าเดิม ส่วนชุดกระเป๋าสัมภาระ มีพื้นที่จุภายในมากยิ่งขึ้น
ซื้อรถลุย แต่ขับทางดำ
ในโลกของรถบิ๊กไบค์ รถมอเตอร์ไซค์จะถูกจำแนกออกเป็นกลุ่มหลักๆ ได้แก่ รถสปอร์ต, เน็กเก็ต, ครุยเซอร์, ทัวร์ริ่ง, แอดเวนเจอร์ และออฟโรด โดยในแต่ละกลุ่มนั้นก็จะมีประเภทแยกย่อยออกไปอีกหลากหลายสไตล์
เมื่อเรามองมายังกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งนั้น ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อกลุ่มรถแอดเวนเจอร์กันเป็นจำนวนมาก สืบเนื่องมาจากรูปทรงของตัวรถที่ดูดุดัน รองรับการติดตั้งอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระได้มาก ประกอบกับช่วงล่างของรถที่มีความสามารถในการซับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้รถพร้อมเดินทางไปในหลากหลายเส้นทาง
ทว่าคนที่ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์กลุ่มนี้จำนวนไม่น้อยที่ซื้อรถลุยมาก็จริง แต่มักจะใช้ขี่ทางดำ หรือทางเรียบมากกว่านำไปลุย เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า รถมอเตอร์ไซค์สายลุยที่มีกำลังสูง มีน้ำหนักมาก ย่อมต้องอยู่กับผู้ขับขี่ที่มีทักษะสูงมากด้วยเช่นกัน จึงจะสามารถดึงประสิทธิภาพของตัวรถได้อย่างสูงสุด จึงไม่แปลกนักที่หลายๆ คนซื้อรถสายลุยไป แต่เอาไปขับทางดำ
ฮอนด้า เล็งเห็นช่องว่างจุดนี้ เพราะคนชอบช่วงล่างและความสามารถในการบรรทุกของรถแอดเวนเจอร์ แต่มักจะเอาไปขับทางดำ จะดีกว่าไหมถ้านำเอารถแอดเวนเจอร์มาพัฒนาต่อยอดให้เป็นรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งทางดำที่รองรับการลุยได้บ้าง แต่จะเด่นกว่าสายลุยแท้ๆ ที่ความคล่องตัวในทางดำจะสูงมากกว่า และเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่มากกว่า ที่สำคัญต้องขับง่าย ใช้งานได้หลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวัน หรือขับในเมือง จึงเกิดออกมาเป็น Honda NT1100
Honda NT1100 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตทัวร์ริ่ง ที่เป็นการพัฒนาต่อยอดจากพื้นฐานของ Honda CRF1100L Africa Twin โดยเสริมความคล่องตัวของรถให้มากขึ้น ขับขี่สบายยิ่งขึ้น และทำให้ผู้ขับขี่สนุกสนานกับการขับขี่ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ด้วยเบาะนั่งที่ต่ำกว่า พร้อมตำแหน่งท่านั่งของรถที่เป็นมิตรกับผู้ขับขี่มากขึ้น แต่ก็ยังมาพร้อมกับระยะยุบช่วงล่างที่ยังให้มาเยอะตามสไตล์รถสายลุย
ดีไซน์โดยรวมของรถ เปรียบเสมือน Honda Africa Twin จับแต่งตัวใหม่ให้กลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบ ด้วยชุดล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว หน้า-หลัง ต่างจาก Africa Twin ที่ใช้ล้อซี่ลวดด้านหน้าขนาด 21 นิ้ว และหลัง 18 นิ้ว ตามสไตล์รถสายลุย ซึ่งข้อดีของล้อแอฟริกาทวินคือลุยได้ดีกว่า แต่ในยามเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง และการขับบนความเร็วสูงมากในทางดำ รถจะทรงตัวได้ด้อยกว่ารถที่ใช้ล้อ 17 นิ้วหน้า-หลัง
ด้านหน้าของรถ ใช้ไฟหน้า LED เต็มระบบ โดยดีไซน์เรียกได้ว่าเอาของ Honda X-ADV มาใช้เลยแบบเต็มๆ โดยชุดไฟหน้าใหม่นี้ ตัวไฟ DRL สามารถทำหน้าที่เป็นไฟหรี่ได้
ชิวบังลมด้านหน้าขนาดใหญ่ สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ด้วยมือเดียว มาพร้อมกับชิวตัดลมด้านข้าง ช่วยลดลมหมุนเวียนที่ตัวผู้ขับขี่ ลดอาการล้าจากการโต้ลมได้เป็นอย่างดี โดยสามารถปรับระดับได้ถึง 167 มม.
ช่วงล่างด้านหน้า ใช้โช๊คอัพหัวกลับระบบไฟฟ้าจาก Showa ขนาดแกน 43 มม. ระยะยุบ 150 มม. สามารถปรับพรีโหลด, ระยะยุบ และการคืนตัวได้เต็มระบบ ระบบเบรกเป็นดิสเบรคคู่ ขนาด 310 มม. พร้อมปั้มเบรค 4 พอต ล้อเป็นล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รัดยางขนาด 120/70 ZR17 ชนิดไม่มียางใน
ชุดบังโคลนหน้า เสริมความยาวอีก 150 มม. ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกได้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ลุยได้สะใจมากยิ่งขึ้น
เรือนไมล์แบบทัชสกรีนขนาด 6.5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมือถือ และรองรับการทำงานของ Apple CarPlay / Andriod Auto บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน โดยใช้พื้นฐาน Software เดียวกับ Honda Africa Twin รุ่นปัจจุบัน
ถังน้ำมันขนาดจุใจ ด้วยความจุมากถึง 20.4 ลิตร เพียงพอสำหรับระยะทางขับขี่ราว 400 กิโลเมตร ต่อการเติมน้ำมัน 1 ครั้ง
เบาะนั่งแบบ 2 ตอน ฝั่งผู้ขับขี่มีความสูงอยู่ที่ 820 มม. พร้อมเสริมความกว้างของเบาะนั่ง ให้นั่งสบายกว่าเดิม ส่วนชุดกระเป๋าสัมภาระ มีพื้นที่จุภายในมากยิ่งขึ้น
ไฟท้ายและไฟเลี้ยวแบบ LED เต็มระบบ
ช่วงล่างหลังเป็นสวิงอาร์มคู่ โช๊คอัพสปริงเดี่ยวพร้อมซัพแท้งค์ ระยะยุบ 150 มม. ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 256 มม. พร้อมปั้มเบรค 1 พอต ล้ออัลลอยชนิดไม่มียางใน รัดยาง 180/55 ZR17
เครื่องยนต์ NT1100
เครื่องยนต์ของ Honda NT1100 ใช้พื้นฐานเดียวกับ CRF1100L Africa Twin ทุกประการ แต่มีการปรับจูนส่วนของแรมแอร์และท่อไอเสียใหม่เน้นเรื่องการขับขี่ในรอบเครื่องยนต์ต่ำเป็นพิเศษ ทำให้ตัวรถมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิงที่ต่ำมากๆ ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
โดยในรุ่นปี 2025 มีการปรับปรุงการทำงานในช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำ - กลางใหม่ ให้มีพละกำลังมากยิ่งขึ้น 7% โดยไม่สูญเสียกำลังขับสูงสุดของรถ
ขุมพลังจากเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 4 จังหวะ 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ มอบพละกำลังสูงสุด 100.5 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 104 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบ / นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ DCT 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยโซ่
โหมดการขับขี่มีทั้งหมด 4 โหมดหลัก ได้แก่โหมด Urban, Rain, Tour, User 1, 2 โดยผู้ใช้งานสามารถปรับระดับการทำงานของระบบต่างๆ ของรถได้อย่างอิสระ
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ของรถให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ABS, Traction Control, Wheelie Control รวมไปถึงผู้ขับขี่สามารถปรับระดับการทำงานของเครื่องยนต์และเอนจิ้นเบรก ได้อย่างอิสระ
โดยในรุ่นปี 2025 นี้ มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IMU 6 แกน ซึ่งสามารถควบคุมการทำงานของระบบได้หลากหลาย ทั้งระบบป้องกันการล้อหน้าลอย, ระบบป้องกันล้อหลังลอย และระบบ Cornering ABS
ข้อมูลทางเทคนิค Honda NT1100 DCT
เครื่องยนต์ | 2 สูบเรียง 4 จังหวะ 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ | |
ขนาดกระบอกสูบ (มม.) | 92 x 81.5 | |
ความจุกระบอกสูบ | 1,084 ซีซี | |
พละกำลังสูงสุด | 101.9 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ / นาที | |
แรงบิดสูงสุด | 112 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ / นาที | |
ความเร็วสูงสุด | มากกว่า 200 กม./ชม. | |
อัตราส่วนกำลังอัด | 10.5 : 1 | |
ระบบเกียร์ | อัตโนมัติ DCT 6 สปีด | |
ระบบขับเคลื่อน | โซ่ | |
อัตราสิ้นเปลือง | 20 กม./ลิตร |
ตัวรถ
เฟรม | Semi Double Cradle | |
โช๊คหน้า | โช๊คอัพหัวกลับ Showa EERA ขนาดแกน 43 มม. ระยะยุบ 150 มม. | |
โช๊คหลัง | โช๊คอัพเดี่ยว Showa EERA ระยะยุบ 150 มม. | |
เบรคหน้า | ดิสเบรคคู่ ขนาด 310 มม. พร้อมปั้มเบรค 4 พอต | |
เบรคหลัง | ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 256 มม. พร้อมปั้มเบรค 1 พอต | |
ขนาดล้อ / ยางหน้า | ล้ออัลลอยชนิดไม่มียางใน รัดยาง 120/70 ZR17 | |
ขนาดล้อ / ยางหลัง | ล้ออัลลอยชนิดไม่มียางใน รัดยาง 180/55 ZR17 |
มิติรถ
ขนาด กว้าง x ยาว x สูง (มม.) | 860 x 2,240 x 1,340 - 1,507 | |
ความสูงเบาะ (มม.) | 820 | |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 1,535 | |
ความสูงจากพื้นถึงเครื่อง (มม.) | 175 | |
น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน (กก.) | 249 | |
น้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร) | 20.4 |
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น