ส.อ.ท.รายงานสถิติเดือนพฤษภาคม 2568 ผลิตรถยนต์ 139,186 คันผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในรอบ 21 เดือนที่ร้อยละ 10.32 ขาย 52,229 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.73 เป็นเดือนที่สองต่อจากเดือนเมษายน 2568 ส่งออก 81,071 คัน ลดลงร้อยละ 9.20 ส่วนตัวเลขการผลิตแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยตามมาตรการอุดหนุนของรัฐ
ส.อ.ท.จับตานโยบายทรัมป์-การสู้รบในตะวันออกลางระลอกใหม่กระทบส่งออกรถยนต์ไทย
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องจับตาการเจรจานโยบายการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐอเมริกาว่าจะเจรจาปรับลดลงมาได้หรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเดือนก.ค.นี้ ขณะเดียวกันยังต้องประเมินเรื่องการสู้รบระลอกใหม่ในตะวันออกกลางว่าจะยืดเยื้อหรือไม่ รวมไปถึงสถานการณ์ชายแดนไทยด้วย เพื่อประเมินเรื่องการส่งออกรถยนต์ของไทย
ส่วนในปีนี้คาดว่า ตัวเลขการผลิตรถยนต์จะเพิ่มขึ้น จากการผลิตชดเชยรถยนต์ไฟฟ้าตามมาตรการอีวี 3.5 ซึ่งจากตัวเลขผลิต-ตัวเลขขาย ก็น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ส.อ.ท.ได้วางไว้ หากไม่มีปัจจัยลบอื่นๆ ด้านโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ของกระทรวงการคลัง ต้องดูว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถกระบะ
สำหรับจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนพฤษภาคม 2568 ดังต่อไปนี้
ผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในรอบ 21 เดือน
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤษภาคม 2568 มีทั้งสิ้น 139,186 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2568 ร้อยละ 33.51 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 10.32 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในรอบ 21 เดือนจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV และ PHEV เพิ่มขึ้นร้อยละ 641.16 และ 130.49 ตามลำดับ ส่งผลให้การผลิตรถยนต์นั่งเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.88 รวมทั้งผลิตรถ PPV เพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 138.65
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 594,492 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ร้อยละ 7.82
ยอดขายเดือนพ.ค.จำนวน 52,229 คัน เพิ่มขึ้น
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤษภาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 52,229 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2568 ร้อยละ 10.67 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 4.73 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ต่อจากเดือนเมษายน 2568 จากการขายรถยนต์ไฟฟ้า BEV PHEV และรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในเพิ่มขึ้นร้อยละ 118.64 234.68 และ 3.19 ตามลำดับจากราคาที่จับต้องได้มากขึ้น
แต่ยอดขายรถกระบะยังคงลดลงร้อยละ 24.84 จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่ยังอ่อนแอจากการลงทุนภาคเอกชนที่ยังต่ำรวมทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้น อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงจากนักท่องเที่ยวจีนที่กังวลเรื่องความปลอดภัย กังวลเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่จะไม่ได้ใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้จากปัญหาการเมืองที่ขัดแย้งกันซึ่งจะซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศที่ทรุดอยู่แล้วทรุดลงมากขึ้นไปอีก
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 35,560 คัน เท่ากับร้อยละ 68.08 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 19.82
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 13,769 คัน เท่ากับร้อยละ 26.36 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 3.19
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 11,188 คัน เท่ากับร้อยละ 21.42 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 118.64
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 743 คัน เท่ากับร้อยละ 1.42 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 234.68
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 9,860 คัน เท่ากับร้อยละ 18.88 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 10.34
- รถกระบะมีจำนวน 11,148 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 24.84 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 86 ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 รถยนต์มียอดขาย 252,615 คัน ลดลงจากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 2.98

ส่งออกลดลง 9.20% จากการหยุดผลิตรถยนต์นั่งบางรุ่น
รถยนต์สำเร็จรูป เดือนพฤษภาคม 2568 ส่งออกได้ 81,071 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 23.34 แต่ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 9.20 ลดลงจากการหยุดผลิตรถยนต์นั่งบางรุ่นที่เลิกส่งออกไปสหรัฐอเมริกาและยุโรปจากการเข้มงวดเรื่องอุปกรณ์ช่วยเหลือในการขับ จึงไม่มีรถยนต์นั่งส่งออกไปในตลาดยุโรป แต่ส่งออกรถกระบะเพิ่มขึ้นตามจำนวนการผลิตรถกระบะส่งออกมากขึ้นในเดือนพฤษภา
และส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางด้วย รถยนต์ HEV ยังส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.48 การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยังคงมีความไม่แน่นอนทั้งภาษีนำเข้าของอเมริกา ความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัวลง
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 76,432.16 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 8.74 เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 371,272 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 13.65
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
- ส.อ.ท.แจงตัวเลขผลิต-ขายกระบะลดลงต่อเนื่องกว่า 2 ปี สะท้อนเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ
-
ส.อ.ท.เล็งปรับเป้าตัวเลขส่งออกรถยนต์ช่วงกลางปีนี้ คาดลดลงต่ำล้านคัน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น