สิ่งที่จำเป็นต้องทำทันทีหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน แต่คุณไม่สามารถขยับรถหนีได้ทัน และสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดขณะน้ำท่วมรถ
ผ่อนหนักเป็นเบา เมื่อน้ำท่วมฉับพลันแต่รถขยับไม่ได้
จากประสบการณ์ตรงของการเป็นผู้ประสบภัย เลดี้บอกเลยนะว่าหน้าฝนยังไม่น่ากลัวเท่าน้ำหนุน เพราะว่าเวลาฝนตกน้ำจะขังตามถนนก็จริง แต่พอมันหยุดซักพักมันก็จะค่อยๆ ระบายลงเอง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเจอน้ำจากแม่น้ำหนุนเข้ามาประเดประดัง พร้อมๆ กันกับน้ำฝนละก็ เตรียมเงินไว้เลยถ้าคุณไม่มีประกัน เพราะคุณจะหนีไม่ทันแน่ๆ
สิ่งที่ควรทำทันทีเมื่อรู้ว่ารถเริ่มถูกน้ำท่วม
-
ย้ายรถไปที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากน้ำยังไม่มาถึงและมีเวลาเพียงเล็กน้อย ให้พยายามขับรถขึ้นไปบนเนิน ทางลาด หรือพื้นที่ที่สูงกว่ารอบข้าง แม้จะสูงได้ไม่มากก็ยังดีกว่าจอดอยู่บนพื้นราบ
-
ดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออกทันที หากเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ ให้รีบดับเครื่องทันทีและถอดกุญแจออกจากสวิตช์ เพื่อป้องกันการลัดวงจรในระบบไฟ
-
ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์เด็ดขาด หากน้ำท่วมถึงระดับท่อไอเสียหรือสูงกว่า และคุณพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์ น้ำจะถูกดูดเข้าไปในห้องเผาไหม้ ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างรุนแรง เช่น ก้านสูบคด ลูกสูบติด หรือเสื้อสูบแตก ซึ่งมีค่าซ่อมแพงมหาศาล
-
ปลดขั้วแบตเตอรี่ออก การถอดขั้วแบตเตอรี่โดยเฉพาะขั้วลบ (-) ออก จะช่วยตัดกระแสไฟฟ้าออกจากระบบทั้งหมด ลดความเสี่ยงที่ระบบไฟฟ้าจะลัดวงจร หรือเกิดความเสียหายต่อกล่องควบคุม (ECU) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ แต่หากระดับน้ำสูงเกินไปหรือไม่ปลอดภัยที่จะทำ ก็อย่าเสี่ยง
-
เปิดกระจกหรือประตู อาจฟังดูแปลกๆ แต่ในบางสถานการณ์ การปล่อยให้น้ำไหลเข้าสู่ห้องโดยสาร อาจช่วยลดแรงดันน้ำจากภายนอกไม่ให้ดันตัวถังรถจนเสียหาย และช่วยระบายน้ำออกได้เร็วขึ้นเมื่อน้ำลด (แต่ก็แลกมาด้วยการต้องทำความสะอาดภายในรถอย่างหนัก) วิธีนี้ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ
ข้อห้ามที่ไม่ควรทำโดยเด็ดขาด
- อย่าพยายามลุยน้ำ ถ้าไม่แน่ใจว่าระดับน้ำลึกขนาดไหน รวมถึงถ้าคุณไม่ใช่คนท้องที่ นอกจากจะไม่ชินทางแล้ว น้ำอาจทำให้ถนนเกิดความเสียหายและอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวคุณเองด้วย
- อย่าเพิ่งสตาร์ทเครื่องยนต์ขณะที่รถยังจมน้ำ หรือเพิ่งถูกน้ำท่วมในทันที เพราะจะทำให้น้ำเข้าระบบและทำให้เครื่องยนต์พังได้
ต้องตรวจสอบอะไรบ้างหลังน้ำลด
เนื่องจากเราไม่สามารถสตาร์ทรถได้เลยในทันที จึงต้องเรียกรถสไลด์ออนมาทำการเคลื่อนย้ายรถไปยังศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่ใช้บริการเป็นประจำ เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ประเมินความเสียหาย และดำเนินการซ่อมแซมอย่างถูกวิธี โดยที่ช่างจะทำการตรวจสอบระบบน้ำมัน ระบบไฟฟ้า และระบบเครื่องยนต์ทั้งหมด เพื่อทำความสะอาดและทำให้แห้งก่อนที่จะลองสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง
แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า ถึงแม้จะไม่เกิดความเสียหายมากก็ตาม แต่ก็ต้องถอดเบาะและอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาทำความสะอาดหมด ย้ำว่าต้องหมดจดจริงๆ นะ เพราะไม่อย่างนั้นสนิมถามหา อย่างแน่นอนค่ะ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น