จริงหรือมั่ว? LiDAR จ้องทำลายกล้องมือถือ Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

จริงหรือมั่ว? LiDAR จ้องทำลายกล้องมือถือ

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไขข้อสงสัยในประเด็นร้อน เทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง LiDAR (Light Detection and Ranging) คือตัวการที่ทำให้กล้องมือถือของเราไปสวรรค์ จริงหรือ?


จริงหรือมั่ว? LiDAR จ้องทำลายกล้องมือถือ

ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง LiDAR (Light Detection and Ranging) ที่เข้ามามีบทบาทในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่รถยนต์ที่มีระบบ Autopilot ไปจนถึงรถยนต์ไร้คนขับ แต่ขณะนี้กลับมีข่าวลือหนาหูทั้งในโลกออนไลน์ และจากคนใกล้ตัวของเลดี้ ถึง "แสงเลเซอร์จาก LiDAR คือตัวการที่เผากล้องสมาร์ทโฟนของเราให้ตุยเย่" ฟังดูน่าตกใจใช่ไหม? แต่ความจริงเบื้องหลังข่าวลือนี้เป็นอย่างไรกันแน่? วันนี้เลดี้จะพาไปเจาะลึก ไขข้อสงสัยในประเด็นร้อนนี้กัน

LiDAR (Light Detection and Ranging)

แสงเลเซอร์จาก LiDAR อันตรายจริงหรือ?

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า LiDAR ทำงานอย่างไร เทคโนโลยีนี้ใช้การปล่อยแสงเลเซอร์ในช่วงความยาวคลื่นอินฟราเรดใกล้ (Near-Infrared) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีความปลอดภัยต่อสายตาและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการใช้งานระยะสั้น พลังงานที่ปล่อยออกมาก็ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน

คลื่นอินฟราเรดใกล้ (Near-Infrared)

นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน หรือรายงานที่น่าเชื่อถือในวงกว้างมายืนยันว่าการสัมผัสกับแสงเลเซอร์จากโมดูล LiDAR ในระยะเวลาสั้นๆ จะสามารถทำให้เซ็นเซอร์กล้องสมาร์ทโฟนเสียหายถาวรได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียหายหลายรายออกมาชี้ประเด็นให้ฉุดคิด ถึงกรณีที่คาดว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่สมาร์ทโฟนของพวกเขาพัง ดังต่อไปนี้

  • ความเข้มข้นเฉพาะจุด: แม้พลังงานโดยรวมของแสง LiDAR จะต่ำ แต่หากแสงเลเซอร์ถูกโฟกัสไปยังเซ็นเซอร์กล้องโดยตรงในระยะใกล้มากๆ และเป็นเวลานาน ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเซ็นเซอร์ที่บอบบางได้ 
  • ความแตกต่างของเซ็นเซอร์: กล้องสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นใช้เซ็นเซอร์ที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจมีความไวต่อแสงในช่วงคลื่นที่ต่างกัน ทำให้เซ็นเซอร์บางชนิดอาจมีความเปราะบางกว่า 
  • การรบกวนสัญญาณชั่วคราว: สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่าคือ แสงจาก LiDAR อาจรบกวนการทำงานของเซ็นเซอร์กล้องในขณะนั้น ทำให้เกิดภาพผิดเพี้ยน แสงรบกวน หรือสัญญาณแปลกปลอมในภาพถ่ายหรือวิดีโอ 

แสงเลเซอร์จาก LiDAR อันตรายจริงหรือ?

ข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ LiDAR

จากข้อมูลดังกล่าวก็ดูจะเป็นเหตุเป็นผลที่เข้าใจได้ ดังนั้นแล้วการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าเสมอ นี่คือข้อควรปฏิบัติง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณและสมาร์ทโฟนของคุณปลอดภัยจากลำแสงของ LiDAR

  • เลี่ยงการจ่อกล้องไปยังแหล่งกำเนิดแสง LiDAR โดยตรงในระยะใกล้เป็นเวลานาน: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทราบว่าอุปกรณ์นั้นกำลังทำงานอยู่
  • รักษาระยะห่างที่เหมาะสม: เมื่อต้องถ่ายภาพหรือวิดีโอรถยนต์ที่มีระบบ LiDAR หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ เว้นระยะห่างที่ปลอดภัย
  • ติดตามข่าวสารจากผู้ผลิต: หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของ LiDAR ต่อกล้องสมาร์ทโฟน ควรติดตามข้อมูลหรือคำแนะนำจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและผู้ผลิตระบบ LiDARโดยตรง

ข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ LiDAR

การใช้งานกล้องอย่างระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสง LiDAR โดยตรงในระยะใกล้เป็นเวลานาน ก็เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด หากมีข้อมูลหรือการศึกษาใหม่ๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้ เลดี้จะคอยติดตามและนำมาอัปเดตให้คุณทราบอย่างแน่นอนค่ะ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ